วันนี้เป็นวันที่ฝนตกแต่เช้า ผมออกจากบ้าน 7 โมงกว่าๆ เพื่อไปให้ทันนัดล้อหมุนของคณะปั่นวันเสาร์ที่มหาวิทยาลัยบางมด กว่าจะถึงก็ล่อเข้าไป 8 โมงเกือบครึ่งเลยครับ ระยะทางจากบ้านไปก็ประมาณ 15 กิโล ปั่นแบบกระดิ๊บๆไป (เห็นขาแรงแล้วอิจฉา ) แต่โชคเข้าข้างผมเพราะทุกคนยังรออยู่ถามได้ความว่า "ฝนเริ่มตก" ขอดูท่าทีก่อน แบบนี้ก็ต้องซัดกาแฟสัก2ช๊อตก่อนไป  


สั่งทั้งกาแฟ และ แซนด์วิช ทูน่า มือเช้าใส่ท้องมาน้อยมาก

นั่งเพลินๆทางทีมงานบอกให้เตรียมตัวผมกระดกพรวดหมดจอกกำลังลุกขึ้นจัดแจังสัมภาระ ได้ยินอีกทีทริปวันนี้ต้องยกเลิกเพราะอาจไม่ปลอดภัยถนนลื่นและฝนมีทีท่าไม่เบาลงสักนิด แบบนี้ก็นั่งลงที่เดิมสิครับแต่สั่งของเพิ่ม



สั่งนมสดร้อนๆมาทานให้อุ่นขึ้นไม่รู้ว่าฝนจะหยุดตกเมื่อไหร่เหมือนกัน รอแล้วรอเล่าฝนก็ไม่หยุดถ้าลงแหมะๆจะกลับบ้านละ คิดว่ามาทานมือเช้าที่นี่ละกัน

สัก 10 โมงได้ครับฝนยังตกอยู่แต่เม็ดไม่ใหญ่มากก็กระดิ๊บๆกลับบ้าน แต่พอใกล้ถึงบ้านใจอีกด้านหนึ่งบอกว่าไหนๆก็ออกมาแล้ว วันนี้เอาสัก 120 โลเลยดีกว่าทำลายสถิติเก่าไปด้วย ออกเช้าแบบนี้มีเวลาทั้งวันเพื่อให้ทริปนี้เป็นไปตามที่ตั้งใจเป้าหมายแรกต้องที่ Coffee House ระหว่างปั่นไปเรื่อยๆฝนที่ตกจากด้านบนไม่เท่าไหร่ครับ แต่น้ำที่ขัง + กับรถที่วิ่งแซงผ่านไปแหมๆๆๆๆๆๆๆ ... ก็เข้าใจว่ารีบกันทุกท่าน



มาถึงร้านตอนประมาณ 12.00 ก็จัดแจงวางของทั้งหมด ให้อยู่ในสภาพผ่อนคลายเพราะได้เวลากินแล้ว


สั่งโยเกิร์ตสมูตตี้มาก่อน ให้หายเหนื่อยดูดเฮือกเข้าไป โหยยยยยยยยยย ไปลองกันเองครับ  อีกเมนูที่สั่งไปคือ สปาเกตตี้ทูน่า  น้องพนักงานร้านเดินมาถามว่า "พี่คะ เส้นสปาเกตตี้ไม่พร้อมรอนานหน่อยนะคะ เปลี่ยนเป็นเมนูอื่นดีมั้ยค่ะ อาจต้องรอ 15 นาที"   ผมก็เลยตอบไปว่าไม่เป็นไรพี่มีเวลาทั้งวัน ดูสิฝนยังไม่หยุดตกเลย 555 พี่จะไปไหนได้




ผมว่าอร่อยเลิศนะ แต่เชื่อผมมากไม่ได้เพราะหลายคนบอกผมลิ้นจระเข้น้อยมากที่จะบอกว่าไม่อร่อย



บรรยากาศร้านจะถูกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ และต้นโกงกางจำนวนมากมีที่นั่งเยอะครับแต่ผมเอามาฝากรูปเดียวยากให้เพื่อนๆได้เห็นต้นไม้หลังฝนตกมันชุ่มชื่นจริงๆ ทานเสร็จแล้วความคิดว่าจะกลับบ้านก็ตื่นขึ้นมาอีกรอบ ดูท่าแล้วฝนจะไม่หยุดถึงไปต่อก็คงลำบากปั่นออกมาได้ 3 กิโลจนถึงทางแยก (ที่มีรูปปั้นปูตัวใหญ่) ฝนเริ่มหยุดแฮะแบบนี้คุณได้ไปต่อครับ  

ผมปั่นไปเรื่อยๆ จนมาถึงทางที่จะเข้าบ้านประมงเลยตัดสินใจเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยเพราะตั้งใจจะเปิดแผนที่ใหม่ (เคยเล่นเกม red alert มะแบบนั้นแหละ) สำรวจพื้นที่ที่ยังไม่เคยไปและอีกอย่างเก็บระยะทางให้ได้ตามที่ตั้งใจด้วย ปั่นเข้าไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บอกเลยว่ามั่วสุดๆ ครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าเข้าได้ ผมก็เข้าไปแต่เข้าไปแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรครับ ได้แต่จอดรถไว้แล้วถ่ายรูปมา 2-3 ใบ


เจอเรือสีสันสะดุดตาเลยเก็บมาสัก 1 แชะ แต่กว่าจะได้รูปนี้ผมรอน้องนกอยู่นานอยากได้สีขาวแต่เอาวะ สีดำก็ยังดี


และนี้คือพระเอกของผม Merida 100  อย่าเพิ่งดูรถเปื้อนโคลนครับสังเกตุด้านหน้าเหมือนมีศาลาและทางเดินที่สามารถเข้าไปได้อยู่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตรงนั้นยังไงว่ายน้ำก็ไม่เป็น จะเข็นรถข้ามไปก็ไม่ไหวจึงหันไปถามคนแถวนั้นได้ความว่าต้องไปอีกทางหนึ่งพอได้ลายแทงแล้วก็ออกเดินทางทันที



ที่นี่คือ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ซึ่งผมอยู่เทียนทะเลมานานแต่ก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย


ลุยเข้าไปเลยครับทางเดินจะทอดยาวไปเป็นคอนกรีตซึ่งผมไปหาข้อมูลเก่าๆดูแล้วเมื่อก่อนยังไม่ร่มรื่นขนาดนี้ แสดงว่าที่ผ่านมามีคนแวะเวียนกันมาช่วยกันปลูกเพิ่มและดูแลตลอด



พ้นป่าโกงกางออกมาก็จะเจอวิวนี้เลยเหมือนตอนเห็นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผมหยุดและหันไปดูรอบว่ามีส่วนไหนที่น่าสนใจบ้าง


ต้นไม้ที่หลายๆคนมาช่วยกันปลูกกำลังโตวันโตคืน


มองออกไปมีพื้นที่อีกเยอะเลยครับที่สามารถปลูกเพิ่มเติมได้อีก ถ้าเต็มพื้นที่นี้คงร่มรื่นน่าดูรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ไม่เสียดายที่ลุยหน้าต่อถ้าหันหลังกลับบ้านแล้วคงไม่เจอที่ดีๆ แบบนี้ (ปกติปั่นคนเดียวไม่ค่อยมีแผน หลังจากนี้คงต้องปักหมุดหาที่น่าสนๆ แถวบางขุนเทียน-ชายทะเล เก็บให้หมด)



สถานนี้จะเดินไปให้สุดเลยก็ได้ครับแต่จะสังเกตุเห็นไม้กั้นไว้นั่นแหละครับผมเข้าใจว่าเค้าคงไม่ได้อยากให้ผ่านเข้าไป งั้นก็ขอเอารถพิงแล้วถ่ายสักแชะนะครับ



จุดที่ผมยืนอยู่น่าจะเป็นจุดสังเกตุการณ์ สามารถเห็นด้านล่างได้หมดเลยแถวแบบพาโนรามามาฝาก วันหน้าผมจะมาซ่อมสักรอบจะติด DSLR กับเลนส์มาให้พร้อม ได้เวลาไปต่อแล้ว ระหว่างทางออกผมจำได้ว่าเห็นป้ายที่บอกทางไปหาตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ คิดว่าจะไปไหว้และบนบานท่านสักครั้ง ( ผมเองจบมาจากสถาบันวิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์)



ปั่นมั่วไปมั่วมาออกมาเจอวัดสหกรณ์ที่นี่กำลังสร้างอุโบสถใหม่


จากหน้าวัดปั่นมาเรื่อยๆ ตรงอย่างเดียวก็จะพบกับ ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พร้อมแล้วเข้าไปกันเลยครับ


ก่อนเข้าจะพบกับรูปปั้นปืนใหญ่ที่ถูกคลุมไปด้วยรากไม้ดูแล้วก็ทำให้สงสัยว่าอะไรเกิดก่อนหลังระหว่างต้นไม้หรือรูปปั้นปืนใหญ่


พร้อมแล้วเข้าไปเลยครับ



ถ้าจะบนบานท่านฝั่งคลิปนี้ก่อนครับ


กลับละครับตอนนี้ได้อยู่ 88.36km ขากลับก็ปั่นไปเรื่อยๆ ความเร็ว 23km/h รอบขา 78 หัวใจเต้น 154  ถ้าขึ้นเกียร์หนักหัวใจพุ่งไป 160 กว่าเลยครับ ผมพยายามฝึกอยู่ให้อยู่ใน Zone2 - Zone3 รอบขา 80  ครั้งแรกที่ปั่นเดือนมิถุนายน 2558 ตอนนั้นน้ำหนัก 82kg ตอนนี้น้ำหนัก 74kg มีแนวโน้มจะลงต่อตั้งใจไว้ว่าสัก 1 ปีหัวใจจะเต้นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น



ขากลับแวะป้ายสุดท้ายที่ ร้านสุดเขต สั่ง Blue Soda และ ไข่กระทะ อิ่มหนำแล้วก็ขับกลับบ้าน


รู้ตัวอีกทีก็ปั้นไปแล้ว 100 กิโลพอดีวันนี้สนุกมากครับไม่ค่อยไปไหนเป็นกลุ่มสักเท่าไหร่ เดี่ยวนี้เลยต้องเตรียมพร้อมทั้งที่ปะยางที่สูบยางและยางอะไหล่ไปด้วยทุกครั้ง จากทำไม่เป็นจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทริปนี้ก็เอา Power Bank ไปด้วยถ่ายเล่น Chat ตอนฝนตกแล้วก็ Bluetooth เชื่อมต่อกับ UP ตลอดเวลา (up คือตัววัด step การเดิน วันนี้นับไป 30,000 ก้าว)  โปรแกรมที่ผมใช้จับระยะทางคือ Strava ครับเพื่อนคนไหนใช้อยู่ทักกันเข้าบ้างนะครับ  https://www.strava.com/athletes/9934451  

ข้อมูลเพิ่มเติม
รูปทั้งหมดใช้กล้อง iPhone 6  
โปรแกรมปรับแสงสีใช้ Snapseed  (ส่วนใหญ่ใช้ปรับให้แสงเพิ่มและใส่ Drama ให้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าครับ)

ครั้งหน้าว่าจะลอง 120 โลแต่อาจต้องรอให้หมดหน้าฝนก่อนมือใหม่หัดปั่นฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ