หลังจากดูละครเวที The Sound of Music แบบไม่ได้ตั้งใจ

ขอขอบคุณอาเจ้นิดหน่อย (พี่สาวแสนสวย)พี่อ้วน น้องเดียร์+คุณแม่ น้องรินซี่ และเพื่อนๆพี่ๆน้องของพี่อ้วน ที่ได้ให้ไปร่วมชมละครเวทีเรื่องนี้
   อาเจ้              "วันพฤหัส ไปดูละครเรื่อง The Sound of Music กันนะ"
   ผมก็ทำหน้างงๆ " หา.....อะไรนะ (หูได้ยินเป็นเรื่อง  Sound of Silence ) บอกตอนไหนจะไปดูด้วยเนี่ย ....เอ้า ไปก็ไป"
    เพราะความไม่ตั้งใจและไม่ได้สนใจฟัง คนเรามักจะจำแต่ประโยคที่เราคุ้นเคย ก็มโน เล็กๆ Sound of Silence มันเป็นเพลงโฟลค์ซอง
สมัยเราหัดเล่นใหม่ๆนี่นา แล้วมาทำเป็นละครเวทีเนี่ยนะ หุๆ คิดไม่ออกเลยจะเป็นเรื่องยังไงน๊อ แต่ก็โอเค ละครเวที คงสนุกอยู่แล้วล่ะน่า
  ย้อนไปเมือดูละครเวทีครั้งแรก เมื่อสมัยโรงละครกรุงเทพ ก่อนฟองสบู่แตก (น๊านนานเนาะ*-*)นั่นคือครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมเคยดู (ตอนนั้นก็เพื่อนๆพี่ๆสาวๆในออฟฟิศ อีกนั่นแหละที่ชวนไปดู..ขอบพระคุณครับ )ก็ยังประทับใจกับเสน่ห์ของละครเวทีในตอนนั้นอย่างมากมาย มายุคปัจจุบันก็ไม่ได้สนใจหรือติดตามอยากดู เห็นแต่ในทีวี เวลาโปรโมทละครต่างๆก็จะนั่งดูบ้าง ฟังข่าวคราวบ้างเป็นระยะๆไป  ก็เลยทำให้อยากหวลกลับไปถึงเสน่ห์ที่ทำให้คนดูติดตราตรึงใจ ในรูปแบบละครเวที อีกสักครั้ง
  หลังจากรีบเดินทางเข้า กทม จนมาถึงเอสพานาดรัชดา ก็มองหาร้านนั่งรอสมาชิก และหาอะไรรองท้องสะหน่อย (แอบเห็นขนมรูปปลาชื่อดังจากญี่ปุ่นคิวไม่ยาวมาก ดีใจจัง ได้ซื้อกลับไปทานแน่ๆ แต่เขาให้ซื้อคนละ 6 ชิ้น ก็แอบถามพนักงาน ขอสิบชิ้นได้ไหม มาไกลน่ะ น้องสุดหล่อก็ใจดีมาก คิวไม่ยาวก็ให้10ชิ้นก็ได้พี่ นายได้ใจพี่ไปเลยน้องเอ๊ย ก็ได้ของฝากกลับบ้านแบบหน้าบานแล้ว*-*)
ระหว่างนั่งรอ ผมก็ยังนึกว่าชื่อเรื่องละครเวที คือ Sound of Silence อยู่นั่นแหละ (ต้องขออภัยผู้ที่เกี่ยวข้องนักแสดงผู้กำกับและทุกท่านๆ ณ ที่นี้)ด้วยความที่ไม่ได้สนใจและไม่รู้รายละเอียดแบบ ศูนย์เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้แม้แต่เพลงหรือชื่อนักแสดง ขนาดสถานที่จัดแสดงก็เพิ่งGoogleมาเป็นครั้งแรกนี่แหละครับ แต่พอเจอพี่อ้วน ๆ ก็บอก จำได้ไหมเพลงนี้ไง แล้วแกก็ร้องเพลงให้ฟัง "โด เร มี เร มี ซอล ลา" (หากเนื้อร้องผิด ขออภัย เพราะไม่รู้จักเนื้อเพลงจริงๆ)จำได้แต่ทำนอง ว่าเคยฟังผ่านๆหูสมัยเด็กๆและเป็นเพลงที่ชอบมากและไม่เคยฟังแบบเต็มๆเลยสักครั้งเพราะไม่รู้จักชื่อเพลงเลย ก็ทำให้ ผมรู้จักละครเวทีเรื่องนี้ เพิ่มขึ้น จาก ศูนย์เป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แค่นั้น ตอนนั้นผมก็เริ่มเบิกบานในใจ เพลงนี้เราชอบมาก คงได้อิ่มเอมกับบทเพลงเหล่านี้แน่เลย
  แต่ก็แอบได้ยินคนในกลุ่มคุยกัน "เค้าว่ามีคนดูไปหลับไปด้วยนะ.....ไม่เหมือนต้นฉบับเลย บลาๆๆ " แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจรายละเอียดเหล่านี้มากนักเพราะผมเห็น จากในทีวี พูดถึงรายละเอียดของการทำละครเวทีเรื่องต่างๆ ว่ามันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหนและผู้แสดงและผู้กำกับและทีมงานทุกท่านๆทุ่มทั้งตัวและหัวใจให้กับผู้ชมแบบเทกายถวายใจ ให้แบบเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ และจากอดีตที่เคยประทับใจกับการชมละครเวทีมาแล้ว ผมจึงตั้งใจเปิดใจแบบให้มาเกินร้อยก็ขอเปิดใจดูแบบเกินร้อยเหมือนกันไปเล๊ย.....
  และเมื่อใกล้เวลาแสดง สิ่งที่ทำให้ผมนี่ขอ ปรบมือให้เลย คือการตรงต่อเวลาและกฏระเบียบในการเข้าชมการแสดง โดยมีการชี้แจงอยู่หน้างานตลอดเวลา(ขอชมน้องๆทุกคนที่หน้างานที่คอยประชาสัมพันธ์เรื่องกฏระเบียบและมารยาทต่างๆในการเข้าชมอย่างนิ่มนวลสุภาพตลอดเวลา บริการด้วยใจและรอยยิ้ม จริงๆได้ใจไปเลย)  เมื่อเข้าสู่ภายในก็รู้สึกตื่นเต้นกับฉากแสงสีเสียงที่กำลังจะเริ่ม ตอนนั้นก็แอบหันไปถาม "พระเอกนางเอกใครแสดงน่ะ" น้องนั่งข้างๆก็บอก "ไม่รู้เหมือนกันพี่" ก็เลยได้แต่แอบอมยิ้มกันไป
  และเมื่อการแสดงเริ่มต้น (ไม่ขอเล่ารายละเอียดเนื้อหาในละครเวทีมากนัก เผื่อบางคนกำลังจะไปดูหรือกำลังคิดจะไปดูจะได้ไม่เสียบรรยากาศ)เพลงแรกของการประสานเสียงของ กลุ่มแม่ชี ก็ยังทำให้ผมยังนิ่งๆและยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะด้วยความไม่รู้ถึงรายละเอียดของละครเรื่องนี้ และเป็นการเปิดเรื่องในเพลงแรก ก็เลยยังเฉยๆ ฉากแสงสีเสียงอลังการและสวยงามมากๆทำได้ดีเยี่ยม และ เสียงดนตรีออเครสตร้า ต่างๆที่เริ่มบรรเลง ก็ทำให้ ทุกประสาทสัมผัสผมเริ่มเปิดโล่งออกมา เพราะชอบธีมเพลงในรูปแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อนางเอกออกมาฉากแรก (ขอโทษจริงๆนะครับๆๆ) ผมก็นั่งมอง ใครหว่า เสียงใสๆดี แสดงได้น่ารักสดใสร่าเริงมากๆ (ฉากแรกก็หลงเสน่ห์ไปแล้ว) ตอนนั้น มโนภาพเล็กในหัวผม บวกกับเครื่องเสียงต่างๆที่บรรเลง ทำให้ภาพการ์ตูน walt disney มันลางๆเข้ามาในหัวผมแบบไม่ตั้งใจ
  และเมื่อพระเอกในเรื่องออกมา ผมก็ยิ้มปริ " เฮ นี่ ชาย ชาตโยดม นี่นา รู้จักแล้วหนึ่งคน แอบอมยิ้มในใจ " (ไม่ค่อยรู้จักดารานักร้องเท่าไหร่ อายเลย) แต่ก็มึคำถามในใจทันที แล้วชาย เขาร้องเพลงได้เหรอเนี่ย ไม่เคยฟังสักที ลุ้นๆ... และแล้วก็มาถึงฉากที่นางเอกต้องร้องเพลงกับเด็กๆเจ็ดคน น่ารักมากๆๆๆๆประทับใจมากๆๆๆๆๆๆๆ อยากดูฉากนี้อีกสัก 10 รอบ ตอนนั้นภาพของเจ้าหญิงสโนไวท์ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เงือกน้อยเมอร์เมด และตัวละครอื่นๆในธีมของ walt disney ที่กำลังร้องเพลงและเต้นรำอย่างสนุกสนานสดใสร่าเริง ที่ตราตรึงในใจเราสมัยเด็กๆ ก็ปรากฏออกมาทับซ้อนกับตัวนางเอกและเด็กๆทุกๆคนบนเวที เหมือนเอาภาพจากจินตนาการ ออกมาสู่โลกจริงบนเวที จนทุกสายตาหยุดนิ่งไปกับบทเพลงในอดีตและความน่ารักสดใส ที่เปล่งประกายบนเวที ความน่ารักของเด็กๆและนางเอกในแต่ละเพลงดูแล้วอยากดูอีกหลายๆรอบเลย และฉากซึ้งของพระเอกกับเด็กๆทั้งเจ็ดคน บอกแบบไม่อายเลย ถ้าไม่เกรงใจคนข้างๆผมคงปล่อยให้น้ำตาไหลโจ๊กๆ ไปแล้ว น้ำตาซึมเลย แสดงกันได้ ถึงบทถึงอารมณ์จริงๆ นางเอกน้ำตาไหลไปด้วยเลย ซึ้งๆๆ จนเสียงปรบมือถล่มทลายไปทั่วทั้งห้องในแทบทุกๆเพลงเลย
  เมื่อถึงตอนหยุดพักครึ่งแรก พี่อ้วน ก็หันมาบอกว่า "นางเอกมีสองคนนะเขาผลัดกันแสดง "
                                      ผม     "ไม่ล่ะพี่ ชอบนางเอกคนนี้ไปแล้ว รักกลุ่มแสดงชุดนี้ไปแล้ว ไม่อยากหลายใจอ่ะ"
                                      พี่อ้วน   อมยิ้ม  "เหรอๆๆๆๆๆๆ......"
    ก็เลยได้รู้ว่า นางเอกและแม่อธิการ มีนักแสดงอย่างละสองท่าน ผลัดกันเล่นคนละรอบ ก็ต้องยอมรับเพราะต้องใช้พลังเสียงในการร้องแต่ละเพลง สูงมากๆถึงหลายๆคนจะบอกว่าต้องโหนเสียงร้อง แต่ผมว่ารายละเอียดเหล่านี้มองข้ามไปดีกว่า ดูที่ความตั้งใจและการทุ่มเทในการเล่นบนเวที รับรองว่าไปดูอะไรเราก็สนุกซึ้งใจและเต็มอิ่มกับการแสดงนั้นได้เสมอๆ แต่ก็เริ่มคุยกันในกลุ่มว่าอยากดูอีกรอบที่นางเอกและแม่อธิการอีกชุดเล่น คงสนุกน่ารักสดใสร่าเริงซึ้งๆไม่ต่างกันแน่เลย
  และสิ่งที่ผมคาใจก็หายไป เมื่อได้เห็น คุณชาย ร้องเพลงในละครเวทีแห่งนี้หลายๆเพลง ในคีย์ที่แบบ ร้องยากมากๆๆๆๆๆๆๆ  ด้วยความที่เคยเห็นแต่ในบทละครทางทีวีบ้าง ในรายการอื่นๆบ้าง แต่ยอมรับเลยไม่เคยเห็นการเล่นที่คุณชายร้องและ การพยายามดึงอารมณ์ของตัวพระเอกเมื่อต้องร้องเพลงที่กล้ำกลืนบึบคั้นอารมณ์ของความรักบ้านเกิดให้ออกมา จากก้นบึงของเสียงเพื่อให้คนดูได้รับถึงแรงกดดันในบทเวลานั้นแล้ว ผมนี่คาราวะจากใจเลย สุดยอดมาก สมแล้วกับมนต์เสน่ห์ของละครเวที ที่ครองใจผู้คนทั้งโลก
  และตัวละครคู่หมั่นกับเพื่อนสนิทของพระเอก ก็เล่นได้ดีมาก ยิ่งตอนคู่หมั้นแต่งชุดราตรี พี่ๆน้องผู้หญิง ต่างชมกันไม่หยุด ชุดใส่สวยมากหุ่นดีมาก เสียงก็สูงมากๆๆๆๆๆ ได้ใจไปกับทุกๆตัวละครไปเลย และเมื่อจบการแสดงก็ยังอยากฟังเพลงโดเรมี กันอีกสักรอบ เสียดายจังเลย ระหว่างเดินทางกลับอาเจ้ก็เลยเปิดเพลง โดเรมี แบบ original ให้ดูให้ฟังแบบเพลินๆไป
  สุดท้าย แค่อยากจะเล่าให้ฟังว่า ด้วยความไม่ตั้งใจไปดูไม่สนใจและไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับละครเวทีเรื่องนี้ แต่พอไปดู บอกได้คำเดียวว่า อยากไปดูอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  พี่ๆเพื่อนๆน้องๆอาเจ้ก็อยากไปดูอีก เพลงเพราะ นักแสดงทุ่มเทน่ารักทุกคน รวมถึงทุกคนๆที่ร่วมจัดร่วมสร้างละครเวทีเรื่องนี้ ขอบคุณครับๆ ที่ได้ให้รอยยิ้มและความสุขไม่รู้ลืม กับผู้ชมได้อย่างสุดประทับใจ
ขอหลับฝันถึงเพลงในอดีต แบบหวานๆละไมๆ ในคืนนี้ก่อนล่ะครับ
ปล. เนื่องจากอยากเก็บภาพความประทับใจเสียงเพลงบรรยากาศและความซึ้งใจอื่นๆอีกมากมาย จากการได้ชมในวันนี้ จึงยังไม่เปิดดูรายชื่อนักแสดงผู้สร้างหรือผู้กำกับ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ภาพความทรงจำของวันนี้ชัดเจนตราตรึง จึงขออภัยทุกๆท่านในละครเวทีเรื่องนี้ด้วยนะครับ ขอฝันดีกับภาพแห่งความรักความทรงจำแบบไม่ได้ตั้งใจแบบนี้สักหนึ่งคืน พรุ่งนี้จะนั่งดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทุกอย่างอีกทีนะครับ ขอบคุณครับผม....*-*
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่