ออกไปทิ้งตัวใส่ธรรมชาติกันเถอะ!!!
สองวันหนึ่งคืนที่ 'บ้านกกกอด' กาญจนบุรี
27.07.2015
Ig: aeioyok fb: koykoy muiris
สวัสดีค่าา
ทริปนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มนึงชื่อ 'เหตุใดจึงมีชีวิตอยู่' (นิ้วกลม) เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดที่เรามีและชอบมาก ถ้าใครเคยอ่านจะรู้เลยว่าเล่มนี้เขียนไว้ดีมาก นั่นแหละ พอได้อ่านแล้วเราก็รู้สึกมีไฟ อยากจะออกไปใช้ชีวิตให้มันคุ้มๆหน่อยบวกกับช่วงนี้มีปัญหาชีวิตด้วย ก็เลยเอาวะ! ลากเพื่อนรู้ใจแบกเป้ไปกาญด้วยโจทย์ที่เราตั้งให้ตัวเองว่า 'เราจะออกไปทิ้งตัวใส่ธรรมชาติ'
(คือว่าเรารีวิวไม่เป็น555555 ขอเล่าในแบบของตัวเองละกัน รูปเยอะมากเราถ่ายเล่นๆ อาจจะไม่สวยเท่าของจริงนะคะ ถ้าผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยค่าา)
เริ่มเลยย!
เรานั่งรถตู้จากอนุตรงก่อนถึงเซนจูรี่ ล้อหมุนประมาณเก้าโมงกว่า..
ถึงท่ารถบขส.กาญสิบเอ็ดโมงนิดๆ
ต่อรถจากบขส.ไปน้ำตกเอราวัณน่าจะราวๆ60กิโลกว่าได้มั้ง ระหว่างทางฝนก็ตกปรอยๆอิแม่ใจบ่ดี
ทางเข้าอุทยานเก็บเงินค่าเข้าด้วยใช้บัตรนักเรียนนักศึกษาจ่ายครึ่งราคา แต่เราดันลืมเอามาจ่ายราคานักท่องเที่ยวไปจ้าา #ร้องไห้หนักและนานมาก
ถึงอุทยานประมาณบ่ายโมง
เรามีเวลาอยู่ที่นี่แค่3ชม.เพราะรถลงเขารอบสุดท้ายหมดสี่โมงเย็น #บ้าจริง55555
เป้าหมายเราคือ ชั้นที่7 นี่ก็รีบขึ้นไปแข่งกับเวลา
แต่ทำไมเดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที
แต่ทำไมมองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป
ตอนเดินๆอยู่นึกถึงเพลงนี้จริงๆ55555555555555
สุดท้ายก็หยุดแค่ชั้น4 แล้วค่อยๆไล่ลงมาเก็บภาพกับเรื่องราวระหว่างทาง
'ไม่ได้หมดแรง แต่หมดเวลา'
ใช้ชีวิตเร่งรีบเหมือนคนกรุงเลย หลอนนน555555
เอาเถอะก่อนจะไม่มีรถกลับ5555 ขอแปะโป้งไว้ก่อนนะ สัญญาว่าจะมาต่ออีก3ชั้นให้ได้
สามโมงกว่าๆก็ลงมากินข้าวกินข้าวรอรถออก
(ไม่มีรูปของกินเลยเราเอาเข้ากระเพราะเราอย่างรวดเร็ว5555555)
พอสี่โมงก็ไปขึ้นรถ ด้วยความที่เป็นรอบสุดท้ายมั้งคนเยอะมากเบียดเสียด เราได้นั่งอยู่เสี้ยวก้น5555
ชาวต่างชาติก็เยอะเม้ากันเสียงดังมาก ดีนะเราฟังไม่รู้เรื่อง55555555
เราลงจากรถที่แยกโป่งปัด เพื่อต่อรถเข้าไปที่ 'บ้านกกกอด' ค่ารถคนละ50บาท เข้าไปลึกพอสมควร
เหนื่อยมาทั้งวันในที่สุดก็ถึงซักที ขอทิ้งตัวลงใส่ที่นี่แล้วกัน!!
ว่าจะออกไปกอดธรรมชาติ พลาดท่าเสียทีจนได้ดันโดนธรรมชาติกอด
ที่นี่ไม่มีwifi ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ ไม่มีตู้เย็น แต่ที่นี่มีธรรมชาติ
จุดนี้เราคิดว่าเราไม่ได้ต้องการอะไรเลย
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรามันเติมเต็มทุกอย่างแล้ว
ถึงจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแต่ตอนที่เราไปบ้านพักเต็มหมดนะจ้ะ แต่ยังเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ดูเหมือนว่าทุกคนที่มาพักที่นี่ก็มาหาที่ทิ้งตัวแบบเรา
ในบ้านมีพัดลมให้หนึ่งตัว แต่เรารู้สึกว่าอากาศหนาวเหมือนเปิดแอร์15องศามากๆ555555555
บรรยากาศตอนมองออกมาจากในห้อง
อารมณ์แบบนอนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ
มีน้องหมาชื่อขนมผิงมานอนเฝ้าเราทั้งคืนด้วยนะ555555 เราชอบมันมากซนๆเหมือนเด็ก เวลาเราเดินไปไหนก็ชอบตาม555 แต่พอเราตั้งใจจะเล่นด้วยดันลงไปนอน บางทีก็ก้มหน้าหนี เมินกันเฉย
เราว่ามันเป็นหมาที่มีความติสแบบศิลปินและความกวนตีนในตัวเองสูงมาก55555 นึกละก็ก็คิดถึงเลย
มีเรือให้พายเล่นด้วยไม่เสียตังค์แต่ถ้าใครจะพายเรือคายัค ที่นี่เขาคิดชม.ละ99บาท ตอนที่เราจะพายนี่แล้งพอดี น้ำลดเยอะเลยอดพายรู้สึกพลาดมาก
แต่ถ้าเป็นปกติน้ำจะขึ้นเยอะสามารถนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำได้สบายๆเลย
ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยที่นี่มีหนังสือดีๆให้อ่านเพียบ มีเกมส์พวก บิงโก domino jenga ให้เล่นด้วยมีอีกหลายอย่างมากจำไม่ได้55555555
มีมุมดีๆให้นั่งชิลรับลมแล้วก็ที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก แล้วถ้าใครไม่มีรถมาก็ไม่ต้องกลัวจะออกจากที่พักลำบากตอนกลับที่นี่เขามีบริการไปส่งที่แยกโป่งปัดให้ต่อรถง่ายๆด้วย มาเที่ยวกันเยอะๆน้าา
_______________________________________________________________________________________
เมื่อธรรมชาติอนุญาติให้พักสายตา
เอ้า! ลืมเรื่องแย่ๆ เอาความเหนื่อยล้าจากงาน จากการเรียนหรือปัญหาทั้งหมดมาทิ้งที่นี่เร็ว
ปล่อยความทุกข์ลอยไปกับทุ่งหญ้าและฟ้าสีคราม
เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องยอมรับว่าเราทำได้ดีที่สุดแค่ปล่อยให้มันเป็นไป
เราจัดการกับทุกอย่างบนโลกไม่ได้ แต่เราจัดการกับความคิดตัวเองได้
ลองถามตัวเองว่าเวลาที่ผ่านมาเราใช้งานตัวเองหนักเกินไปหรือเปล่า
พาตัวเองมาชาจแบตบ้าง
ความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวเรานี่แหละช่วยเติมพลังได้ดีที่สุด
ท้องฟ้า ผืนน้ำ และพื้นดิน มีเรื่องดีๆแอบซ่อนอยู่
เพียงแค่ลองสัมผัสมัน หลับตา แล้วเปิดใจ
เราจะพบมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ
แอบได้ยินต้นกก กระซิบกับเราว่า 'ทิ้งตัวใส่ฉันสิ'
ใครมีเรื่องไม่สบายใจอยากหนีมาพักเราว่าที่นี่เหมาะมาก
คิดจะพักคิดถึง บ้ า น ก ก ก อ ด
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาอยู่ตอนนี้นะคะ
อย่าเอาใจไปผูกติด ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวเอง
แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น แล้วมันจะผ่านไป
เก็บปัญหาใส่กล่องไว้แล้วจูงมือใครซักซักคนเอากล่องปัญหามาทิ้งที่นี่นะคะ รับรองว่าจะไม่ได้กลับไปมือเปล่าแน่ๆ จะได้ความสบายใจกับไปเป็นของแถมอีกด้วย คุ้มเกินคุ้ม
เราชอบประโยคหนึ่งของหนังสือ 'ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา'
"บางครั้งชีวิตเราเหมือนกำลังหลงป่าอยู่ แค่ต้องหาทางออกจากป่าให้ได้ แล้วถ้าอยากเดินกลับเข้าไปในป่าใหม่ก็ต้องเดินไปให้รู้ทางอย่างไม่หลงอีก"
ซึ่งเราว่ามันก็จริง ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าทางออกมันอยู่ตรงไหน
เราต่างมีป่าเป็นของตัวเอง
เวลาและสติจะพาเราไปถึงทางออกได้เอง
สุดท้ายนี้เราอยากฝากไว้
ทำอะไรแล้วมีความสุข ถ้าไม่เดือดร้อนใครก็จงทำไปเถอะ สุขกับมันให้เต็มที่
ทว่าความสุขของคนเราต่างกัน
ส่วนตัวเราคิดว่าความสุขคือ 'ความสบายใจ'
หาความสุขของตัวเองให้เจอแล้วใช้มันให้คุ้มที่สุด
สุขอยู่ที่ใจ โชคดีค่ะ
จบทริปนี้พร้อมกับสัญญาที่ให้กับธรรมชาติ
'เราจะกลับมาสัมผัสคุณอีกครั้ง'
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง.
ที่ไม่ใช่แค่สนุก แต่พร้อมเหนื่อยพร้อมลุยไปด้วยกัน
ขอบคุณที่ทำให้ทริปนี้น่าจดจำ(-:
'การเดินทางที่แสนพิเศษ'
28.07.2015
เราจะมาพบกันใหม่
____________________________________________________________________________________________
[CR] ออกไปทิ้งตัวใส่ธรรมชาติกันเถอะ!!!
สองวันหนึ่งคืนที่ 'บ้านกกกอด' กาญจนบุรี
27.07.2015
Ig: aeioyok fb: koykoy muiris
สวัสดีค่าา
ทริปนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มนึงชื่อ 'เหตุใดจึงมีชีวิตอยู่' (นิ้วกลม) เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดที่เรามีและชอบมาก ถ้าใครเคยอ่านจะรู้เลยว่าเล่มนี้เขียนไว้ดีมาก นั่นแหละ พอได้อ่านแล้วเราก็รู้สึกมีไฟ อยากจะออกไปใช้ชีวิตให้มันคุ้มๆหน่อยบวกกับช่วงนี้มีปัญหาชีวิตด้วย ก็เลยเอาวะ! ลากเพื่อนรู้ใจแบกเป้ไปกาญด้วยโจทย์ที่เราตั้งให้ตัวเองว่า 'เราจะออกไปทิ้งตัวใส่ธรรมชาติ'
(คือว่าเรารีวิวไม่เป็น555555 ขอเล่าในแบบของตัวเองละกัน รูปเยอะมากเราถ่ายเล่นๆ อาจจะไม่สวยเท่าของจริงนะคะ ถ้าผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยค่าา)
เริ่มเลยย!
เรานั่งรถตู้จากอนุตรงก่อนถึงเซนจูรี่ ล้อหมุนประมาณเก้าโมงกว่า..
ถึงท่ารถบขส.กาญสิบเอ็ดโมงนิดๆ
ต่อรถจากบขส.ไปน้ำตกเอราวัณน่าจะราวๆ60กิโลกว่าได้มั้ง ระหว่างทางฝนก็ตกปรอยๆอิแม่ใจบ่ดี
ทางเข้าอุทยานเก็บเงินค่าเข้าด้วยใช้บัตรนักเรียนนักศึกษาจ่ายครึ่งราคา แต่เราดันลืมเอามาจ่ายราคานักท่องเที่ยวไปจ้าา #ร้องไห้หนักและนานมาก
ถึงอุทยานประมาณบ่ายโมง
เรามีเวลาอยู่ที่นี่แค่3ชม.เพราะรถลงเขารอบสุดท้ายหมดสี่โมงเย็น #บ้าจริง55555
เป้าหมายเราคือ ชั้นที่7 นี่ก็รีบขึ้นไปแข่งกับเวลา
แต่ทำไมเดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที
แต่ทำไมมองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป
ตอนเดินๆอยู่นึกถึงเพลงนี้จริงๆ55555555555555
สุดท้ายก็หยุดแค่ชั้น4 แล้วค่อยๆไล่ลงมาเก็บภาพกับเรื่องราวระหว่างทาง
'ไม่ได้หมดแรง แต่หมดเวลา'
ใช้ชีวิตเร่งรีบเหมือนคนกรุงเลย หลอนนน555555
เอาเถอะก่อนจะไม่มีรถกลับ5555 ขอแปะโป้งไว้ก่อนนะ สัญญาว่าจะมาต่ออีก3ชั้นให้ได้
สามโมงกว่าๆก็ลงมากินข้าวกินข้าวรอรถออก
(ไม่มีรูปของกินเลยเราเอาเข้ากระเพราะเราอย่างรวดเร็ว5555555)
พอสี่โมงก็ไปขึ้นรถ ด้วยความที่เป็นรอบสุดท้ายมั้งคนเยอะมากเบียดเสียด เราได้นั่งอยู่เสี้ยวก้น5555
ชาวต่างชาติก็เยอะเม้ากันเสียงดังมาก ดีนะเราฟังไม่รู้เรื่อง55555555
เราลงจากรถที่แยกโป่งปัด เพื่อต่อรถเข้าไปที่ 'บ้านกกกอด' ค่ารถคนละ50บาท เข้าไปลึกพอสมควร
เหนื่อยมาทั้งวันในที่สุดก็ถึงซักที ขอทิ้งตัวลงใส่ที่นี่แล้วกัน!!
ว่าจะออกไปกอดธรรมชาติ พลาดท่าเสียทีจนได้ดันโดนธรรมชาติกอด
ที่นี่ไม่มีwifi ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ ไม่มีตู้เย็น แต่ที่นี่มีธรรมชาติ
จุดนี้เราคิดว่าเราไม่ได้ต้องการอะไรเลย
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรามันเติมเต็มทุกอย่างแล้ว
ถึงจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแต่ตอนที่เราไปบ้านพักเต็มหมดนะจ้ะ แต่ยังเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ดูเหมือนว่าทุกคนที่มาพักที่นี่ก็มาหาที่ทิ้งตัวแบบเรา
ในบ้านมีพัดลมให้หนึ่งตัว แต่เรารู้สึกว่าอากาศหนาวเหมือนเปิดแอร์15องศามากๆ555555555
บรรยากาศตอนมองออกมาจากในห้อง
อารมณ์แบบนอนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ
มีน้องหมาชื่อขนมผิงมานอนเฝ้าเราทั้งคืนด้วยนะ555555 เราชอบมันมากซนๆเหมือนเด็ก เวลาเราเดินไปไหนก็ชอบตาม555 แต่พอเราตั้งใจจะเล่นด้วยดันลงไปนอน บางทีก็ก้มหน้าหนี เมินกันเฉย
เราว่ามันเป็นหมาที่มีความติสแบบศิลปินและความกวนตีนในตัวเองสูงมาก55555 นึกละก็ก็คิดถึงเลย
มีเรือให้พายเล่นด้วยไม่เสียตังค์แต่ถ้าใครจะพายเรือคายัค ที่นี่เขาคิดชม.ละ99บาท ตอนที่เราจะพายนี่แล้งพอดี น้ำลดเยอะเลยอดพายรู้สึกพลาดมาก
แต่ถ้าเป็นปกติน้ำจะขึ้นเยอะสามารถนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำได้สบายๆเลย
ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยที่นี่มีหนังสือดีๆให้อ่านเพียบ มีเกมส์พวก บิงโก domino jenga ให้เล่นด้วยมีอีกหลายอย่างมากจำไม่ได้55555555
มีมุมดีๆให้นั่งชิลรับลมแล้วก็ที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก แล้วถ้าใครไม่มีรถมาก็ไม่ต้องกลัวจะออกจากที่พักลำบากตอนกลับที่นี่เขามีบริการไปส่งที่แยกโป่งปัดให้ต่อรถง่ายๆด้วย มาเที่ยวกันเยอะๆน้าา
_______________________________________________________________________________________
เมื่อธรรมชาติอนุญาติให้พักสายตา
เอ้า! ลืมเรื่องแย่ๆ เอาความเหนื่อยล้าจากงาน จากการเรียนหรือปัญหาทั้งหมดมาทิ้งที่นี่เร็ว
ปล่อยความทุกข์ลอยไปกับทุ่งหญ้าและฟ้าสีคราม
เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องยอมรับว่าเราทำได้ดีที่สุดแค่ปล่อยให้มันเป็นไป
เราจัดการกับทุกอย่างบนโลกไม่ได้ แต่เราจัดการกับความคิดตัวเองได้
ลองถามตัวเองว่าเวลาที่ผ่านมาเราใช้งานตัวเองหนักเกินไปหรือเปล่า
พาตัวเองมาชาจแบตบ้าง
ความสวยงามของธรรมชาติรอบตัวเรานี่แหละช่วยเติมพลังได้ดีที่สุด
ท้องฟ้า ผืนน้ำ และพื้นดิน มีเรื่องดีๆแอบซ่อนอยู่
เพียงแค่ลองสัมผัสมัน หลับตา แล้วเปิดใจ
เราจะพบมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ
แอบได้ยินต้นกก กระซิบกับเราว่า 'ทิ้งตัวใส่ฉันสิ'
ใครมีเรื่องไม่สบายใจอยากหนีมาพักเราว่าที่นี่เหมาะมาก
คิดจะพักคิดถึง บ้ า น ก ก ก อ ด
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาอยู่ตอนนี้นะคะ
อย่าเอาใจไปผูกติด ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวเอง
แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น แล้วมันจะผ่านไป
เก็บปัญหาใส่กล่องไว้แล้วจูงมือใครซักซักคนเอากล่องปัญหามาทิ้งที่นี่นะคะ รับรองว่าจะไม่ได้กลับไปมือเปล่าแน่ๆ จะได้ความสบายใจกับไปเป็นของแถมอีกด้วย คุ้มเกินคุ้ม
เราชอบประโยคหนึ่งของหนังสือ 'ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา'
"บางครั้งชีวิตเราเหมือนกำลังหลงป่าอยู่ แค่ต้องหาทางออกจากป่าให้ได้ แล้วถ้าอยากเดินกลับเข้าไปในป่าใหม่ก็ต้องเดินไปให้รู้ทางอย่างไม่หลงอีก"
ซึ่งเราว่ามันก็จริง ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าทางออกมันอยู่ตรงไหน
เราต่างมีป่าเป็นของตัวเอง
เวลาและสติจะพาเราไปถึงทางออกได้เอง
สุดท้ายนี้เราอยากฝากไว้
ทำอะไรแล้วมีความสุข ถ้าไม่เดือดร้อนใครก็จงทำไปเถอะ สุขกับมันให้เต็มที่
ทว่าความสุขของคนเราต่างกัน
ส่วนตัวเราคิดว่าความสุขคือ 'ความสบายใจ'
หาความสุขของตัวเองให้เจอแล้วใช้มันให้คุ้มที่สุด
สุขอยู่ที่ใจ โชคดีค่ะ
จบทริปนี้พร้อมกับสัญญาที่ให้กับธรรมชาติ
'เราจะกลับมาสัมผัสคุณอีกครั้ง'
ขอบคุณเพื่อนร่วมทาง.
ที่ไม่ใช่แค่สนุก แต่พร้อมเหนื่อยพร้อมลุยไปด้วยกัน
ขอบคุณที่ทำให้ทริปนี้น่าจดจำ(-:
'การเดินทางที่แสนพิเศษ'
28.07.2015
เราจะมาพบกันใหม่
____________________________________________________________________________________________
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น