ลงให้อ่านใหม่ค่ะ พร้อมรับคำติชม ขอบคุณที่อ่านค่ะ

กระทู้สนทนา
Chapter 1
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~~~
  “ซีซ่าร์...ตื่นรึยังคะลูก เปิดประตูให้แม่หน่อยค่ะ ซีซ่าร์” อา...ใครมาปลุกฉันแต่เช้ากันนะ นี่มันปิดเทอมนะ ถึงใกล้จะเปิดแล้วก็เถอะฉันยังง่วงอยู่เลยนะ เมื่อคืนเผลอดูซีรี่ย์ดึกไปหน่อยก็จริงอยู่แต่ว่าฉันยังขี้เกียจอยู่เลย อย่าพึ่งมาปลุกกันตอนนี้สิ อยากนอนต่อแบบสบายๆอ่ะ ช่วยเข้าใจฉันด้วยแต่มันคงไม่เป็นผลในเมื่อยังคงมีคนส่งเสียงเรียกฉันไม่หยุด ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่ยอมลุกไปเปิดประตูอยู่ดี ก็คนมันอยากนอนทำยังไงได้
“ซีซ่าร์คะ ตื่นรึยังคะลูก” เสียงคุณแม่นี่ แต่ฉันก็ไม่ตอบและก็ยืนยันกับตัวเองแล้วว่าจะนอนต่อ แล้วฉันก็เอาผ้าห่มคลุมโปงเพื่อนอนต่อทันที คุณแม่ก็เงียบไป คงคิดว่าฉันคงไม่ตื่น ดีล่ะฉันจะได้นอนแบบสบายใจหน่อยไม่ต้องตื่นแต่เช้า แต่การนอนต่อของฉันคงจะจบลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เพราะฉันได้ยินเสียงพี่ชายสุดที่รัก (ฉันประชด) กำลังคุยกับคุณแม่อยู่ที่หน้าห้องของฉัน ลางสังหรณ์บอกให้ฉันรีบข่มตาหลับก่อนที่พี่ชายจะเข้ามา
“มีอะไรครับคุณแม่ เสียงดังแต่เช้าเลย”
“ก็น้องเราน่ะสิ แม่เรียกตั้งนานไม่ยอมตื่น ซันปลุกน้องให้หน่อยนะลูก แล้วพาน้องลงไปหาแม่ข้างล่าง แม่มีธุระจะพูดกับน้องแล้วก็ซัน แม่ไปรอข้างล่างนะจ๊ะ อย่าแกล้งน้องอีกล่ะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมเรียกน้องเอง ^^ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมรีบพาน้องตามลงไปครับ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก~~~    
  ใครมาเคาะอีกเนี่ยประตูก็ไม่ได้ล็อกจะเคาะทำไมนักหนาก็ไม่รู้ “ค่าแม่ เข้ามาเลย ซ่าร์ไม่ได้ล็อกค่ะแม่” พูดจบฉันก็นอนต่อ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่ฉันอนุญาตให้เข้ามานั้น เป็นพี่ชายตัวดีนี่เอง ถ้าฉันรู้ฉันไม่อนุญาตให้เข้ามาเด็ดขาด เพราะเวลาพี่ชายฉันมาปลุกทีไรวิธีมันมักจะไม่ธรรมดาเสมอ อีกอย่างการปลุกแต่ละครั้งก็ยังรุนแรงด้วย ฉันเจ็บตัวทุกที แต่มีหรอที่พี่ฉันคนนี้จะสน หมอนั่นชอบแกล้งฉันจะตาย ถึงจะเจ็บตัวก็ช่างตอนนี้ฉันอยากนอนนี่นา T^T  “ยัยซ่าร์ คุณแม่ให้มาตาม บอกว่ามีธุระจะคุยกับเราสองคน” ฉันยังคงเงียบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา โธ่! ทำไมฉันไม่นึกเอะใจตอนที่ได้ยินเสียงซันที่หน้าห้องกันนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะรีบวิ่งไปล็อกประตูห้องก่อนที่ซันจะเข้ามา ฉันลืมไปได้ยังไงกัน ฉันไม่สนเสียงเรียกของพี่ชายและยังคงแกล้งนอนต่อไป เดี๋ยวเบื่อคงออกไปเอง แต่เปล่าเลย พี่ชายฉันไม่เคยเบื่อที่จะปลุกฉันเลย เพราะมันเป็นโอกาสดีที่จะได้แกล้งฉันยังไงล่ะ
“.....”
“ซีซ่าร์!!”
“.....”
“ถ้าแกไม่ตื่น อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ”
“.....”
พลั่ก ตุ๊บ อั๊ก สิ้นเสียงดังพี่ชายตัวดีก็กระโดดมาทับร่างฉันทันที คนอะไรตัวหนักอย่างกับหมีควาย ฉันจะตายแล้วใครก็ได้ช่วยฉันที T^T
“(0_0)! ซัน!? ทำอะไรของพี่เนี่ย ซ่าร์หนักนะ ลงไป” จะอะไรซะอีกฉันก็หายใจไม่ออกไง จุกไปเลย
“ไม่ลงจนกว่าแกจะตื่น คุณแม่รอนานแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัวเร็วๆเข้า”
“ก็ได้ๆ ลุกซะทีสิ หนักเป็นบ้า” พึ่บ!! ฉันรีบลุกขึ้นมาสูดเอาอากาศเข้าปอดหลังถูกทับ ฮึบ!! อา..ค่อยหายใจโล่งหน่อย นึกว่าจะตายซะแล้วเรา วันๆหมอนี่กินอะไรเป็นอาหารนะ (ก็กินข้าวเหมือนเธอนั้นแหละ -_-‘)ตัวหนักเป็นบ้า ซันเป็นผู้ชายตัวไม่ใหญ่แต่มีกล้ามเป็นมัดๆเรียกเสียงกรี๊ดของสาวๆได้เป็นอย่างดียิ่งเวลาซันถอดเสื้อ บางทีฉันยังแอบกลืนน้ำลายเวลามองกล้ามหน้าท้องพี่ชายตัวเองเลย เป็นเพราะซันออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้วก็เล่นกีฬาด้วยเลยทำให้มีหุ่นที่ดีอย่างนี้ พี่ฉันเพอร์เฟคสุดๆไปเลยล่ะ
“ฉันไปรอข้างล่างนะ เร็วๆด้วยล่ะ”
“รู้แล้วน่า พูดมากอยู่ได้”
“แกว่าอะไรนะ!?”
“รู้แล้วค่า...า..” T^T แง คนสวยถูกรังแก พอฉันตอบแบบนั้นออกไปพี่ชายตัวดีก็ยิ้มน่าระรื่นออกจากห้องไปทันที ฮื่ย!! เสียอารมณ์จริงๆ ฉันว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยไม่นงไม่นอนมันละไปอาบน้ำก็ได้ เหอะ คอยดูนะไว้ฉันมีโอกาสเมื่อไรจะเอาคืนให้สาสมเลย ครั้งนี้ฝากไว้ก่อน (ถ้าแกคิดว่าทำได้นะ)
  ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ระหว่างที่อาบน้ำฉันจะแนะนำตัวก่อนแล้วกันนะคะ หลายคนคงจะงงอยู่ว่าฉันเป็นใคร ฉันชื่อ ซีซ่าร์ค่ะ เรียกสั้นๆว่าซ่าร์ ส่วนพี่ชายของฉันคนเมื่อกี้ ชื่อ ซีซัน ค่ะ เรียกสั้นๆว่าซัน เราอายุห่างกันสองปี ตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้นปีหนึ่ง ส่วนพี่ชายฉันอยู่ปีสาม เราสองคนค่อนข้างสนิทกัน แต่ก็ทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าไร ส่วนมากเรื่องที่ทะเลาะกันก็จะเป็นเพราะซันชอบเริ่มก่อนมากกว่า(จริงๆนะ) ซันเป็นผู้ชายหล่อ (ไม่ได้ชมนะ) (หรอ...) ตัวสูง ทำผมสีเงิน ถ้าไม่มั่นหน้าแบบพี่ฉันคงทำสีนี้ไม่ได้จริง ตาคมสีน้ำตาล ปากกับจมูกรับกับใบหน้าได้ดีทีเดียว สรุปคือพี่ชายฉันหล่อ นั่นแหละ ส่วนฉันหรอ ผมดำสนิทธรรมชาติสุดๆ ส่วนตาก็สีน้ำตาลแบบพี่ชาย ฉันก็สวยนะ (ไม่เชื่อ) เราอยู่บ้านกันกับพ่อและแม่ แต่พวกท่านก็ต้องเดินทางบ่อย จึงทำให้เราสองคนสนิทกัน เพราะต้องอยู่กันสองคนบ่อยๆนั่นแหละค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องครอบครัวความเป็นมาเอาเท่านี้ละกัน ฉันอาบน้ำเสร็จพอดี คุณแม่รออยู่ (ก็หล่อนมัวแต่พูดเพ้อเจ้อ)
   ฉันเดินลงบันไดมาก็เจอหน้าพี่ชายนั่งเสนอหน้าอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกกับคุณแม่ ไม่รู้เป่าหูจะขออะไรคุณแม่อีก “ซ่าร์...ตื่นยากตื่นเย็นนักนะเรา ปล่อยให้แม่เรียกตั้งนาน มานั่งนี่สิลูก แม่จะได้รีบพูดเราจะได้ไปทานข้าวเช้ากันซะที” คุณแม่บอกเสียงดุก่อนจะปรับเสียงให้เป็นปกติและเรียกให้ฉันไปนั่ง “ซ่าร์ขอโทษค่ะแม่ พอดีว่าเมื่อคืนซ่าร์นอนดึกไปหน่อยเพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุด” ฉันรีบขอโทษและบอกเหตุผลว่าทำไมไม่ถึงไม่ตื่นพร้อมกับเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างคุณแม่กับพี่ชาย ซึ่งมันรักฉันมากทำท่าทำทางขยับหนีกันเหมือนรังเกียจ “ซัน อย่าแกล้งน้องสิลูก” ฉันรีบกอดแขนคุณแม่ทันทีที่ท่านหันไปเอ็ดลูกชายตัวดี ต้องออดอ้อนซะหน่อยเดี๋ยวท่านจะไม่เข้าข้างฉัน แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธแถมยังมาทำหน้ายิ้มระรื่นใส่ฉันอีก “ผมเปล่านะแม่ ^^ “
“เอาล่ะๆ ฟังแม่นะ เดือนนี้พ่อกับแม่ต้องไปต่างประเทศทั้งเดือน เพราะฉะนั้น ซันต้องดูแลน้องดีๆ เข้าใจรึเปล่าครับลูก”  คุณแม่ชอบมาแบบไม่ทันให้ตัวตัวเสมอเลย มีเรื่องจะพูดทีไรทำเอาพูดไม่ออกทุกที เราสองคนพี่น้องที่นานๆจะได้อยู่กับพ่อ แม่ ซักที ยังไม่ทันไรคุณแม่กับคุณพ่อก็จะไปอีกแล้ว T^T ฉันก็ถูกพี่ชายรังแกอีกแล้วสิ ร้องไห้วันละสามเวลาเลยฉัน “อะไรนะคะ!! ไปทั้งเดือน” ฉันร้องเสียงหลงหลังจากที่คุณแม่พูดจบ โอ้~ ไม่นะชีวิตฉันหลังจากนี้คงไม่มีอะไรนอกจากโดนแกล้งสามเวลาจากพี่ชายสินะ ทำไมคุณแม่ทำอย่างนี้ T^T
“อย่าเสียงดังสิคะลูก ก็อย่างที่ได้ยินนั้นแหละจ๊ะ”
“ทำไมครางนี้ไปนานจังเลยครับ” ซันถามในสิ่งที่ฉันกำลังสงสัยเหมือนกันขึ้นมากับคุณแม่ ฉันก็ตั้งตารอฟังว่าทำไมคราวนี้ท่านทั้งสองถึงได้ไปนานกว่าทุกครั้ง
“ที่จริงแม่กับพ่อจะไปแค่สองอาทิตย์ แต่เห็นว่าหลังจากเสร็จธุระของพ่อแล้ว แม่เลยคิดว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกสักหน่อย พ่อจะได้พักผ่อนบ้าง ถือว่าไปฮันนีมูนอีกรอบก็ได้จ๊ะ” แม่พูดไปทำท่าทางเขินไปส่วนคุณพ่อก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อเราสองคนรู้เหตุผลของท่านทั้งสองแล้วก็เลยไม่ได้ค้านอะไรเพราะพวกท่านก็ทำงานเหนื่อยมาตลอดเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ปล่อยให้พวกท่านได้พักผ่อนบ้างแค่นี้ทำไมเราจะต้องไปห้ามท่าน และฉันก็ต้องตกใจอีกรอบกับคำขอของคุณแม่อีกครั้ง
“ทั้งสองคนช่วยพาพ่อกับแม่ไปส่งที่สนามบินทีได้ไหมคะลูก”
“อะไรนะครับ?!/คะ คุณแม่?!”
เราสองคนประสานสานเสียงกัน ก็ไม่ให้ตกใจได้ยังไงละ ก็อยู่ๆ ฉันก็ต้องไปส่งท่านทั้งสอง ทั้งที่ฉันกับซันก็ไม่เคยไปส่งท่านด้วยกัน ปกติฉันไปคนเดียว หมอนี่มันขี้เกียจ อีกอย่างฉันไม่อยากทะเลาะกับซันไปตลอดทางหรอกนะทำไมครั้งนี้ถึงได้ให้ไปกันนะ หรือคุณแม่ยังมีอะไรปิดบังอยู่ น่าสงสัย แต่ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อท่านยังไม่ยอมบอกก็ต้องรอต่อไป “ไม่อะไรๆทั้งนั้นแหละค่ะลูกขา แม่เป็นห่วงกลัวว่าซันอยู่บ้านคนเดียวแล้วจะเหงา ”
“คุณแม่ควรจะห่วงซ่าร์มากกว่านะคะที่จะต้องอยู่กับซันสองคน”
“พูดให้ดีๆยัยซ่าร์”
“ซ่าร์พูดความจริงซันจะเหงาได้ยังไงคะคุณแม่เพราะทุกครั้งหลังจากที่ซ่าร์ไปส่งคุณพ่อคุณแม่เสร็จพอกลับมาถึงบ้าน พี่ชายสุดที่รักของซ่าร์ก็ไม่อยู่ให้เจอหน้าแล้วค่ะ” ฉันรีบหันไปฟ้องคุณแม่เกี่ยวกับพี่ชายตัวทดีที่รักฉันมากถึงชอบปล่อยฉันไว้ที่บ้านคนเดียว ที่จริงก็ไม่คนเดียวสักเท่าไรก็ยังมีป้าแมวแม่บ้านของเราและก็คนงานคนอื่นๆ แต่ฉันก็เหงานะ เพื่อนฉันก็พากันไปเที่ยวช่วงปิดเทอมกันหมด ซันก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน คุณแม่เห็นว่าเราสองคนตั้งท่าจะทะเลาะกันเลยรีบขัดขึ้นซะก่อนที่เรื่องจะบานปลายและท่านจะไม่ทันได้พูดธุระของท่านเพราะต้องรีบไปเดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน
“พอๆอย่าเถียงกัน ฟังแม่พูดให้จบก่อน” คุณพ่อที่เงียบอยู่นานแทรกขึ้น โดยปกติคุณพ่อก็จะเป็นคนห้ามทับฉันกับซันอยู่แล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็ด้วย เราสองคนจึงต้องตั้งใจฟังเรื่องที่คุณแม่จะพูดต่อ
“ครับ/ค่ะ” คุณแม่นะคุณแม่ทำกันได้ แล้วฉันจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากทำตามที่คุณแม่สั่ง
“ซันเองก็อย่าแกล้งน้องมากนักล่ะ มีกันอยู่แค่สองคนทำไมชอบแกล้งกันนักก็ไม่รู้ น้องเป็นผู้หญิงนะอย่าลืมสิ” คุณพ่อพูดดักทางซันเอาไว้ก่อนเจ้าตัวก็รีบร้อนแก้ต่างตัวเองแทบจะทันที
“โธ่คุณพ่อครับ ผมก็ใจดีนะครับ ไม่เคยแกล้งน้องเลยจริงๆ” ฉันหันไปมองซันตาขาวงทันที ไม่เคยแกล้งเบาๆสินะที่อยากจะพูดน่ะ “อย่ามาโกหกคุณพ่อนะซัน คุณพ่อคะอย่าไปฟังซันพูดนะคะ เวลาที่ไม่มีใครอยู่ซันก็ชอบแกล้งซ่าร์แรงๆตลอดอ่ะ จริงๆนะคะ เมื่อกี้ก็ด้วย ปลุกซ่าร์ดีๆก็ไม่ได้ ซ่าร์เจ็บไปหมดเลยค่ะคุณพ่อ” ได้โอกาสฉันก็รีบฟ้องทันทีเผื่อว่าพวกท่านจะต่อว่าหรือหักเงินเดือนพี่ชายตัวดีเพราะถ้าไม่มีเงินสาวก็ไม่แลยังไงล่ะ แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนคงเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติเลยไม่ได้ว่าอะไรมากนัก ทั้งที่คุณพ่อมักจะบอกว่าอย่าทะเลาะกันแต่คุณแม่มักจะพูดว่า ‘ดีแล้วคุณพี่น้องที่รักกันก็ทะเลาะกันเป็นธรรมดา’ แล้วฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถูกแกล้งต่อไป T_T “เอาน่าลูกอย่าทะเลาะกันสิจ๊ะ ^^” อยากรู้จังเลยว่าพี่ฉันมันเคยรักฉันเหมือนที่พี่น้องคนอื่นที่เค้ารักกันบ้างไหมน้า บางทีฉันก็สงสัยว่าฉันถูกเก็บมาเลี้ยงรึเปล่าซันถึงได้ชอบแกล้งฉันนัก แต่ฉันเคยถามคุณพ่อคุณแม่ไปแล้ว พวกท่านก็บอกว่าไม่ใช่พร้อมทั้งเอาหลักฐานทุกอย่างที่มีให้ดูซึ่งฉันก็เป็นลูกท่านจริงๆและมีซันเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ไม่เข้าใจหมอนี้เวลามีเรื่องหรือมีปัญหากับใครซึ่งฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนแน่ๆ ซันจะไม่เคยถามฉันก่อนเลยซันมักจะถามคนอื่นก่อนเสมอ แต่ทุกครั้งที่รู้ความจริงว่าฉันไม่ได้เป็นคนผิดซันจะตามมาขอโทษฉัน:และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมซันไม่เชื่อฉันตั้งแต่แรก มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยเพราะว่าฉันน้อยใจพี่ชายตัวเองแต่ก็ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง คงเพราะความเป็นพี่น้องและเรารักกันอันนี้เรารู้อยู่แก่ใจ ทำให้ฉันไม่เคยโกรธซันแบบจริงๆจังๆได้ซักครั้ง บางทีฉันก็ไม่ชอบความใจอ่อนของตัวเองเหมือนกัน เพราะบางครั้งมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนที่อ่อนแอ เพราะสังคมที่ฉันอยู่และเรียนรู้มาไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่อ่อนแอ
“ยัยมารร้าย” คุณแม่ห้ามไม่เท่าไรซันก็เริ่มอ้าปากว่าฉันอีกรอบ อยากมีเรื่องนักสินะ “คุณแม่ดูสิคะ”
“ลูกซัน ! เดี๋ยวเถอะทำไมไปว่าน้องอย่างนั้นล่ะลูก ไม่รู้ล่ะ ถ้าเกิดน้องโทรมาว่าเราแกล้งอีก แม่จะยึดค่าขนมลูกเข้าใจมั้ยครับ” สำเร็จในที่สุดคุณแม่ก็ยอมเข้าข้างฉัน >_< หึ เสร็จฉันแน่ซีซันเอ๋ย ฉันยิ้มอย่างมีความสุขในรอบหลายวัน “ครับ...คุณแม่” ซันตอบรับเสียงอ่อยตอนที่ได้ยินคุณแม่บอกว่าจะยึดค่าขนม คอยดูฉันจะโทรไปฟ้องคุณแม่สามเวลาเลย “เราก็เหมือนซ่าร์อย่าดื้อให้มากนักฟังพี่เขาบ้างยังไงเราก็เป็นน้องเข้าใจรึเปล่า” ฉันยิ้มดีใจได้ไม่ทันไรก็ถูกคุณแม่ว่าด้วยอีกคน T^T นึกว่าจะรอดแล้วเชียว
  หลังจากคุณแม่พูดจบเราก็พากันไปทานอาหารเช้า พูดคุยเรื่อยเปื่อยกันอีกนิดคุณแม่ก็สั่งงานป้าแมวแม่บ้านของเราและคนอื่นให้ดูแลบ้านให้ดี แล้วเราสองคนพี่น้องก็ไปส่งพวกท่านตามที่คุณแม่บอกไปแต่แรก ระหว่างทางเราสองคนพี่น้องที่นั่งเบาะหน้า ซันเป็นคนขับรถและฉันนั่งข้างๆ เราสองคนทะเลาะกันเงียบๆมาตลอดทาง ทำไมต้องเงียบก็คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยไงไม่อยากโดนว่าอีกเลยต้องแอบทะเลาะกันเงียบๆโดยพูดกันแบบไม่ออกเสียงแต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดว่าเราไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่