Character Analysis : ชายสองคน สองเส้นทาง ต่างวาระ หนึ่งจุดหมาย : เหออี่เฉิน 【My Sunshine】เขมชาติ 【อย่าลืมฉัน】Spoiled

** ย้ำอีกครั้ง ... สปอยด์หนักมาก **




ชายสองคนจากสองฝั่งประเทศ เผชิญการจากลาจากหญิงอันเป็นที่รักอย่างไม่คาดฝัน
ฝั่งหนึ่งจากไปอย่างไร้คำลา อีกฝั่งหนึ่งแม้มีคำลาแต่ก็เหมือนไม่มี
โม่เฉิง คือ สาวน้อยยิ้มแฉ่งแข่งตะวันของ อี่เฉิน ก้อนน้ำแข็งพันปี ทนายหนุ่มเมืองเซี่ยงไฮ้
สุริยาวดี คือ ดวงอาทิตย์ ในหัวใจของ เขมชาติ ผู้บริหารเจ้าอารมณ์ ณ เมืองหลวงของประเทศไทย
เมื่อสาวน้อยผู้เป็นดังดอกไม้บานฤดูร้อน กับ หญิงสาวที่อบอุ่นดังแสงตะวันก่อน ได้หายไปจากชีวิต
เรื่องราวทั้งหลายจึงได้บังเกิด และ สะท้อนเส้นทางของชายทั้งสองคนที่มีหนึ่งจุดหมายเดียวคือ
"การนำความรักกลับคืน"


ซึ่งทั้งคู่ ... ต่างมีอะไรที่เป็นเงาสะท้อนของกันและกันอยู่หลายส่วน


Background VS Background

เหออี่เฉินพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย จึงต้องอาศัยอยู่กับคุณน้าผู้ชาย และ คุณน้าผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนรักของครอบครัวตน ดูแลจนเติบใหญ่ และ เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในคณะนิติศาสตร์ในเวลาถัดมา จริง ๆ แล้วฐานะทางครอบครัวก็ไม่ได้จนยากหรือแร้นแค้นอะไร หากเจ้าตัวก็คิดอยู่เสมอว่าไม่อยากรบกวนคุณน้าทั้งสองที่เป็นเหมือนพ่อแม่แท้ ๆ อย่างไรตัวเองก็เป็นคนนอก ทำให้ตลอดเวลาของเหออี่เฉินคือการควบคุมตัวเองอย่างเข้มงวด ทำงานพิเศษ เก็บออมทุกอย่าง เพื่อจะพึ่งพาตัวเองให้ได้ อี่เฉินจึงเป็นคนที่สุขุมเกินวัย ประกอบกับเป็นคนหัวดีจึงมีความโดดเด่นมากกว่าใครในรุ่นไม่ว่าจะเรื่องไหน ๆ และ เจ้าตัวเองก็คิดว่าคงไม่มีเวลาจะเสียไปกับการเที่ยวเล่น ซึ่งรวมถึง "ความรัก" จนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัย ดังนั้นในเรื่องความลำบากกายสำหรับอี่เฉินก็คงไม่เท่าไหร่ อย่างน้อยก็มี "ครอบครัว" เป็นหลักทางเศรษฐกิจได้บ้าง นอกจากนั้นการเรียนดีก็ทำให้ได้ทุน ชีวิตก็ไม่อัตคัตขัดสน เว้นแต่ ความว่างเปล่าทางใจ

เมื่อตั้งปณิธานและจุดมุ่งหมายไว้เช่นนั้น ประกอบกับใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ นิสัยมุ่งมั่น พึ่งพาและจัดการตนเองได้ จึงไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งด้วย ไม่ใช่เพราะคนรอบตัวปราศจากความห่วงใย แต่คิดเอาว่าการเข้าไปวุ่นวายจัดการสิ่งต่าง ๆ น่าจะทำให้อี่เฉินเกิดความรำคาญมากกว่า คนนิสัยอย่างนี้น่าจะต้องการบริหารจัดการ จัดระบบในชีวิตด้วยตนเองมากกว่าให้ใครเข้ามาเกี่ยวข้อง ปล่อยให้มีอิสระในการเลือกเป้าหมายตามใจ และ ให้การสนับสนุนด้วยการมองอยู่ห่าง ๆ หรือ ส่งเสริมบางเรื่องหากมีการร้องขอก็น่าจะเพียงพอ หากมนุษย์ก็คือมนุษย์ ... ใครบ้างเล่าสามารถเติมเต็มชีวิตได้ด้วยตัวคนเดียว และ สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้ conflict ในชีวิตของอี่เฉินได้เริ่มต้น

เขมชาติคือนักศึกษามหาวิทยาลัยหนุ่มหล่อ ชีวิตเริ่มต้นอย่างวัยรุ่นโดยทั่วไป ฐานะทางบ้านปานกลางค่อนไปทางต่ำ ไม่ถือว่าดีแต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่ ชีวิตของเขาเบิกบานอย่างยิ่งในรั้วมหาวิทยาลัย การเรียน และ กิจกรรมต่าง ๆ มีอยู่ไม่เว้นว่าง ทั้งกีฬา การออกค่าย ชีวิตวัยรุ่นก็เอาให้คุ้ม เขมชาติไม่ได้พลาดอะไรแม้ซักอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ... ความรัก ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างกาย และ ข้างใจ ในยามสุขแบบชีวิตของวัยรุ่น teenage ธรรมดา และ ยามทุกข์เมื่อพ่อและแม่ได้เสียชีวิตไปในเวลาใกล้ ๆ กัน เธอคนนั้นก็ยังอยู่ เรียกว่าอาจจะลำบากกายสักหน่อย แต่ไม่ลำบากใจเท่าใดนัก

แต่แล้วด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฎ เขมชาติที่เสียหลักทางใจและหลักทางกาย ได้แก่ พ่อแม่ ไป ทิ้งช่วงไม่เท่าไหร่ หลักทางใจอย่างเดียวที่เหลืออยู่ก็หายวับไปกับตา เมื่อความลำบากทางกายใจโถมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ประมาณฟ้าผ่าในวันฟ้าใส ใครบ้างเล่าจะทานทนได้ ความเปลี่ยนเปลง และ conflict ของชีวิตเขมชาติจึงได้เริ่มต้นนับแต่นั้น

สองทางที่แตกต่าง

สำหรับอี่เฉินแล้ว conflict ของเขาเริ่มต้นนับแต่วันที่โม่เฉิง ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มราวดอกไม้ผลิบาน สดใสดังแสงตะวัน และ เย็นฉ่ำเหมือนลมฤดูใบไม้ผลิ ได้ผ่านเข้ามาในชีวิต ผู้หญิงหนึ่งในหลายคนที่เดินตามเขาต้อย ๆ ใช่ ... ก็คือ "โดนผู้หญิงจีบ" นั่นแหละ ไม่เคยมีใครแม้แต่ซักคนที่คิดว่าโม่เฉิงคือตัวเลือกที่เหมาะสม กระทั่งโม่เฉิงเองก็ไม่คิด จะมีแต่อี่เฉิน ... เจ้าตัวนั่นแหละ ที่รู้ แน่ใจ และ เข้าใจเหตุผลอย่างดีเลยว่าปณิธานการไม่มีแฟนในมหาวิทยาลัย ความสุขุม ความหลักแหลม ความเป็นผู้ใหญ่ มันพังลงไปในพริบตาเพราะเหตุใด

มนุษย์ที่ไหนเล่าที่สามารถอยู่ได้ด้วยตนคนเดียว ต้นไม้ที่ไหน(แม้แต่กระบองเพชร)จะไม่แคระเกร็นหากขาดการรดน้ำพรวนดิน ใคร ๆ ก็คิดว่าอย่าไปวุ่นวายวึ่นวือกับอี่เฉินได้จะดีที่สุด หากแม้แต่คนที่เข็มแข็งพึ่งพาได้ก็ต้องการเอาใจใส่ แล้วมีใครรับมืออี่เฉินได้บ้างล่ะ ... ก็ไม่มี๊ นอกจากโม่เฉิงเท่านั้น กลยุทธ์ของโม่เฉิงก็ไม่ได้มีอะไรมาก มันก็คือความเป็น "โม่เฉิง" แล้วจบ ฟูลสต็อป ผู้หญิงที่ไม่มีเล่ห์กลมารยา ผู้หญิงที่มีน้ำใจกว้างขวาง มองโลกในแง่ดีกับคนทั่วไป ใครบางคนที่เดินเคียงกันไป โดยที่จะรักและดูแลเขา และ พร้อมให้เขารักและดูแล

จากการทะเลาะครั้งใหญ่เพียงหนึ่งครั้ง สิ่งเหล่านี้ที่มาเติมเต็มได้ขาดหายไป เธอจากไปโดยไร้คำลา เขาเสียศูนย์ โลกที่เคยมีสีสันก็อ้างว้างว่างเปล่าไปมากมาย เขาโกรธ เขาเกลียด เขาชังโม่เฉิงมากมาย ที่ทำให้เขามีสภาพเช่นนี้ แต่อี่เฉินก็มีหัวคิดพอที่จะเข้าใจและยอมรับความจริง ... เขารู้ตัวเองดี คนเรานั้นเมื่อ "คนสำคัญ" ปรากฎขึ้นมาบนโลกนี้แล้ว สิ่งอื่นใดก็ไร้ความหมาย เมื่อเทียบกับการจากไปที่ไร้คำลา กับสิ่งดี ๆ ที่เคยมีร่วมกัน การจากลาครั้งนั้นพ่ายแพ้คำว่า "รัก" เขายอมรับโดยดุษณี ดังนั้นเมื่อโม่เฉิงกลับมา "เส้นทางพารักกลับคืนใจ" ก็เริ่มต้น แต่มันก็ไม่ smooth นักหรอก

ในรายเขมชาติ มันคืออาการฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ไม่มีการทะเลาะ ไม่มีสัญญาณใดบอก มีแต่กระดาษใบน้อยซึ่งเป็นการบอกลาที่ไม่บอกน่าจะดีกว่าเพราะเลือดเย็นมาก mind set ของผู้ชายคนนี้จึงเปลี่ยน รักมากเสียใจมากพังมาก ไม่เข้าใจว่าทำผิดอะไร จึงต้องมาเผชิญเรื่องราวเช่นนี้ ออกจะหนักกว่าอี่เฉินหน่อยก็ตรงที่สุริยาวดีจากไปตอนชีวิตของเขมชาติถึง bottom line พอดี

โกรธอะไรก็ไม่โกรธเท่า ตอนนี้ ตอนที่กำลังจะลืมได้แล้ว ดันกลับมา และ กลับมาไม่กลับมาเปล่า ๆ รื้อฟื้นทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นทั้งเรื่องดีร้ายขึ้นมาตีกันจนร่างแทบจะแตก เมื่อต้องการจะแก้มือคืนด้วยอะไรที่สร้างสรรค์ไว้ ฐานะ เงินทองที่มีทุกอย่าง อย่างที่คิดว่าเธอคนนั้นจะต้องการ อย่างที่คิดว่าจะต้องคลานมาสยบแทบเท้า กลับพบเจอใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่รู้ร้อนหนาว มีแต่เราที่เจ็บช้ำไปคนเดียว คนอื่นเขาลืมหมดแล้ว ทั้งความรักความชังที่ประดังขึ้นมา "เส้นทางการประทับรอยรักรอยแค้น" จึงเริ่มต้นขึ้น และ ลงท้ายด้วยการทำร้ายทำลายทุกคนไม่เว้นแต่ตัวเอง

Inside Out VS Outside In

การเดินทางสู่ความรักทั้งสองเส้นทาง ของผู้ชายสองคน ด้านหนึ่งเป็น Inside Out ด้านหนึ่งเป็น Outside In


อี่เฉิน ... เป็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อเรื่องการ control ทุกคนรู้ว่าเขาฉลาด สุขุม รอบคอบ หลักแหลม และ เป็นผู้ใหญ่ได้เท่าที่ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์คนหนึ่งจะเป็น เขารู้และเข้าใจว่าเรื่องทุกเรื่องมีเส้นทางของมัน เรื่องหลายเรื่องโดยเฉพาะความสัมพันธ์ควรค่อยเป็นค่อยไป หากทุกครั้งที่พยายามจะ control ตัวเอง ผลสุดท้าย คือ อาการ "เสียจริต" ขั้นสุด เสียจริตจนกระทั่งต้องบอกตัวเองว่า "ควรยอมแพ้" และ "ความยอมรับความจริง" ว่า "หึงหนักมาก" แม้พยายามทำตัวไม่ให้มีปัญหาก็ยังมีปัญหา ... คิดว่าตัวเองเป็นบ้าก็ยังเคย

สิ่งที่เก็บกักไว้อยู่ในใจโดยเฉพาะในเรื่องความรักความปรารถนาความต้องการความรักจากโม่เฉิง ยิ่งพยายามจะควบคุมเท่าไหร่มันยิ่ง Inside Out ยิ่งล้น ดังนั้นสุดท้าย "เส้นทางพารักกลับคืนใจ" ของอี่เฉินคือ อย่าไปควบคุมมันเลย ยอมรับเสียเถอะว่าเรารักเขามากขนาดนี้ แพ้สิ้นท่าขนาดนี้ เมื่อมีวิถีทางอันใดที่จะทำให้ได้เธอคืนมา ก็ให้มันสุด ๆ ไปเลย เพิ่งทะเลาะกันเมื่อวานเช้ามาขับมาเทียบตีนกะไดพาไปจดทะเบียนสมรสก็เอา เมื่อศัตรู หรือ คนที่ทำท่าว่าน่าจะเป็นศัตรูโผล่มา ก็ปาดหน้าเค้กให้ชัดเจนให้กระอักเลือดกันไปข้างซะ พาตัดหน้าไปฮันนีมูนกะทันหัน #ใครจะทำไม

ถึงแม้จะตอนแรกจะควบคุมไม่ได้แต่ตอนหลังกลายเป็น in control ไปในที่สุด


ด้านเขมชาติ คือ Outside In รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แสดงออกตลอดเวลา และ ตลอดมาว่าต้องการอะไร เคียดแค้นตรงไหน และ กำลังทำอะไรอยู่ รู้ทุกอย่าง หากพยายามจะบอกในใจตลอดบอกจากการกระทำข้างต้น Outside สั่งลงไปใน Inside (จิตใจ)ว่า "ฉันไม่เป็นไร" ที่ทำคือจะแก้แค้น ไม่มีความว่า "รัก" อะไรนั่นซักกระผีก จริง ๆ "รู้" นะ รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร หนักหนาแค่ไหน เพียงแต่ยังไง ก็ inception กับตัวเองว่าไม่ให้ยอมรับเป็นเด็ดขาดว่าคิดอะไรอยู่ หลอกตัวเองจนเชื่อได้ว่าควบคุมทุกอย่างได้อยู่ในมือ

สั่งตัวเองจนเชื่อว่า "เอาอยู่" แต่แท้ที่จริงคือ out of hand


Lost to Love VS Love always win

ในเรื่องของความรักอี่เฉินยอมรับตั้งแต่ต้นมือว่าตัวเองแพ้แล้วซึ่งความรัก เมื่อมั่นใจว่า "ใคร" คือคนที่ใช่ จะต้องแคร์อะไรและฝืนใจทำไม เมื่อรู้สิ่งใดสำคัญที่สุดกับตัวเอง กาลเวลา ความอ่อนไหว ความไม่ใจ ความสงสัย หรือ ขุ่นเคืองทั้งหลาย ย่อมพ่ายแพ้แกความรักทั้งสิ้น แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก

ในเรื่องของความรักแม้เขมชาติไม่ยอมรับมาตั้งแต่ต้น เขาแน่ใจว่าจะไม่มีการให้อภัยใด ๆ ทั้งสิ้น จะมีแต่การแก้แค้นเอาคืน แต่เมื่อทำเข้าไปแล้วจริง ๆ กลับไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสุขซักนิด รอยยิ้มที่คิดว่าจะมี ความสะใจที่คิดว่าจะได้ มันกับสลายหายไปรวดเร็วราวน้ำค้างต้องแดด ณ บัดนั้นเขาถึงได้รู้ว่า "ความรัก" ชนะได้ทุกอย่างจริง ๆ ความเกลียดชัง ความแค้นใด ๆ ที่มีไม่อาจลบเลือนไปได้ด้วยการกระทำดุจเดียวกัน เพราะ สิ่งเหล่านั้นถูก "ความรัก" ที่ไม่เคยเลือนหายไปกลบฝังจนมิดไปนานแล้วต่างหาก

สำหรับชายสองคน จากพื้นเพที่คล้ายคลึง conflict ที่คล้ายกัน
หากเลือกเดินไปบนทางแยกคนละทาง เส้นทางที่ผิดแผกสะท้อนตัวตนที่แตกต่าง
แต่แล้วสุดท้ายจุดหมายปลายทางก็คืออย่างเดียวกันนั่นคือ "ความรัก"
เพราะ "รัก" ทำให้โลกเราหมุนไปอย่างไรเล่า
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ละครโทรทัศน์ ซีรีส์จีน อย่าลืมฉัน นักแสดงเอเชีย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่