[CR] รีวิว: Slow Life in South Korea - ผู้หญิงคนเดียว หนีเที่ยวไม่เจอคนไทย :)

สวัสดีค่ะ  นี่เป็นครั้งแรกของการรีวิวในพันทิป เป็นกระทู้แรกด้วย ผิดพลาดยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ

เราพึ่งมีโอกาสได้ไปเกาหลีใต้ครั้งแรก หลังจากที่คนครึ่งค่อนประเทศเขาไปเที่ยวกันมาแล้ว ทำให้มีรีวิวเกี่ยวกับเกาหลีใต้เยอะมากกก เยอะแบบรู้ทุกอย่าง รอแค่ไปเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น

สถานที่ที่เรามารีวิวครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเพื่อหนีคนไทยหรอกค่ะ แค่พอไปแล้วไม่เจอคนไทยเลยเท่านั้นเองซึ่งต่างกับที่อื่นที่แอบได้ยินภาษาไทยอยู่บ่อยๆ

หรือถ้าพูดตามความจริง เราเป็นนักท่องเที่ยวคนเดียวที่เดินถ่ายรูปอยู่แถวนั้นเลย...เงียบมาก รู้สึกอยู่กับตัวเองสุดๆ


โซลเป็นเมืองที่มีหลายอารมณ์มาก แต่ละวันของเรามีตั้งแต่เงียบสงบ ยันเสียงเพลงดังเรียกผู้คนเข้าผับ ต่างจากชีวิตประจำวันที่ไทยที่วุ่นวายตลอดเวลา เหมือนได้หนีไปเติมพลังจริงๆ

เผื่อใครไปโซลแล้วอยากหนีไปมีมุมสงบแบบเรา ก็ตามมาได้เลยนะคะ

--------------------------------------------------------------------------

1. PAJU BOOK CITY
    Subway - Hapjeong Station (Line 2 or 6)  Exit 1 --> Bus No. 2200, 200 (เข้าแถวแรกมีหมายเลขรถที่ป้ายและพื้นถนน หรือสังเกตว่าคนต่อแถวเยอะ) --> นั่งไปประมาณ 30 นาที่ --> พอได้ยิน Eunseokgyo Sageori ก็เตรียมลงเลย รู้สึกจะเป็นป้ายรถเมล์แรกหลังจากวิ่งมายาวนาน (ถ้าลงไม่ทันก็ไม่เป็นไรค่ะ อยู่ในบริเวณเดียวกัน) --> ถึงแล้ว!!

ใครที่มาแล้วแนะนำให้แวะมาที่ตึกนี้ก่อนนะคะ Information Center มาหยิบแผนที่หรือนั่งพักสักนิดหน่อยก่อน ส่วนเราไปเดินมั่วจนทั่วแล้วมาที่นี้เป็นที่สุดท้ายเลย TT


เราชอบดูตึก ชอบถ่ายรูปตึกค่ะ มาที่นี้เราไม่เบื่อเลย ใครที่ไม่ชอบดูพวกสถาปัตยกรรมที่นี้อาจไม่ใช้จุดหมายของคุณนะคะ


วันนี้โชคดีอากาศสดใส เจอเจ้าถิ่นด้วยค่ะ


เมืองหนังสือ เป็นเมืองที่รวมเอาสำนักพิมพ์มาไว้ด้วยกันค่ะ แต่ละตึกสำนักพิมพ์จะมีสถาปัตยกรรมที่ต่างกันออกไป เหมือนกับแนวทางของหนังสือที่แต่ละสำนักพิมพ์ตีพิมพ์ขึ้นมาเช่นเดียวกัน


มีหลายคนถามว่าสร้างเมืองนี้ขึ้นมาทำไม เขาตอบว่า 'เพื่อฟื้นฟูมนุษยธรรมที่สูญหายไปคืนมา เมืองหนังสือนั้นควรเป็นพื้นที่ให้กับมนุษย์'


ช่วงที่เราไปพึ่งจะหมดฤดูหนาวค่ะ ต้นไม้ยังแห้งแล้งไปหมด นี้เป็นความเขียวชะอุ่มเล็กๆที่เราเจอ


หลังจากเดินไปหลายชั่วโมง ปลอบตัวเองว่าเมืองนี้ยังไม่ร้างจริงๆนะ ยังมีรถจอดอยู่ คนคงทำงานกันอยู่ข้างใน

มีครอบครัวมาพักผ่อน หนึ่งเลนสำหรับจักรยาน อีกหนึ่งเลนสำหรับคนเดิน

เรามาเพื่อสิ่งนี้!!...บันไดที่ใช้ถ่าย MV บ่อยๆ เพลง ME-Super Junior M และ Into the New World ของสาวๆ GG (ไม่เก่าไปใช่มั้ย)

ข้างๆ Information Center คือบ้านโบราณ เพื่อเฝ้าดูการเกิดและเติบโตของเมืองทันสมัยที่เกิดใหม่เหล่านี้


หลายๆตึกสำนักพิมพ์เป็นคาเฟ่ สามารถเดินเข้าไปนั่งทานกาแฟ เยี่ยมชมหนังสือ(ซึ่งเป็นภาษาเกาหลี)ได้นะคะ แต่เราไม่ได้แวะเลยค่ะไม่กล้าเข้า อย่างที่บอก...แวะมาหยิบแผนที่ที่นี้ก่อน



ชีวิตช้าๆที่แรกจบลงไปแล้วค่ะ ไว้มีโอกาสเราคงได้เจอกันใหม่

ขากลับ เรามาขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้ามกับป้ายที่ลงค่ะ นั่ง 2200 กลับโซล เพราะถามคนที่ป้ายรถเมล์เขาบอกว่า 200 กลับไม่ได้ ก็งงเหมือกัน (แต่ขามาเราก็นั่ง2200มาค่ะ)
ถ้าใครมาที่นี้อาจช่วยกันระวังเรื่องเสียงด้วยนะคะ เพราะเมืองเงียบมาก และเค้าทำงานกันอยู่ข้างใน

ปล. คนที่จะไป English Village Paju Camp, Heyri Art Village, หรือ Provence Village สามารถใช้เส้นทางเดียวกันได้เลยนะคะ ทางออกรถไฟใต้ดินเขาเปลี่ยนจากทางออก 2 --> ทางออก 1 ค่ะ ช่วงเราไปเขาพึ่งเปลี่ยน งงกันหมดทั้งไทยจีนเกาหลีเลย


เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   เกาหลีใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่