เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลปกครอง พันตำรวจเอกบรรจบ สุดใจ ประธานชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ 41
พร้อมด้วยนายชนินทร์ เอี่ยมปราณีต ทนายความ ได้ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อศาลปกครอง ให้
เพิกถอนหรือมีคำสั่งยกเลิก ระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 เพราะ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีอำนาจออกระเบียบเพื่อถอดยศตำรวจนอกราชการ หรือที่พ้นจากราชการ
ตำรวจไปแล้ว ไม่ว่าด้วยการลาออก หรือที่เกษียณอายุราชการไปแล้วได้ เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย เป็นโมฆะ
โดยมาตรา 4 ของพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ระบุว่า ข้าราชการตำรวจหมายถึงบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง
ตามพ.ร.บ.นี้ โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือน ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คำว่าข้าราชการตำรวจจึงหมายถึงข้าราชการตำรวจในราชการ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะออกระเบียบเท่านั้น ส่วนตำรวจนอกราชการดังกล่าวได้พ้นจากหน้าที่ไปแล้ว และรับบำเหน็จหรือบำนาญจากบัญชีกลาง ไม่ใช่จาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
<
<
<
เหตุผลที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ ระเบียบนี้ออกสมัยพลตำรวจเอกสันต์ เป็นผบ.ตร. ออกตามพ.ร.บ.ตำรวจ
ปี 2547 มาตรา 28 และใช้บังคับ 4 มีนาคม 2547 โดยในข้อ 1 วรรคแรกของระเบียบระบุว่า การเสนอขอ
ถอดยศตำรวจทั้งแก่ผู้ที่อยู่ในราชการตำรวจ และที่พ้นจากราชการตำรวจไปแล้ว ซึ่งตามมาตรา 28 มิได้
บังคับไปถึงตำรวจสัญญาบัตรนอกราชการ แต่ในเงื่อนไขที่จะถูกถอดถอนตามข้อ 1(6) ได้ระบุว่า "ต้องหา
คดีอาญาแล้วหลบหนีไป" ซึ่งเงื่อนไขตามข้อนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 มาตรา 33 ที่บังคับใช้อยู่ในขณะ
ออกระเบียบนั้น บัญญัติว่า "ในคดีอาญาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นอย่างผู้กระทำผิดมิได้"
ดังนั้น เมื่อระเบียบดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ระเบียบนั้นย่อมไม่มีผลบังคับ จึงได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้
ระงับการปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเสีย

ทั้งนี้ การดำเนินการถอดยศตำรวจสัญญาบัตรนอกราชการไม่เคยมีการกระทำมาก่อน เพิ่งเกิดขึ้นกรณี
พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรเป็นรายแรก จึงต้องเดินทางมายื่นฟ้อง เพราะหากผลการพิจารณาราย
พันตำรวจโททักษิณ มีผลบังคับ จะเกิดผลผูกพันต่อผู้ฟ้องคดีและตำรวจสัญญาบัตรนอกราชการอื่นๆ อย่าง
ไม่เป็นธรรม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441099899

ตามอ่านกันเต็มๆ จาก  link  ได้เลยค่ะ