การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง Infrastructure Networking ของประเทศ เป็นเรื่องระดับชาติ เพราะต้องใช้งบมหาศาลทำในเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ด้าน Network ไอที
จะต้องลงทุนสร้างเมนเฟรมเซิร์พเวอร์ที่ใหญ่มากๆ ใช้พื้นที่มากกกว่า 10 สนามฟุตบอลในการติดตั้งเมนเฟรม เพื่อบริหารจัดการ Big Data และผู้ดูแลระบบจะต้องมีความรู้เฉพาะทางสูงมาก จะต้องมีความรู้ระดับเทียบเท่าหน่วยงานไอทีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือบุคคลากรด้านไอทีของจีนที่รัฐบาลทุ่มงบมหาศาลปั้นบุคลากรด้านไอทีเรื่องนี้มาโดยเฉพาะมาดูแล เพราะการจราจรข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตของประเทศไทยในยุคปัจจุบันเป็น Big Data ที่ใหญ่มาก
Single Gateway จะต้องมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องเข้าออกสูงมาก

ความเสี่ยงของโครงการนี้
-Single Gateway ถ้าล่ม การทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ เช่น i-Baking อาจเกิดความเสียหาย อย่างมาก กระทบเศรษฐกิจการลงทุนโดยตรง
-ถ้าผู้ดูแลไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ดักจับข้อมูลด้านการเงินและข้อมูลลับของธุรกิจเอกชนไปเอื้อประโยชน์ต่อคนบางกลุ่มได้ เกิดการทุจจริตด้านข้อมูลสารสนเทศที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหนัก
-นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในเข้ามาลงทุนในประเทศ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ออนไลน์ เสี่ยงต่อการดักจับข้อมูลความลับของบริษัทได้ง่ายขึ้น เพราะ Single Gateway ถูก Hacker ชี้เป้าไปที่จุดเดียว
-ต้องใช้งบประมาณสูงมากหลังจากลงทุนครั้งแรกไปแล้ว ต้องมีงบสำรองค่าใช้จ่ายพ่วงแฝงที่สูงมาก อาทิเช่น ค่าดูแลระบบ ค่าจ้างคนดูแล ค่าอุปกรณ์ อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน Multi Gateway มีการสำเนาเก็บ Log ข้อมูลจราจร และควบคุมดูแลตรวจสอบได้อยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้ถ้าเพียงแค่ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่กับการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์

จุดประสงค์หลักของบางประเทศที่ใช้ Single Gateway คือประเทศที่ต้องการควบคุมจำกัดสิทธิของประชาชนส่วนใหญ่บังคับไม่ให้มีการคิดต่างจากนโยบายรัฐบาล

สหรัฐอเมริกา เป็นแบบ Multi Gateway แต่หน่วยงานไอที ไม่ว่าจะเป็นกลาโหม FBI CIA จะใช้การแกะรอย Tracker ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะทำผิดที่ไหนอย่างไร ออก Gateway ตัวไหน ถ้าผ่าน Multi Gateway ของสหรัฐ เขาสามารถตรวจสอบแกะรอยได้หมด ไม่ว่าจะหนีข้ามโลกไปไหน ถ้า User ออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต เค้าตามล่าหาเจอหมด

ประเทศไทย คือ ประเทศเสรีประชาธิปไตย
กราบ....นายก รับฟังประชาชน