สงสัยเกี่ยวกฏและอะไรหลายๆอย่างของแม่โจ้ครับ

คือโดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องงมงาย ไม่ฟังเรื่องไร้สาระ เป็นคนตรงๆครับ *ขอบอกนิสัยผมก่อน
เริ่มจาก ผมเรียนจบแล้วมา ต่อ มจ. ปี58 ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากที่ว่าแม่โจ้รับน้องโหด เพราะเพื่อนหลายๆคนก็ไม่กล้ามาเพราะว่าได้ยินมายังงั้น
หรืออาจเป็นเพราะ ก่อนเลือกที่เรียนผมไม่ได้หาข้อมูลของมหาลัยมาละเอียดกว่าที่ต้องเจอ ผมเลยเลือกจะมาเรียนต่อที่นี้ ผมมาเรียนตอนนี้ รุ่น 80 ผมผ่านรับน้อง 7 วันมาเเล้ว และเปิดเรียนได้ เกือบ 1 อาทิตย์แล้วหลังจากรับน้อง

"ประเดน"คือ เรื่องของ กฏของมหาลัย และ กฏของคณะต่างๆที่ถูกตั้งและถูกถ่ายทอดมาแต่ละรุ่น
- เริ่มจากกฏและประเภณีของที่นี้
    สำหรับผม กิจกรรมพัฒนาศักยภาพนักศึกษาใหม่ หรือ รับน้อง 7 วัน มันไม่ได้ช่วยให้ทุกคนรักกันสามัคคีกันเท่าไหร่เลย เพื่อนหลายๆคนก็รู้สึกแบบเดียวกับผม คือแบบเอาตัวให้รอด 7 วันนี้ไปให้ได้ก็พอทนไห้ได้ ต้องอยู่ Aจนครบ ถ้าไป B ก็น่าเบื่อนั่งทำไรไร้สาระ ละก็มีเพื่อนๆส่วนใหญ่ ที่เข้า ม.ช. ไม่ติดแต่ก็ไม่อยากเสียเวลาเลยมาที่นี้ ถามว่ามีความสุขไหม มันก็มีน้อยมากแต่ไม่ได้ช่วยให้ทุกคนมีความสุข กับกิจกรรมที่ทำอยู่ ผมเคยเข้าค่ายที่ตจว.แบบ 7 วัน มันมีความสุขกว่านี้รักกันกว่านี้ โดยที่ไม่ต้องมีการใช้อะไรหลายๆอย่างมาบังคับ ให้ต้องทำนั้นนี้ ทุกคนต่างทำด้วยความสมัครใจและความตั้งใจที่จะทำจริงๆ *ค่ายนั้นก็คนเป็นพันๆเหมือนกันครับ ผมจะไม่พูดถึงเรื่องรับน้อง แล้วเรื่องสาบานอะไรนั้น ผมไม่กลัวไม่เชื่ออะไรสักอย่าง คนทุกคนก็ตายกันหมดจะช้าจะเร็วแค่นั้น แค่ไม่อยากให้ นศ.บางคนไม่สบายใจเท่านั้น ที่ตั้งกระทู้เพื่อถามเฉยๆครับ
*ว่าทำไมต้องปิดเรื่องรับน้องเป็นความลับ ต้องไปสาบาน ถ้า ม.ดีจริงจะกลัวคนอื่นเขาเอาวิธีรับน้องไปเรียนแบบใช้กับ น.ศ.ทำไมครับ ออกจะดีด้วยซ้ำที่ หลายๆ ม. มีการพัฒนาที่ดี
   -ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าบอกไปหรือคนอื่นรู้แล้วเอาไปเล่าต่อก็คงมี น.ศ. ที่ตั้งใจจะมาเรียนแล้วทนกับเรื่องพวกนี้น้อยลงทุกปีครับ เพราะแค่รู้ว่ารับน้องโหดยังไงก็ตัดสินใจ 50-50 ละครับเพราะผมมาเรียนไม่ได้จะมาทำรับน้องแบบนี้ ผมก็ตั้งใจจะรับน้องแบบธรรมดาที่ ม.อื่นเขาเปิดเผยกันตรงๆแบบที่เคยเห็นเคยได้ยินมา
   -อีกเรื่องครับถามหน่อยครับถ้าคืนนั้นไม่มีระเบิดจน ม. ต้องเปิดให้หลายหน่วยงานเข้ามาดูภายใน ก็คงมีกิจกรรมแบบที่จัดมาเหมือนทุกคืนใช่ไหมครับ
*กฏของ ม. ผมไม่มีปัญหาเท่าไหร่ครับเพราะมันเหมาะสมอยู่

-ต่อด้วยเรื่องกฏของคณะต่างๆ (สำหรับปี1แบบผม)
  ตัวอย่าง กฏที่ผมต้องทำโดยที่ไม่เข้าใจเหตุผลและหลักการ ความจำเป็น ของกฏพวกนี้ที่ถูกตั้งขึ้นมา
- ห้ามใส่เสื้อแขนยาว แบบ เสื้อยีน เสื้อลายนิดๆหน่อย แล้วถ้าเพื่อนไม่ใส่ทั้งห้องก็ห้ามใส่
- ห้ามพก ทิชชู่ ยกเว้นคนที่ไม่สบาย
- ถ้าจะพกร่มต้องพกร่ม สี ดำเท่านั้น ถ้าเพื่อนไม่กางห้ามกางทั้งห้อง
- นาฬิกาข้อมือต้องสีดำเท่านั้น
- สร้อยพระห้ามใส่ ใส่ได้ต้องเป็นแบบเชือกสีดำเท่านั้น
- **เรื่องหมวกกันน๊อกมหาลัย ผมก็มีหมวกกันน๊อกของผมอยู่เเล้วสีดำหุ้มคางกระจกใส แต่ทำไม ม.ยังบังคับให้ซื้อ ทั้งๆที่มีอยู่เเล้ว และรุ่นพี้ก็สั่งให้ซื้อบอกว่า ม. บังคับทั้งที่ผมก็บอกเเล้วว่าผมมีเเล้วก็ยังต้องจ่ายเงินซื้อผมก็ไม่ได้มีเงินมากแค่เรื่องเรียนก็เสียไปเยอะเเล้ว
ผมก็สงสารทางบ้านไม่อยากเอาเงินไปทิ้งกับของที่ไม่จำเป็นเพราะมีแล้ว
- **ห้ามแต่งชุดเปรี้ยวไปข้างนอกห้ามสะพายกระเป๋าอย่างอื่นที่ไม่ใช่กระเป๋าของ ม.
ผมก็ไม่เข้าใจเรื่องกระเป๋าเรื่องชุดยังพอเข้าใจ บางทีกระเป๋าผมก็ต้องการกระเป๋าเล็กๆสะพายข้างสะพายเอวไป ก็ห้าม เพราะกระเป๋าม. มันใหญ่พกไม่สะดวกบางครั้งก็ลำบากครับเวลาพกไปไหน

  ร้องไห้นี้ก็คร่าวๆที่เพิ่งรู้มาครับ เดี๋ยวเปิดเรียนก็คงมีกฏเข้ามาอีกเลื่อยๆ แค่อยากรู้ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการใช้ชีวิตการเรียนของ น.ศ.
รุ่นพี้บอกรุ่นพี้ยังทำได้ทำไมน้องทำไม่ได้
ผมก็อยากตอบว่านั้นรุ่นพี้ทำตามละมีความสุขกับมันใหม ละถ้าเราไม่ทำมันเดือดร้อนไครรึเปล่า เราใส่ชุดนอก เราใส่นาฬิกาสีต่างๆ ห้อยพระที่เรามี พกกระเป๋าที่เราชอบ ฯลฯมันก็ไม่เดือดร้อนไคร ถึงแม้สมมุดเราทำได้ผมก็ยังเคารพในความเป็นรุ่นพี้รุ่นน้อง เราก็ยังมาเรียน เราก็ยังทำตัวให้เป็นระเบียบอยู่เสมอก็ยังได้ครับ นี้ ป.ตรี ครับไม่ใช่ ประถม

ที่อยากระบายก็มีนะครับ
ละที่บางคนพูดว่า "จำไว้ ตอนทำงานเจอหนักกว่านี้" ผมว่ามันไม่ใช่ ทำงานจริงใช้สมอง ความตั้งใจเรียนรู้งานและการวางตัวที่ดี การได้ทำงานที่ตัวเองรัก มากกว่า ที่จะมาเปรียบเทียบกับเรื่องพวกนี้ครับมันคนละเรื่องกันครับ
และอีกอย่างที่อยากระบาย ก็เรื่อง ที่ว่า
"คุณเลือกแม่โจ้เอง แม่โจ้ไม่ได้เลือกคุณ" ถามหน่อยครับถ้า ม. บอกกำหนดการตรงๆทุกอย่างเรื่องตั้งแต่การรับน้องยังไง กฏคณะแต่ละคณะเป็นยังไง การสาบาน ฯลฯ ก็ไม่ต้องบอกว่า ให้มาลองเรียนเองหรอกครับ ถ้าบางคนรู้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องทำแบบผมก็คงไม่จ่ายเงินค่าเทอมค่าอะไรๆแล้วมานี้หรอกครับ ผมจะเข้ามหาลัยที่ไม่ต้องมีอะไรที่เป็นแบบนี้ ในสายตาผมว่า ตีนดอย กับ มช.ยังกฏมีเหตุผลกว่านี้ครับ ที่ผมยังอยู่เพราะสงสารที่บ้านส่งเงินให้เรียนแล้วจะเอาคืนก็ไม่ได้เเล้ว แล้วผมตั้งใจจะเรียน ผมก็ต้องทำงานทุกวันครับ แต่ไม่มีเวลา ถอยก็ไม่เอาครับเศร้า




****ทั้งหมด ก็แค่อยากระบายออกมา และอยากถามเท่านั้นครับ
**** ถูกผิดล่วงเกินอะไรก็ขออภัยด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่