สาวๆเช็คด่วน !!! 20 พฤติกรรมทำร้ายตัวเองแบบไม่รู้ตัว


ขอบคุณภาพจาก www.womenshealthmag.com

สวัสดียามดึกค่ะสาวๆ ถึงเราเปิดกระทู้ด้วยหัวข้อแบบ clickbait  
สาวๆก็อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะจ๊ะ มาเช็คลิสต์กันหน่อย ว่า เข้าข่ายพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทำร้ายตัวเองกันบ้างรึเปล่า
ท้งหมดนี้เราอ่าน หาข้อมุล และรวบรวม จากประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อนสาวรอบข้างหลายๆคน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนนะคะ  


1.“อั้นเอาไว้”....จนได้เรื่อง

CR. ภาพ www.creditonhand.com

     อั้นฉี่ เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่สาวๆอย่างเรามักหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะสาวๆที่อยู่ในกรุงเทพฯ คงต้องเคยเจอ สถานการณ์คับขัน
ปวดฉี่ ท่ามกลางการจลาจรที่คับคั่งกันบ้าง  หรือที่ชะนีก็อยากเป็นพนักงานดีเด่น คว้าต่ำแหน่ง น้องอั้นๆ งานไม่เพลาเราไม่ฉี ก็มีอยู่บ่อยๆ  
แต่สาวๆรู้หมือไร่ ว่าพฤติกรรมอั้นๆแบบนี้ นำไปสู่โรคต่างๆมากมาย ทั้ง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ / ติดเชื้อในกระแสเลือด / โลหิตพิการ
เพราะเลือกเป็นกรดจากการดูดซึมฉี่ย้อนกลับเข้าไป   / เป็นนิ่ว  และ กลิ่นตัวแรง เพราะของเสียถูกดูดซึมเข้าไปในเส้นเลือด
โอ้โห โรคเยอะขนาดนี้เลิกอั้นกันซะทีเนอะสาวๆ

2.กระชับทุกส่วนสัด เพราะมันรัดไปซะทุกส่วน

ภาพจาก thisfitsme.co

    ผู้หญิงกับเสื้อผ้าสวยๆเป็นของคู่กัน แต่พอกินจุ๊บจิ๊บจนเซลูไลท์เริ่มย้อย สาวๆก็เริ่มหันมาทำร้ายตัวเอง ด้วยชุดรัดกระชับสัดส่วน
เพราะคิดว่าจะช่วยเพิ่มความเป๊ะ !  และจัดระเบียบไขมันในร่างกาย  แต่เดี๋ยวก่อน !  เรามีประสบการณ์ตรงมาแบ่งปันเจ้าค่ะ
ด้วยความที่เป็นชะนีมีพุง เราจะมีสเตย์รัดหน้าท้อง ชุดกระชับสัดส่วน ตอนใส่พอจะดูดี
แต่พอนานๆไปนี่ซิ โอ้โห อาการปวดท้องมาเต็มมากกกกกกกก  จนไปอ่านข้อมูลเจอว่า
“แพทย์เตือน ชุดชั้นในแบบรัดกระชับสัดส่วน กดอวัยวะภายใน เสี่ยงกรดไหลย้อน ปวดท้อง กลั้นปัสสาวะยาก ขาชา รูขุมขนอักเสบ ”

“แพทย์เตือนว่าการใส่รัดในลักษณะที่กระชับเกินไป จะทำให้เกิดการเก็บกักลม อาหารไม่ย่อยและบวมน้ำได้ โดยในกรณีของการใส่สเตย์จะรัดหน้าท้อง ดันสิ่งที่อยู่ในท้องไปด้านหน้า เกิดปัญหาอาหารไม่ย่อยและปวดท้องอย่างรุนแรงจากการสวมเสื้อผ้าที่คับเกินไป ”   เท่านั้นแหละแก.....เราก็เลิกใส่สเตย์ไปเลย  จบปิ๊ง


3.“เตี้ยๆ” ...... ก็เพลียได้

    เราเคยเล่าไปในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ชีวิตชะนีจะดี๊ดีแค่ไหน ถ้าเลิกใส่ส้นสูง หรือใส่แต่พองาม
แต่สาวๆก็อย่ารีบวิ่งไปซื้อรองเท้าส้นเตี้ยมาใส่กันนะคะ เพราะอะไรที่ “แบน” เกินไปก็ใช่ว่าจะดี
ปัญหาจากการใส่รองเท้าส้นแบนนานๆ มากพอๆกับการใส่ส้นสูงเลยทีเดียวค่ะ มีทั้งตาปลา ปวดเมื่อยเท้า
เจ็บเท้า ปวดหลังหรือข้อ   ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าโครงสร้างเท้าของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองเท้าทั้งสองแบบ  
ดังนั้นหากสาวๆจะเลือกรองเท้าสักคู่ นอกจากความสวยงามถูกใจแล้ว อย่าลืมดูที่ส้นองเท้ามีความหนา
สักประมาณ 1 นิ้วนะคะ กลัวนึกภาพไม่ออก เราเอามาเทียบให้ดูเลยค่ะ








4.ล้าง Make up ไม่สะอาด


ภาพจาก www.mywomenstuff.com

  กลับมาเพลียๆ บางทีเราก็ลืมล้างเมคอัพแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนเลย หรือบางทีก็ล้างแบบพอผ่านๆ
ใครเป็นเหมือนเราบ้างยกมือ   สารภาพมาซะดีๆ  ผลเสียของการไม่ล้างเมคอัพก่อนเข้านอนทำให้สภาพผิวหน้าแย่ลง
ไม่ว่าจะเป็นผิวอุดตันจนสิวบุกในยามเช้า ตื่นมาพร้อมหน้าตาแห้งเหี่ยวไร้ความชุ่มชื้น หรือขนตาร่วง
เปราะบาง อ่อนแอยิ่งกว่าเดิม   หยุดทำร้ายตัวเองกันเถอะ  เพราะขนาดมู่หลานที่ว่าแน่ ชีก็ยังแพ้ฤทธิ์เมคอัพตกค้าง


5.ดูแล “น้องสาว” ดี๊ดี  แต่มันผิดวิธีนะจ๊ะ


ภาพจาก www.onenee.com

    ผู้หญิงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำความสะอาด “น้องสาว” ของเรา เพราะมักจะล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น
และสวนล้างช่องคลอดไปพร้อมกันด้วยน้ำยากำจัดกลิ่น เพราะเข้าใจผิดคิดว่าช่วยทำให้ช่องคลอดและน้องสาวสะอาดล้ำลึกมากขึ้น
แต่การดูแลที่เราคิดไปเองว่าดี๊ดี แบบนี้ ยิ่งทำให้มีกลิ่นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นนะ จะบอกให้    

เราไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม คุณหมอบอกว่า กลไกลธรรมชาติของร่างกายมีการดูแลน้องสาว ของเราดีอยู่แล้ว
มีฮอร์โมนเป็นตัวควบคุมให้มีการขับน้ำเมือกของเซลล์เยื่อบุช่องคลอดออกมาเป็นตกขาว ( หมายถึงตกขาวปกติ นะจ๊ะ)
ซึ่งภายในภาวะปกติจะมีแบคทีเรียชนิดที่เป็นประโยชน์ชื่อ Lactobacilli bacteria เปรียบเหมือนยามรักษาดูแลความปลอดภัยให้จิ๊มิ
คอยสร้างความเป็นกรดในช่องคลอดเพื่อปกป้องเชื้อโรคแปลกปลอมที่เล็ดลอดเข้าไปในช่องคลอดของเรา
หากสาวล้างมากๆบ่อยเกินไปและใช้น้ำยารุนแรง เชื้อLactobacilli bacteria ก็จะลดจำนวนลง ทำให้เกิดกลิ่นรุนแรงมากขึ้น
ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่าย เช่น HPVs อันเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและจากที่ไม่เคยมีตกขาวอาจมีมากขึ้น
สาวๆทราบแล้วเปลี่ยด่วนนนนนนนนนน


6.ผ้าอนามัย ซึมซับนานไป ไม่ใช่เรื่องดี

ภาพจาก women.thaiza.com

     มาต่อกันที่เรื่องของน้องสาวอีกเรื่อง ไม่นานมานี้ เราเปิดเจอข่าว ผู้หญิงชาวอังกฤษคนนึง  มีอาการช็อคอย่างเฉียบพลัน
จากการติดเชื้อของแบคทีเรีย ทำให้ระบบภายในร่างกายล้มเหลว  โดยมีสาเหตุมาจากการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดนานเกินไป  
ความคิดแรกที่เกิดขึ้นของเราคือ คุณพระ ! แค่ใส่ผ้าอนามัยนาน 12 ชั่วโมงก็อาจตายได้ เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นที่ใช้อยู่ เลยพบว่าความเข้าใจผิดๆ และความประหยัดของเรา ส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัยของ
จิ๊มิ อย่างร้ายแรง นั่นคือ ความเข้าใจที่ว่าเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 8 ชั่วโมง ( 12 ชั่วโมงยังตาย 8 ชั่วโมงนี่ใกล้ๆเลยนะแก)
เพราะผ้าอนามัยรุ่นใหม่ทำออกมาดีมากกกกกกก ไม่ห่อตัวไม่ซึมเปื้อน ไม่ว่าจะกระโดดโลดเต้นขนาดไหนก็ตาม

แต่ช้าก่อนนนนนนนนนนน      หลักการใช้ผ้าอนามัยที่ถูกคือต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้จุดซ่อนเร้นสะอาดไม่อับชื้น  
เวลาประจำเดือนไม่มา ก็ไม่ใช่ทั้งวันใช้ผ้าอนามัยแค่ชิ้นเดียวนะจ๊ะ (รุ้นะไม่แดงเดือดไม่เปลี่ยน) แม้วันนั้นของสาวๆประจำเดือนมาไม่เยอะ  
ก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยกันนะจ๊ะ  เพราะความอับชื้นจะทำให้แบคทีเรียเติบโตได้ดี จนอาจจะติดเชื้อในช่องคลอด ยิ่งถ้าสะสมไว้นานๆ
ขอบอกว่านี่ล่ะตัวการมะเร็งปากมดลูก  แถมให้อีกนิดเรื่องการเก็บผ้าอนามัย สาวๆหลายคนมักจะเก็บไว้ในห้องน้ำ
แม้จะเก็บในลิ้นชักมิดชิดแล้วก็ตาม ความชื้นสูงๆในห้องน้ำก็ยังเป็นแหล่งปาร์ตี้ชั้นดีให้เชื้อโรคได้ชวนกันมาเต้นรำ
ประหนึ่งผับดังกลาง RCA  เลยทีเดียว   เพื่อความปลอดภัยสาวๆย้ายผ้าอนามัย ไปเก็บไว้ที่แห้งๆ สะอาด จะดีกว่าจ๊ะ


7.ริมฝีปากแห้งเพราะน้ำลาย


ภาพจาก sites.google.com
ตามปกติแล้ว เมื่อคนเราริมฝีปากแห้งก็มักจะมีความเชื่อผิดๆคือการเลียริมฝีปาก เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
แต่เมื่อน้ำลายแห้ง มันจะดูดความชื้นจากริมฝีปาก ที่สำคัญคือ ในน้ำลายยังมีกรดอ่อนๆและเชื้อแบคทีเรีย
ที่จะทำให้ปากลอกและทำให้ริมฝีปากแห้งหนักกว่าเดิม เผลอๆริมฝีปากคล้ำแบบไม่รู้ตัวด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่