เตือนรัฐระวังตกหลุมพรางทีโอทีขอคงสิทธิ์ใช้คลื่น 900 เมกกะเฮิร์ตส (MHz) หวั่นประเทศสูญโอกาสพัฒนา 4 จีตามเทรนด์ของโลก แถมปิดกั้นหนทางฟื้นเศรษฐกิจนับแสนล้าน ชี้แม้ทีโอทีได้คลื่นไปก็ยากรักษาฐานลูกค้าที่เหลืออยู่แค่ 2.4 ล้านเอาไว้ได้
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยกรณีที่สหภาพรัฐวิสาหกิจบริษัททีโอทียื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อให้ระงับการประมูลเพื่อออกใบอนุญาต 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 MHz ของ กสทช.ว่า ถือเป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายของสหภาพทีโอที หลังก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กสทช.และกระทรวงไอซีทีเพื่อขอคงสิทธิ์การใช้คลื่น 900 MHz ต่อไป
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวกล่าวว่า ข้ออ้างของทีโอทีที่ระบุว่าหาก กสทช.นำคลื่นความถี่ 900 MHz ไปประมูลจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนทำให้รัฐเสียหาย เนื่องจากจะทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์โทรคมนาคมมูลค่านับแสนล้านบาทที่ทีโอทีได้รับมอบมาจากคู่สัญญานั้นด้อยค่าหากไม่ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่มาให้บริการ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วทีโอทีควรสำรวจตัวเองเช่นกันว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะนำคลื่นดังกล่าวไปให้บริการได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เคยอนุมัติคลื่นความถี่ 1900 MHz ให้ทีโอทีและแคทนำไปให้บริการมือถือระบบดิจิตอลมาก่อนใครแล้วแต่ก็ล้มเหลวแม้ภายหลังทีโอทีจะรับโอนคลื่นดังกล่าวมาให้บริการ 3 จีแต่การลงทุนยังคงล้มเหลวอยู่ดี
ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันรัฐได้ลงทุนไปกับโครงข่าย 3 จีทีโอทีแล้วกว่า 15,000 ล้านบาท แต่การให้บริการกลับล้มเหลว การขอคงสิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตสที่อ้างว่าเพื่อนำมาให้บริการและดูแลโครงข่าย 2 จีเดิมของทีโอทีนั้นก็คงหนีไม่พ้นที่จะเจริญรอยตามเดิม เพราะลูกค้า 2 จีระบบ 900 MHz ที่มีอยู่ในขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2.4 ล้านเลขหมายเท่านั้น และยังคงมีการทยอยปรับเปลี่ยนไปใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz ของเครือข่าย 3 จีของเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง
“แม้ทีโอทีจะได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าวไปก็ใช่ว่าจะสามารถให้บริการได้ทันที เพราะยังต้องมีการลงทุนระบบ CRM ระบบบิลลิ่งและระบบเชื่อมโยงต่างๆ อีกนับหมื่นล้านถึงจะให้บริการได้ ถึงเวลานั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะยังเหลือลูกค้าระบบ 2 จีอยู่เท่าไหร่หรือยังเลือกอยู่กับทีโอทีหรือไม่ เพราะหากลูกค้าระบบ 2 จีเหล่านี้รู้ว่าจะต้องถูกโอนไปอยู่ในความดูแลของทีโอทีก็เชื่อแน่ว่าส่วนใหญ่คงเลือกที่จะเปลี่ยนไปอยู่ค่ายอื่นกันหมดเพราะรู้ศักยภาพขององค์กรทีโอทีได้ดี”
นอกจากนี้หากรัฐบาลจัดสรรคลื่นความถี่ 900 MHz ให้แก่ทีโอทีไปอีก ไม่เพียงจะทำให้รัฐสูญโอกาสในการพัฒนาบริการโทรคมนาคมไทย สูญเสียโอกาสในการลงทุนด้านบริการพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทแล้ว ผลประโยชน์ที่รัฐควรจะได้รับจากการประมูลที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อใบอนุญาตก็คงสูญไปด้วย รวมทั้งการขยายการลงทุนที่จะมีตามมาอีกนับหมื่นล้านบาท เพราะศักยภาพของทีโอทีไม่สามารถลงทุนได้อยู่แล้ว”
เตือนรัฐระวังตกหลุมพรางทีโอทีขอคงสิทธิ์ใช้คลื่น 900 หวั่นประเทศสูญโอกาสพัฒนา 4 จี แถมปิดกั้นหนทางฟื้นเศรษฐกิจ
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยกรณีที่สหภาพรัฐวิสาหกิจบริษัททีโอทียื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อให้ระงับการประมูลเพื่อออกใบอนุญาต 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 MHz ของ กสทช.ว่า ถือเป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายของสหภาพทีโอที หลังก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กสทช.และกระทรวงไอซีทีเพื่อขอคงสิทธิ์การใช้คลื่น 900 MHz ต่อไป
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวกล่าวว่า ข้ออ้างของทีโอทีที่ระบุว่าหาก กสทช.นำคลื่นความถี่ 900 MHz ไปประมูลจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนทำให้รัฐเสียหาย เนื่องจากจะทำให้ทรัพย์สินและอุปกรณ์โทรคมนาคมมูลค่านับแสนล้านบาทที่ทีโอทีได้รับมอบมาจากคู่สัญญานั้นด้อยค่าหากไม่ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่มาให้บริการ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วทีโอทีควรสำรวจตัวเองเช่นกันว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะนำคลื่นดังกล่าวไปให้บริการได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เคยอนุมัติคลื่นความถี่ 1900 MHz ให้ทีโอทีและแคทนำไปให้บริการมือถือระบบดิจิตอลมาก่อนใครแล้วแต่ก็ล้มเหลวแม้ภายหลังทีโอทีจะรับโอนคลื่นดังกล่าวมาให้บริการ 3 จีแต่การลงทุนยังคงล้มเหลวอยู่ดี
ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันรัฐได้ลงทุนไปกับโครงข่าย 3 จีทีโอทีแล้วกว่า 15,000 ล้านบาท แต่การให้บริการกลับล้มเหลว การขอคงสิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตสที่อ้างว่าเพื่อนำมาให้บริการและดูแลโครงข่าย 2 จีเดิมของทีโอทีนั้นก็คงหนีไม่พ้นที่จะเจริญรอยตามเดิม เพราะลูกค้า 2 จีระบบ 900 MHz ที่มีอยู่ในขณะนี้เหลืออยู่เพียง 2.4 ล้านเลขหมายเท่านั้น และยังคงมีการทยอยปรับเปลี่ยนไปใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz ของเครือข่าย 3 จีของเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง
“แม้ทีโอทีจะได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าวไปก็ใช่ว่าจะสามารถให้บริการได้ทันที เพราะยังต้องมีการลงทุนระบบ CRM ระบบบิลลิ่งและระบบเชื่อมโยงต่างๆ อีกนับหมื่นล้านถึงจะให้บริการได้ ถึงเวลานั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะยังเหลือลูกค้าระบบ 2 จีอยู่เท่าไหร่หรือยังเลือกอยู่กับทีโอทีหรือไม่ เพราะหากลูกค้าระบบ 2 จีเหล่านี้รู้ว่าจะต้องถูกโอนไปอยู่ในความดูแลของทีโอทีก็เชื่อแน่ว่าส่วนใหญ่คงเลือกที่จะเปลี่ยนไปอยู่ค่ายอื่นกันหมดเพราะรู้ศักยภาพขององค์กรทีโอทีได้ดี”
นอกจากนี้หากรัฐบาลจัดสรรคลื่นความถี่ 900 MHz ให้แก่ทีโอทีไปอีก ไม่เพียงจะทำให้รัฐสูญโอกาสในการพัฒนาบริการโทรคมนาคมไทย สูญเสียโอกาสในการลงทุนด้านบริการพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทแล้ว ผลประโยชน์ที่รัฐควรจะได้รับจากการประมูลที่คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อใบอนุญาตก็คงสูญไปด้วย รวมทั้งการขยายการลงทุนที่จะมีตามมาอีกนับหมื่นล้านบาท เพราะศักยภาพของทีโอทีไม่สามารถลงทุนได้อยู่แล้ว”