การที่ กสทช.ออกกฎถือครองคลื่นไม่เกิน 60 mhz เพื่อบีบให้ dtac คืนคลื่น 25 mhz ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์และสามารถสร้างรายได้ให้ทาง dtac คืนสู่ กสทช.ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการใช้มาตรา 44 เพื่อเอาเปรียบธุรกิจเอกชนเลยซึ่งเป็นผลเสียอย่างมาก ในระยะยาวต่อไปเพราะใครอยากจะมาลงทุนทำธุรกิจสื่อสารในไทย ในเมื่อภาครัฐกล้าออกกฎเพื่อยึดสิ่งที่เอกชนจ่ายเงินและทำสัญญาไว้แล้ว
การบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐหรือใช้มาตรา 44 เพื่อกรณีใดๆก็ตามที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติ ต้องมีการเยียวยาหรือมีสิ่งตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้รับผลกระทบด้วย
ถ้าให้ กสทช.ออกกฎถือครองคลื่นไม่เกิน 60 mhz ซึ่งคล้ายคลึงการใช้มาตรา 44 เพื่อยึดสิ่งที่เอกชนจ่ายเงินและเซ็นสัญญาไว้แล้ว ให้เปลี่ยนเป็นใช้มาตรา 44 เพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมยังดูดีกว่า
ให้ภาครัฐยึดคลื่น 25 mhz ที่ไม่ใช้งานจาก cat-dtac เพื่อให้เกิดใบอนุญาติ 4G 1800 ทั้งหมด 4 ใบ 15 mhz,15 mhz,10 mhz,10 mhz แล้วยกใบอนุญาติ 4G 1800 ที่ 15 mhz ให้ my ไปเปิดบริการ 4G แถมให้สิทธิ์ใบอนุญาติ 4G 2600 ที่ 15 mhz อีก 1 ใบ โดยให้ my ชำระเงินค่าใบอนุญาติคลื่นความถี่ 1800 และ 2600 ตามความเหมาะสมคงจะเป็นทางออกที่ดีเพราะถือคลื่นอยู่ในมือเฉยๆไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรถึงกันยา 61 มันเปล่าประโยชน์กว่าจะได้นำมาประมูลใหม่ก็คงเป็นช่วงต้นปี 62 ให้เอาคลื่นที่ไม่ใช้งานมาบริการประชาชนยังเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมากและให้สัญญาทั้ง 2 ใบอนุญาติกับทาง my เป็นเวลา 15 ปีตั้งแต่ 59-73
ข้อเสนอ my 4G 1800/2600 น่าจะมากพอที่จะนำคลื่น 25 mhz ที่ไม่ใช้งานคืนสู่ภาครัฐได้ ส่วนการเยียวยา dtac ก็ทำได้ด้วยการมอบคลื่นที่ไม่ใช้งานเช่น 700 หรือ 850 ไปเปิดบริการ 4G แทนที่คลื่น 1800 ที่เซ็นสัญญาและจ่ายเงินไปแล้ว
แล้วคลื่น 1800 ที่เหลืออีก 3 ใบก็แบ่งไปให้ ais 15 mhz,jas 10 mhz,true 10 mhz ส่วนคลื่น 2600 ถ้าค่ายไหนต้องการก็ยังมีเหลืออีกหลายสล็อต ยังมีเหลือให้หลายเจ้าได้ทำ 4G 2600 แน่นอน แถมยังมีคลื่น 2500 ให้ได้ทำ 4G อีก(ค่ายที่ได้คลื่น 1800 ที่ 10 mhz นั้นพิจารณาตามความเหมาะสมของสภาพธุรกิจที่ค่ายนั้นดำเนินอยู่แล้วค่อยไปเอาคลื่น 2500,2600 กว้าง 15-20 มาเพิ่มเติมก็ยังได้)
แล้วสมมติว่าเปลี่ยนกฎการประมูลเป็นการให้ภาครัฐขายใบอนุญาติคลื่นความถี่แก่ค่ายมือถือต่างๆ ที่จริงแล้วก็สามารถทำได้เพราะบ่อเกิดของกฎหมายก็คือ ความมีสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีของคนและการทำสิ่งต่างๆที่ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
การเปลี่ยนกฎหมายจากการประมูลเป็นการขายใบอนุญาติ 4G ตามราคาที่เหมาะสมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้วและทำให้ค่ายมือถือต่างๆได้ทำ 4G เร็วขึ้นด้วยและยิ่งทำให้หลายค่ายได้ลุยทำ 4G ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยได้มาก สมมติว่าใบอนุญาติ 4G 15 mhz 2 ใบประมูลได้ 2 ค่าย ค่ายแรก 32,000 ล้านบาท ค่ายที่สอง 30,000 ล้านบาท รวมกันได้ 62,000 ล้านบาท กับการที่มีใบอนุญาติ 4G 4 ใบ ตั้งราคาใบที่มีคลื่นกว้าง 15 mhz ใบละ 26,000 ล้านบาท ใบที่มีคลื่นกว้าง 10 mhz ใบละ 22000 ล้านบาท รวมเงินได้ 96,000 ล้านบาทเพราะฉะนั้นมันก็ไม่แน่ว่าการประมูล 4G จะได้เงินมากกว่าเสมอไป
แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือยิ่งทำให้หลายค่ายได้เปิดบริการ 4G ย่อมทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจประเทศไทยมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้เกิดการลงทุนโครงข่าย อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องและงานบริการต่างๆบนเทคโนโลยี 4G ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือทางออกที่ดีของ 4G ประเทศไทย ถ้าทำได้ตามนี้เศรษฐกิจดิจิตอลพุ่งอย่างมากมายแน่
รัฐควรยึดคลื่น 1800 ที่ไม่ใช้งาน 25 mhz แล้วให้ my ทำ 4G 1800/2600 แล้วมอบคลื่นที่ไม่ใช้งานให้ dtac ทำ 4G
การบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐหรือใช้มาตรา 44 เพื่อกรณีใดๆก็ตามที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาติ ต้องมีการเยียวยาหรือมีสิ่งตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้รับผลกระทบด้วย
ถ้าให้ กสทช.ออกกฎถือครองคลื่นไม่เกิน 60 mhz ซึ่งคล้ายคลึงการใช้มาตรา 44 เพื่อยึดสิ่งที่เอกชนจ่ายเงินและเซ็นสัญญาไว้แล้ว ให้เปลี่ยนเป็นใช้มาตรา 44 เพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมยังดูดีกว่า
ให้ภาครัฐยึดคลื่น 25 mhz ที่ไม่ใช้งานจาก cat-dtac เพื่อให้เกิดใบอนุญาติ 4G 1800 ทั้งหมด 4 ใบ 15 mhz,15 mhz,10 mhz,10 mhz แล้วยกใบอนุญาติ 4G 1800 ที่ 15 mhz ให้ my ไปเปิดบริการ 4G แถมให้สิทธิ์ใบอนุญาติ 4G 2600 ที่ 15 mhz อีก 1 ใบ โดยให้ my ชำระเงินค่าใบอนุญาติคลื่นความถี่ 1800 และ 2600 ตามความเหมาะสมคงจะเป็นทางออกที่ดีเพราะถือคลื่นอยู่ในมือเฉยๆไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรถึงกันยา 61 มันเปล่าประโยชน์กว่าจะได้นำมาประมูลใหม่ก็คงเป็นช่วงต้นปี 62 ให้เอาคลื่นที่ไม่ใช้งานมาบริการประชาชนยังเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมากและให้สัญญาทั้ง 2 ใบอนุญาติกับทาง my เป็นเวลา 15 ปีตั้งแต่ 59-73
ข้อเสนอ my 4G 1800/2600 น่าจะมากพอที่จะนำคลื่น 25 mhz ที่ไม่ใช้งานคืนสู่ภาครัฐได้ ส่วนการเยียวยา dtac ก็ทำได้ด้วยการมอบคลื่นที่ไม่ใช้งานเช่น 700 หรือ 850 ไปเปิดบริการ 4G แทนที่คลื่น 1800 ที่เซ็นสัญญาและจ่ายเงินไปแล้ว
แล้วคลื่น 1800 ที่เหลืออีก 3 ใบก็แบ่งไปให้ ais 15 mhz,jas 10 mhz,true 10 mhz ส่วนคลื่น 2600 ถ้าค่ายไหนต้องการก็ยังมีเหลืออีกหลายสล็อต ยังมีเหลือให้หลายเจ้าได้ทำ 4G 2600 แน่นอน แถมยังมีคลื่น 2500 ให้ได้ทำ 4G อีก(ค่ายที่ได้คลื่น 1800 ที่ 10 mhz นั้นพิจารณาตามความเหมาะสมของสภาพธุรกิจที่ค่ายนั้นดำเนินอยู่แล้วค่อยไปเอาคลื่น 2500,2600 กว้าง 15-20 มาเพิ่มเติมก็ยังได้)
แล้วสมมติว่าเปลี่ยนกฎการประมูลเป็นการให้ภาครัฐขายใบอนุญาติคลื่นความถี่แก่ค่ายมือถือต่างๆ ที่จริงแล้วก็สามารถทำได้เพราะบ่อเกิดของกฎหมายก็คือ ความมีสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีของคนและการทำสิ่งต่างๆที่ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
การเปลี่ยนกฎหมายจากการประมูลเป็นการขายใบอนุญาติ 4G ตามราคาที่เหมาะสมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้วและทำให้ค่ายมือถือต่างๆได้ทำ 4G เร็วขึ้นด้วยและยิ่งทำให้หลายค่ายได้ลุยทำ 4G ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยได้มาก สมมติว่าใบอนุญาติ 4G 15 mhz 2 ใบประมูลได้ 2 ค่าย ค่ายแรก 32,000 ล้านบาท ค่ายที่สอง 30,000 ล้านบาท รวมกันได้ 62,000 ล้านบาท กับการที่มีใบอนุญาติ 4G 4 ใบ ตั้งราคาใบที่มีคลื่นกว้าง 15 mhz ใบละ 26,000 ล้านบาท ใบที่มีคลื่นกว้าง 10 mhz ใบละ 22000 ล้านบาท รวมเงินได้ 96,000 ล้านบาทเพราะฉะนั้นมันก็ไม่แน่ว่าการประมูล 4G จะได้เงินมากกว่าเสมอไป
แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือยิ่งทำให้หลายค่ายได้เปิดบริการ 4G ย่อมทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจประเทศไทยมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้เกิดการลงทุนโครงข่าย อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องและงานบริการต่างๆบนเทคโนโลยี 4G ที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือทางออกที่ดีของ 4G ประเทศไทย ถ้าทำได้ตามนี้เศรษฐกิจดิจิตอลพุ่งอย่างมากมายแน่