ให้ 7/10 หนัง Drama-Crime ของประเทศยูเครน เรื่องราวของเด็กหนุ่ม นักเรียนใหม่ที่พยายามปรับตัวให้อยู่รอดในสังคมด้านมืดของโรงเรียนประจำสำหรับคนหูหนวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาหรือการค้าประเวณี โดย The Tribe ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายทั่วโลกถึง 24 รางวัล รวมไปถึง Cannes Film Festival 2014
ความพิเศษของ The Tribe คือ
1. หนังทั้งเรื่องเงียบ ไม่มีบทพูดเลยและไม่ได้ยินเสียงคนพูดเลย...มีแต่ภาษามือ
2. หนังเรื่องนี้ไม่มีซับไตเติ้ลแปลภาษามือที่ตัวละครคุยกัน
3. นักแสดงทุกคนเป็นคนหูหนวกจริงๆ ซึ่งแม้กระทั่งตัวผู้กำกับเองก็ยังต้องใช้ล่ามในการสื่อสารกับตัวนักแสดง
4. ภาษามือแต่ละประเทศมีการใช้ภาษาท่าทางที่ต่างกัน โดยในหนังเรื่องนี้ใช้ภาษามือของประเทศยูเครน ซึ่งคนยุโรปที่เป็นคนหูหนวก 70% สามารถเข้าใจได้
จะว่าไปการที่เราไม่ต้องรับรู้ผ่านโสตประสาทการได้ยินก็ดีเหมือนกัน เพราะเราจะโฟกัสกับการรับรู้ผ่านการมองเห็นได้อย่างเต็มที่ มีสมาธิอย่างจริงจัง ทำให้เราดำดิ่งลงสู่หนังได้อย่างง่ายดายเลยหละ และพบว่าบางทีความเงียบมันก็ดีงามเหมือนกัน
โดยทั่วไปในระหว่างที่คนหูหนวกดูหนังไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม พวกเขาก็คงจะไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ยินเสียงพูดบทสนทนา คงรับรู้ได้แต่การแสดงออกทางสีหน้า แววตา และท่าทาง ซึ่งในทางกลับกันก็คงจะเป็นความตั้งใจของตัวผู้กำกับที่จะลองสื่อออกมาให้คนปกติรับรู้ถึงสิ่งที่คนหูหนวกได้สัมผัสและเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาบ้าง ซึ่งถือว่าเจ๋งและแสบพอตัวเลย
เพราะแค่ต้นไอเดียที่ว่าหนักหน่วงแล้ว เนื้อหาในตัวเนื้อเรื่องยิ่งหนักหน่วงเข้าไปใหญ่ ให้ความรู้สึกค่อนข้างคลุมเครือและอึดอัดพอสมควร ใครจะไปเคยคิดว่าในโลกของคนพิการทางหู ก็มีมุมด้านนี้อยู่ด้วย แถมบางคนยังพิการซ้ำซ้อน ขนาดคนหูหนวกด้วยกันเองก็ยังดูถูกดูแคลน
แค่การไม่ได้ยิน ทำให้พวกเขาขาดโอกาสอะไรหลายๆอย่างไปในสังคม และแสดงความคับข้องใจออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถ้ามองดีๆแล้วทุกคนต่างก็ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ซึ่งก็น่าเห็นใจนะว่าทำไมคนในสังคมเราถึงต้องทำให้พวกเขาแตกแยกแตกต่างออกไปจากพวกเราที่เป็นคนปกติ ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากพวกเราเลย มีเพียงแต่ความเงียบที่อาจจะเป็นภัยต่อพวกเขาเท่านั้นเอง คำว่า “โอกาส” จึงน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเขาในสังคม
หนังเรื่องนี้จึงอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนโลกสวย หรือคนที่รองรับแรงกดดันได้ค่อนข้างต่ำสักเท่าไหร่นัก เพราะทุกจังหวะที่หนังเดินก้าวไปมีแต่จะหนักหน่วงขึ้นทุกทีๆ ในบางฉากแช่นานจนรู้สึกว่านี่อาจจะเกินไปสำหรับความรู้สึกของลูกผู้หญิง อยากให้โมเม้นท์นั้นผ่านไปอย่างเร็วๆ ในหลายๆฉากมันก็ดูจริงเสียเหลือเกิน และสำหรับคนที่คาดหวังจะไปดูฉากฟีทเจอริ่ง ขอเกริ่นไว้ก่อนว่ามีเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น และหนังนำเสนอออกมาในมุมที่ดูไม่โป๊และไม่ประเจิดประเจ้อ เห็นก็เหมือนไม่เห็นค่ะ
ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
[CR] รีวิวหนังเรื่อง The Tribe
ความพิเศษของ The Tribe คือ
1. หนังทั้งเรื่องเงียบ ไม่มีบทพูดเลยและไม่ได้ยินเสียงคนพูดเลย...มีแต่ภาษามือ
2. หนังเรื่องนี้ไม่มีซับไตเติ้ลแปลภาษามือที่ตัวละครคุยกัน
3. นักแสดงทุกคนเป็นคนหูหนวกจริงๆ ซึ่งแม้กระทั่งตัวผู้กำกับเองก็ยังต้องใช้ล่ามในการสื่อสารกับตัวนักแสดง
4. ภาษามือแต่ละประเทศมีการใช้ภาษาท่าทางที่ต่างกัน โดยในหนังเรื่องนี้ใช้ภาษามือของประเทศยูเครน ซึ่งคนยุโรปที่เป็นคนหูหนวก 70% สามารถเข้าใจได้
จะว่าไปการที่เราไม่ต้องรับรู้ผ่านโสตประสาทการได้ยินก็ดีเหมือนกัน เพราะเราจะโฟกัสกับการรับรู้ผ่านการมองเห็นได้อย่างเต็มที่ มีสมาธิอย่างจริงจัง ทำให้เราดำดิ่งลงสู่หนังได้อย่างง่ายดายเลยหละ และพบว่าบางทีความเงียบมันก็ดีงามเหมือนกัน
โดยทั่วไปในระหว่างที่คนหูหนวกดูหนังไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม พวกเขาก็คงจะไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ยินเสียงพูดบทสนทนา คงรับรู้ได้แต่การแสดงออกทางสีหน้า แววตา และท่าทาง ซึ่งในทางกลับกันก็คงจะเป็นความตั้งใจของตัวผู้กำกับที่จะลองสื่อออกมาให้คนปกติรับรู้ถึงสิ่งที่คนหูหนวกได้สัมผัสและเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาบ้าง ซึ่งถือว่าเจ๋งและแสบพอตัวเลย
เพราะแค่ต้นไอเดียที่ว่าหนักหน่วงแล้ว เนื้อหาในตัวเนื้อเรื่องยิ่งหนักหน่วงเข้าไปใหญ่ ให้ความรู้สึกค่อนข้างคลุมเครือและอึดอัดพอสมควร ใครจะไปเคยคิดว่าในโลกของคนพิการทางหู ก็มีมุมด้านนี้อยู่ด้วย แถมบางคนยังพิการซ้ำซ้อน ขนาดคนหูหนวกด้วยกันเองก็ยังดูถูกดูแคลน
แค่การไม่ได้ยิน ทำให้พวกเขาขาดโอกาสอะไรหลายๆอย่างไปในสังคม และแสดงความคับข้องใจออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถ้ามองดีๆแล้วทุกคนต่างก็ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ซึ่งก็น่าเห็นใจนะว่าทำไมคนในสังคมเราถึงต้องทำให้พวกเขาแตกแยกแตกต่างออกไปจากพวกเราที่เป็นคนปกติ ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากพวกเราเลย มีเพียงแต่ความเงียบที่อาจจะเป็นภัยต่อพวกเขาเท่านั้นเอง คำว่า “โอกาส” จึงน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเขาในสังคม
หนังเรื่องนี้จึงอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนโลกสวย หรือคนที่รองรับแรงกดดันได้ค่อนข้างต่ำสักเท่าไหร่นัก เพราะทุกจังหวะที่หนังเดินก้าวไปมีแต่จะหนักหน่วงขึ้นทุกทีๆ ในบางฉากแช่นานจนรู้สึกว่านี่อาจจะเกินไปสำหรับความรู้สึกของลูกผู้หญิง อยากให้โมเม้นท์นั้นผ่านไปอย่างเร็วๆ ในหลายๆฉากมันก็ดูจริงเสียเหลือเกิน และสำหรับคนที่คาดหวังจะไปดูฉากฟีทเจอริ่ง ขอเกริ่นไว้ก่อนว่ามีเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น และหนังนำเสนอออกมาในมุมที่ดูไม่โป๊และไม่ประเจิดประเจ้อ เห็นก็เหมือนไม่เห็นค่ะ
ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker