สวัสดีค่าชาวบลูแพลนเน็ตทุกท่าน -/\-

          หลังจากที่สิงตัวอยู่ใน Pantip มานานก็ได้เวลา Review ของตัวเองบ้างแล้ว

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา 1-2 สิงหาคม 2558 แฟนอยากไปเกาะที่สามารถตกปลาได้จึงมาลงที่เกาะสีชังนี่เอง

เครดิตรูปภาพจากคุณโต้งซังนะคะ เป็น 1 ในการตัดสินใจไปเที่ยวที่นี่ค่ะ ขอบคุณมากค่า ถ้าต้องการดูรูปภาพเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ใน Link นี้ค่ะ

>> http://pantip.com/topic/13104227

เริ่มเลยแล้วกัน

วันที่ 1 สิงหาคม 2558

เวลา 9 โมงกว่าๆ ออกเดินทางจากบ้านไปอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อ่านรีวิวมาบอกว่าให้ไปซื้อตั๋วแถวๆ ซูซูกิ เราก็ไปตามพอไปถึง

ปรากฏว่าน้าแถวนั้นบอกว่าให้ไปซื้อตั๋วข้าง 7/11 ใต้ Sky walk เลยไม่ใจว่าเค้าเปลี่ยนที่ซื้อตั๋วหรือเปล่านะคะ

ภาพนี้ถ่ายจาก sky walk ลงมาค่ะ


เป็นรถตู้อนุเสาวรีย์ฯ - ศรีราชา เกาะสีชัง ซื้อตั๋วที่เดียวกับเกาะล้านคนละ 100 บาท รถออกทุกชม. เราโชคดีไม่ต้องรอนานรถรอบ 10.00 น. แต่เต็มไวก็เลยได้ออกก่อน


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ก็จะถึงที่หมาย เราถึงประมาณ 11 โมงกว่าๆ คนขับรถตู้ใจดีพาส่งถึงที่เลยค่ะ คือ ท่าเรือเกาะลอย


เราก็เดินไปที่ท่าได้เลย ตู้ซื้อตั๋วจะอยู่ตรงเรือออกพอดี เป็นเรือแสงประทีป คนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางไปถึงเกาะสีชังประมาณ 30 นาที

ตู้ซื้อตั๋วไปเกาะสีชังค่ะ

ขาไปไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยถ่ายขากลับมาให้ค่ะ


เรือจะมีทั้งแบบแอร์แล้วก็ไม่แอร์ค่ะ


หลังจากนั้นก็นั่งเรือไปเรื่อยๆ บอกวิวทิวทัศน์รอจนถึงในที่สุดก็ถึงแล้ว "เกาะสีชัง"


จริงๆ ก็หาที่พักมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาได้

ที่พักชื่อ "ริมทะเล รีสอร์ท" โทรไปจองวันศุกร์ อาจจะเป็นหน้าฝนด้วยเลยมีห้องว่าง ซึ่งห้องที่จองไปชื่อ บ้านแสงเดือน

>> link ที่พัก http://www.kohsichangrimtalay.com/



คืนละ 900 บาท มีแอร์ พัดลม ทีวี น้ำเปล่า 2 ขวด เตียงนอน เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มี Breakfast มีแต่กาแฟ ขนมปังปิ้ง

ภาพจากในเว็ป





พอถึงท่าเรือเกาะสีชังประมาณเที่ยงกว่าๆ ก็โทรหาเจ้าหน้าที่ พอดีเค้ามารับอีกกรุ๊ปอยู่แล้วเลยรับเราพ่วงไปด้วยเลย เป็นรถสองแถวเบอร์ 5 พาเข้าที่พักนั่นเอง

เมื่อไปถึงที่พักปรากฎเจ้าของบอกว่าบ้านแสงเดือนที่จองไว้คนเก่าไม่ยอมออกค่ะ ขออยู่ต่อ เรามีเงิบไปนิดนึง อ้าว ไรฟระ คิดในใจ

แล้วเค้าก็บอกว่า เปลี่ยนเป็นห้องนี้ได้มั้ย คืนละ 800 บาท แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เราคิดในใจว่า เล่นมาถึงขนาดนี้จะให้ยกเลิกหรอเลยต้องยอม

เลือกห้องนี้แทน ชื่อ "บ้านแสงดารา" แล้วก็จ่ายส่วนที่เหลืออีก 350 บาท สภาพก็พออยู่ได้ค่ะ เก่าหน่อยแต่น้ำแรงนี่เราก็โอเคแล้วค่า
อยู่ห้องที่ 3 นับจากซ้าย




พร้อมกับเช่ามอเตอร์ไซค์เพื่อขี่รอบเกาะคันละ 300 บาท เติมน้ำมันให้ 1 ลิตรค่ะ

หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยก็ออกเดินทางตามรอยพันทิพคนอื่นทันที

ซึ่งที่แรกที่ไปคือ "พระราชวังจุฑาธุชราชฐาน" เป็น Landmark ของที่นี่

ส่วนนี้ภาพจากเว็ปค่ะ





ข้างในตึกจะมีน้ำ เช่น แดงมะนาวโซดา ชามะนาว โอวัลติน เป็นต้น และขนมขายแต่ไม่มีกาแฟสด ราคาน้ำต่อแก้วอยู่ที่ 40 บาทค่ะ

หลังจากนั้นก็เดินถ่ายรุปไปเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายสถานที่เท่าไร ส่วนมากเน้นถ่ายคนมากกว่า 55+ ซึ่งถ้าจะดูสถานที่ต่างๆ สามารถเข้าไป

รีวิวของคุณโต้งซังได้เลยค่ะ ละเอียดมาก

ขอบอกไว้ก่อนว่าเนื่องจากเราต้องการชิมอาหารกับเทียบคุณภาพทุกร้านที่ไปกิน จึงสั่งแต่อาหารเหมือนกันทุกที่นะคะ มีแตกต่างบ้างนิดหน่อย

หลังจากนั้นเรา 2 คนก็หิวข้าวเพราะตอนนี้ยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่มาถึง ซึ่งร้านแรกที่ลงคือ "ร้านป้าหน่อย อาหารทะเล" ตามที่เค้าริวิวๆ กันมาค่ะ

ต้มยำทะเลน้ำข้น

หมึกผัดไข่เค็ม

หอยนางรม

ข้าวผัดปูจานใหญ่

หอยแครงลวก

รสชาติคิดว่าอร่อยไม่รู้เป็นเพราะหิวหรือเปล่า แต่หมึกผัดไข่เค็มเรารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่แล้วก็รสชาติเค็มไปหน่อย
สรุปมื้อนี้หมดไป 770 บาท แน่นท้องเลย กินไม่หมดห่อกลับจ้า


หลังจากอิ่มหนำกันเสร็จก็ไปขี่รถ survey พื้นที่รอบเกาะ ซึ่งจะอยากจะบอกว่าเป็นเกาะที่เป็นเกาะจริงๆ เข้าใจปะ 55+

มองไปทางไหนก็มีแต่บ้านคนอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ร้านค้าจะอยู่แค่ฝั่งเดียวคือฝั่งทางท่าเรือยาวไปจนถึงพระราชวังจุฑาธุชราชฐาน ที่เหลือก็จะเป็นบ้านคน

แล้วก็เป็นร้านขายของทั่วไป ขายอาหารสด ขายของชำ มี 7/11 อยู่ที่เดียวคือตรงท่าเรือ แต่ที่นี่จะมีท่าเรือ 2 ที่สำหรับน้ำขึ้นกับน้ำลด

ส่วนหาดที่เล่นน้ำได้มีที่เดียวคือ ถ้ำเขาพัง น้ำใส สะอาด แต่ชายหาดหินเยอะ ในทะเลไม่มีหินค่ะ แต่ใสไม่เท่าเกาะล้าน

รูปภาพหาดตรงถ้ำเขาพังจากเว็ปค่ะ





วันนี้แค่มาดูหาดก่อนแต่ยังไม่ได้ลงเล่นค่ะ หลังจากนั้นก็ไปสถานที่ต่อไปคือ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่"

ทางเข้าวัด ไม่ได้ขึ้นไปไหว้เพราะวัดปิดแล้วค่ะ


หลังจากขี่วนไปวนมา survey ไปเรื่อยๆ อุ๊ย หิวกันอีกแล้ว ปาย...งั้นไปหาร้านอาหารกินกันต่อ

มาเจอร้านที่ 2 อยู่ไม่ห่างจากร้านป้าหน่อยเท่าไร เมนูที่สั่งเหมือนเดิมเลยค่า





แต่มื้อนี้มีเพิ่มปูนึ่งค่ะ กิโลละ 450 บาทได้มาหลายตัวอยู่

มือนี้หมดไป 840 บาทหนักปูล้วนๆ 555+ หมึกผัดไข่เค็มดีกว่าร้านแรกหน่อยแต่ก็ยังไม่อร่อยที่สุด ข้าวผัดปูข้าวเละแต่รสชาติยังได้อยู่


แล้ววันแรกก็หมดเวลาลง...กลับห้องนอนรอตื่นมาดูพระอาทิตย์ตอนเช้า

เช้าวันอาทิตย์ตื่นมา 06.00 น. ปรากฏว่าฝนตกปรอยๆ อดดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย คุณแฟนก็ออกไปตกปลา

ทดสอบเบ็ดซะหน่อยหน้าที่พักได้หมึกมาตั้ง 1 ตัวเลยเอาเป็นเหยื่อล่อปลาต่อ

เลยพากันขี่มองไซค์ไปท่าเรืออีกท่าเพื่อไปตกปลาโดยเฉพาะ แวะซื้อปลาท่องโก๋ โอวัลตินร้อนๆ แบบ Slow Life

แล้วก็มีถึงที่หมาย ท่าเรืออีกท่า ตกปลาชิวๆ





แต่เกาะสีชังเป็นสถานที่ที่วิวไม่ค่อยสวยเท่าไรในความรู้สึกของเรา ในทะเลมีเรือดูดทรายเยอะมาก

ให้ความรู้สึกเหมือนเกาะอุตสาหกรรมยังไงก็ไม่รู้ ระหว่างกลับเกาะก็มีเรือใหญ่ตลอด

เรือประมาณนี้ค่ะอยู่เต็มไปหมด



ตกปลาไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมา 8.00 น. ตัดสินใจว่าจะไปเล่นน้ำกันก่อนก็เลยกลับที่พักไปกินกาแฟ โอติน ปังปิ้งที่รีสอร์ทดีกว่า

พอไปถึงปรากฏเตาปิ้งเสียจ้า มีแต่ขนมปังเฉยๆ กับซองกาแฟไว้ให้ชง เราก็ fail หน่อยๆ แต่ไม่เป็นไรไปเล่นน้ำดีกว่า

แต่เราเล่นน้ำแค่แป๊บเดียวไม่ถึงชม. + หิวด้วยเลยไปแวะร้านที่เค้าเขียนไว้ว่ามี Breakfast ขายเป็นร้านติดแอร์ น่าเข้าที่สุดในเกาะแล้วค่ะ

สั่งไปไม่กี่อย่างมีม็อคค่าปั่นวิป 70 บาท, โกโก้ปั่นวิป 70 บาท, เค้กช็อคหน้านิ่ม 55 บาทและเค้กชาไทย 55 บาท หมดไป 250 บาท



รสชาติใช้ได้ ราคาก็ประมาณนี้แหล่ะ กินรองท้องไว้เฉยๆ กว่าจะกลับที่พักก็ 10 โมงกว่าแล้ว อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้านกันดีกว่า

หลังจาก Check out แล้วพนักงานก็พาเราแว๊นไปส่งที่ท่าเรือรอบ 12.00 น. ถ้าเต็มก็ออกก่อน

นั่งเรือมากลับเข้าฝั่ง (เกาะลอย) อุ๊ย ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลย หิวอ่ะ แวะหาร้านแถวๆ นี้กินแล้วกัน

มีร้านเยอะมาก พนักงานเดินออกมาเรียกแขกอยู่เต็มไปหมด จนเลือกได้ร้านนึง เข้าไปสั่งเมนูเดิม

เปิดเมนูดู ราคาถูกกว่าที่เกาะอีก






มื้อสุดท้ายของเกาะสีชัง เกาะลอย 690 บาทค่ะ


สรุปแล้ว 3 ที่ร้านที่อร่อยที่สุดคือ ร้านป้าหน่อยค่ะ

กินจนท้องแตกถามเด็กในร้านว่าจะกลับกรุงเทพยังไง ได้ความว่าให้ไปขึ้นรถตู้อยู่ตรงโรบินสัน เรียกวินไปคนละ 25 บาท

ถามคนแถวนั้นบอกสามล้อแพงมาก 60-80 บาทเลยไม่กล้าขึ้น

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมกินแล้ว 4,889 บาทตกคนละ 2,444.50 บาทแต่เราคิดตั้งแต่นั่ง taxi จากบ้านมาเลย


จบแล้ว เย่ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ -/\-