แชร์ประสบการณ์ ขอค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี ครับ

สวัสดีครับ ผมขอมาแชร์ขั้นตอนการขอค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีครับ

ผมคิดว่าหลายๆท่านคงคิดว่ามันได้ยาก เลยยอมทิ้งไปทั้งๆที่จริงๆแล้วมันเป็นสิทธิ์ของเราครับ เมื่อรถเราถูกชนและต้องเอาเข้าซ่อม เรามีสิทธิ์เรียกร้องค่าชดเชยที่เกิดขึ้นจริงจากการขาดประโยชน์เนื่องจากไม่ได้ใช้รถครับ

สำหรับขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมากครับ ผมถูกชนเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ก็ได้ใบเคลมจากประกันของผมเอง แต่ไม่ได้ของคู่กรณี (ตรงนี้ก็งงๆปกติคู่กรณีต้องให้เราไว้ด้วย) แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่มีก็ได้ แต่เราต้องจำทะเบียนรถของคู่กรณีและวันที่ชนครับ

สำหรับรถผมนั้นเป็นรถนำเข้า เลยต้องมีการสั่งอะไหล่จากต่างประเทศ จึงทำให้ต้องรออะไหล่ 3 เดือนก่อนจะได้ซ่อมจริง ซึ่งรถไม่ได้โดนชนหนักมาก จึงเอามาวิ่งรออะไหล่ได้ ส่วนการเอาเข้าซ่อมที่อู่จริงๆใช้เวลา 20 วันเต็มครับ (โดนทั้งหน้าหลัง เป็นคันกลาง)

เมื่อซ่อมเสร็จก็ต้องขอเอกสารใบส่งรถและรับรถจากศูนย์ที่มีวันที่ระบุชัดเจน ได้แล้วก็รวบรวมเอกสารเลยครับ มีดังนี้ครับ

หนังสือขอรับค่าชดเชยจากการขาดประโยชน์ ที่จะต้องระบุ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทร ทะเบียนรถ เลขตัวถังของเรา (หาได้จากใบเคลม) และระบุว่าถูกรถยี่ห้อ รุ่นอะไร ทะเบียนอะไร ชน ซึ่งเป็นรถที่เอาประกันไว้กับบริษัท A เมื่อวันที่เท่าไหร่ ส่งผลให้รถยนต์ของเราเสียหายอย่างไร และแนบหลักฐานความเสียหายไปด้วย นั่นก็คือ เอกสารใบเคลมที่ประกันภัยออกให้นั่นเองครับ (ถ้ามีของที่บริษัทคู่กรณีออกให้ ก็แนบใบนั้นไปเลยครับ)

ในหนังสือผมได้ระบุช่วงเวลาที่เข้าซ่อมด้วย และบอกว่าระหว่างที่เอารถเข้าซ่อมนั้น เราต้องใช้รถไปไหนบ้าง กี่วัน และมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ ตรงนี้ผมคำนวณตามจริงครับ วันเสาร์อาทิตย์ผมไม่ได้เรียกร้อง เพราะถือว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถ ผมขอไปแค่วันธรรมดาที่ต้องไปทำงาน ในส่วนนี้ผมระบุเลยว่าต้องการค่าชดเชยทั้งหมดกี่บาท (เท่ากับค่าแทกซี่ที่เสียไป)

ตรงนี้ผมแนบ แผนที่จาก Google Map ที่ระบุระยะทางจากบ้าน - ที่ทำงาน ทั้งไปและกลับ และ แบบคำนวณค่าแทกซี่ตามระยะทาง ซึ่ง search google คำว่าคำนวณค่าแทกซี่ ได้เลยครับ

เอกสารอื่นๆที่ขาดไม่ได้คือ สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาใบขับขี่ และสำเนากรรมธรรม์ของเรา (อันนี้แนบไปเผื่อ) เอกสารถ่ายสำเนาทุกใบเซ็นรับรองสำเนาด้วยครับ

จากนั้นก็โทรไปที่บริษัทประกันของคู่กรณี ต่อแผนกสินไหมเลย และสอบถามเบอร์แฟกซ์จากเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง อย่าลืมจดชื่อเจ้าหน้าที่ไว้ เพราะต่อไปเราจะต้องตามเอกสารจากเค้า แล้วก็รอครับ ของผมรอสองวันก็รู้ผล

ตอนแรกเค้าเสนอให้แค่ 6,000 บาท (500 บาท 12 วัน) เค้าแจ้งว่าจริงๆแล้วความเสียหายของรถผมเนี่ยไม่ได้ใช้เวลาซ่อมนานขนาดนั้น เค้าเลยหักเวลารออะไหล่ด้วย ซึ่งผมรับไม่ได้ครับ เพราะผมรออะไหล่ไป 3 เดือนแล้ว เอารถเข้าซ่อมคืออะไหล่พร้อมหมดแล้ว เข้าไปถอดประกอบทำสีเลย

ทางบริษัทประกันจึงไปเสนอผู้ใหญ่ขอเพิ่มให้เป็น 14 วันเต็มตามที่เรียกร้อง และให้วันละ 500 บาท (ผมคำนวณไปวันละ 570) ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ จึงยอมรับข้อเสนอครับ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะขอเอกสารตัวจริงคือ สำเนาบัตรประชาชน/เล่มทะเบียนรถ/สำเนา book bank แล้วแต่เจ้า บางเจ้าจะคืนเป็นเชคก็ไม่ต้องแนบ book bank เราก็ส่งหลักฐานดังกล่าวไปทางไปรษณีย์และรอรับเงินได้เลยครับ

เท่ากับว่า 20 วันที่ไม่มีรถใช้ ผมได้เงินชดเชยมา 7,000 บาท ซึ่งดีกว่าไม่ได้อะไรเลยนะครับ อยากให้เพื่อนๆลองทำดู มันไม่ได้ยุ่งยากอะไร ถ้าเราไม่ได้ขอเยอะเกินความเป็นจริง ทางประกันเค้าอนุมัติง่ายๆเลยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่