เราค่อนข้างยึดถือหลักการเป็นเฟมินิสต์นะคะ
แต่เราเข้าใจประเด็นที่คุณ จขกท. เค้าจะสื่อ คือ
ผู้ชายทุกคนถ้าไม่พิการหรือร่างกายบกพร่องจริงๆ
ยังไงก็ต้องไป  จะด้วยความสมัครใจหรือไม่ก็ตาม
ถูกระบุ บังคับไว้เป็นกฎหมาย
จริงๆ มองในแง่นี้ ผู้หญิงได้เปรียบกว่าจริงๆ

(((*****ขอฝากบอกเหล่าสาวๆด้วยกันว่า
คุณจะข้ามเนื้อหาเกี่ยวกับกระทู้ ในคห.เราไปก็ไม่เป็นไร  
ควรอ่านในสปอยล์ด้านล่างสุด  แต่ถ้าไม่อยากรู้  
ห้ามเปิดสปอยล์ดูเนื้อหาเด็ดขาด
ส่วนผู้ชายขอความกรุณาว่าอย่าอ่านในสปอยล์นะคะ)))

คนบางคนที่มากระแนะกระแหนเค้า  แบบไม่ใช้เหตุผล
-ถ้าเป็นผู้ชาย เราคิดว่าคุณอาจจะแค่กระแนะกระแหนแสดงความแมน
เอาหล่อ เอาเท่ไปอย่างนั้น ถ้าพิจารณาจริงๆ  พวกคุณไม่ได้วัดความแมน
จากจุดนี้เพียงจุดเดียวได้หรอก พวกคุณที่ไม่ยอมรับความเห็นของคนอื่น
กระแนะแหนเค้า แล้วจะยังคิดว่าตัวเองแมนหรือ???

-ส่วนถ้าเป็นผู้หญิง  ในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน และเป็นเฟมินิสต์ด้วย
เรารู้สึกอายนิดๆที่ทำไมผู้หญิงเราจะต้องมายอมรับความได้เปรียบและยินดีไปกับมัน
และทำให้ ผญ ดูทุเรศแบบนี้ด้วย เรารักษาสิทธิของผู้หญิงด้วยกัน
เราปกป้องเพศหญิงที่ถูกเอาเปรียบได้  เราทักท้วงสิ่งผิดปกติที่เกิดกับเรา
เราเรียกร้องในความเท่าเทียมของเพศหญิง-ชาย

ทำไมคนอื่น เพศอื่นถึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องในความเท่าเทียมบ้าง. ????

เรามีสิทธิ์กล่าวหาในความไม่เท่าเทียมในสังคมที่มีต่อผู้หญิงได้ต่างๆนาๆ
โดยที่ยังมีคนรับฟัง ทำไมคนอื่นถึงไม่มีสิทธิ์กล่าวหา ทักท้วงบ้าง ???
แล้วทำไมเราจึงมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องรับฟังเค้าล่ะคะ??

คำกล่าวอ้างว่าผู้หญิงเราก็ทำหน้าที่อื่น เสียภาษีอะไรนั่น
ควรตกไป เพราะผู้ชายก็ต้องทำอย่างเท่าเทียมกับเราค่ะ
เป็นผู้หญิงจะต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ชายหรือยังไง??? ก็ไม่นะ

การเป็นทหารอาชีพของทั้ง ชาย หญิง
ไม่อยู่ในประเด็นของกระทู้ เพราะมันคือความสมัครใจ

และขอฝากไว้ให้ทุกคนเข้าใจ ว่า
กลุ่มผู้หญิงปกป้องสิทธิสตรี
และเรียกร้องในความเท่าเทียมทางเพศ
ไม่ได้เรียกร้องความได้เปรียบทางเพศ

ถ้าเราไม่รับรู้ ไม่รับฟัง และไม่แก้ไข ในสิ่งที่ผู้อื่นเรียกร้อง
ในสิ่งที่ผู้อื่นทักท้วงว่าเป็นความไม่เท่าเทียม
ความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงในสังคมจะมีได้อย่างไร


ส่วน จขกท.
คุณคิดว่าจะเสนอวิธีไหนมาเพื่อแก้ไข
สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นความไม่เท่าเทียมนี้รึเปล่าคะ?
ลองเสนอมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็ดีนะ

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
*** เพิ่มเติมค่ะ

     {{{{{{{ขอฝากไปถึงผู้หญิงด้วยกันอีก 1 เรื่องนะคะ}}}}}}

อ่านในสปอยล์

No mens allowed
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างที่เราบอกไว้ข้างต้น ถ้าคุณคือ ผญ กรุณาเสียสละเวลาอ่านให้จบ
มันจะคุ้มค่าแน่นอน ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่ทราบ
ผช ปิดสปอยล์ไปได้เลยนะคะ อย่าอ่านเด็ดขาด
เดี๋ยวจะรู้ทัน ผญ เรา ไม่ดีๆ

พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เราก็นึกขึ้นได้
ว่าเรื่องในกระทู้นี้มันเชื่อมโยงกับความรู้สึกอันซับซ้อนของ ผช
ที่ผญ เราก็ไม่เข้าใจ และอาจเป็นปัญหาในชีวิตคู่รักของเรา

        ผญ เรา ทุกคนมักต้องเคยประสบปัญหา ที่คุณ ผช มักทำตัวงี่เง่า
กับเรื่องบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจ บางเรื่องก็แทบจะไร้สาระสุดๆ
ก็ได้จะต้องทะเลาะกันทุกครั้งไป  เราอยากขออธิบายให้คุณได้เข้าใจ
ในสิ่งที่เราคิดว่า เราได้สังเกตุเห็น

    ในบางครั้งถ้าเราพยายามทำความเข้าใจผู้ชายเกี่ยวกับเรื่องนี้
เราจะพบว่า  คุณผู้ชายที่อยากเรียกร้องอะไรกับเราแบบงี่เง่า ทำตัวมีปัญหา
ชอบบ่นถึงเรื่องนั้นเรื่องนุ้น บางครั้งก็น่ารำคาญจนเราต้องอารมเสีย
บางทีเค้าก็ไม่ได้ต้องการให้เราต้องทำทุกอย่างตามที่เค้าเรียกร้องจริง  
เค้าเพียงแค่อยากระบายให้เราฟัง  อยากได้กำลังใจจากเรา
อยากให้เรารับรู้และรับฟังในสิ่งที่รบกวนภายในจิตใจเค้า
หรือเพียงแค่อยากได้ การเอาใจใส่ การเอาอกเอาใจ
การเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างเล็กน้อย

       ถ้าคุณแฟน นางชอบบ่น ระบายนุ่นนี่นั่น ให้เราฟัง ทั้งที่ไม่อยากฟัง
ทั้งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเรา หรือ บางครั้งก็บ่นเราเองนี่แหละ
การที่ผลลัพธ์ของมันจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับ ปฏิกิริยาตอบสนองของเรา
อย่างเช่น  คุณแฟนบ่นเรื่องใดเรื่องเรื่องนึงให้เราฟัง  หากเราไปพูดซ้ำเติม
พูดในลักษณะที่ไม่แคร์ ไม่รับฟังเค้า ในตอนนั้น  ปัญหาอาจจะเกิดตามมาได้ง่ายๆ

แต่หากเราพยายามรับฟังสิ่งที่เค้าพูดระบายออกมา
และแสดงความเห็นใจให้กำลังใจ ช่วยปลอบใจเค้า
ด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ รื่นหู  ที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่
เค้าจะรู้สึกเติมเต็มในส่วนลึกของจิตใจ
เค้าจะรู้สึกว่า คุณจะอยู่เคียงข้างเค้าและแคร์ความรู้สึกเค้า

      เมื่อเค้าขอร้องอะไรคุณเล็กน้อย  ไม่มากจนเกินไป
ถ้าเราตอบรับข้อเรียกร้องของเค้า เค้าก็จะรู้สึกดีอย่างนี้เช่นเดียวกัน
ในบางครั้งถ้าเราตกลงยอมทำตามข้อเรียกร้อง เค้าอาจห้ามไม่ให้เราทำด้วยซ้ำ
เหมือนแค่จะลองใจว่า เราจะยอมเสียสละเพื่อเค้ามั๊ย

ถ้าไม่เข้าใจ  ขอตย.ฉาก Mr. and Mrs. Smith ฉากดินเนอร์ที่ แบรดพิท
ขอให้โจลี่หยิบเกลือให้หน่อย แล้ว โจลี่ บอกว่ามันอยู่กึ่งกลางระหว่างเรา (ประมาณว่า หยิบเองสิ)
สังเกตุ สีหน้าแบรดพิทตอนนั้น ความสุขหมดไปในทันทีทันใด

ยกอีกตัวอย่าง เรื่องแชร์ค่าอาหาร  หากเราไม่เคยขอแชร์
ไม่เคยจ่าย ไม่เคยแสดงการเสียสละเลย
หรือไม่คิดว่าจำเป็นที่จะต้องทำอย่างนั้นด้วยซ้ำไป

เมื่อผู้ชายอยากรู้ว่าเราเป็นอย่างไร บางทีก็ไม่ใช้การถามโดยตรง
แต่จะวัดเอาจากปฏิกิริยา ความรู้สึกของที่เราที่แสดงออกต่อเค้า
หากตัวเราไม่ผ่านการทดสอบนี้
ความรู้สึกเคลือบแคลงใจในตัวเราจะเกิดขึ้นกับเค้า
เค้าจะรู้สึกผิดหวังเล็กๆอยู่ภายในจิตใจ

อย่างเรื่องแชร์ค่าอาหาร ซึ่งจริงๆ เค้าอาจไม่ได้เสียดายเรื่องเงินหรอก
แต่เค้าอยากรู้ว่าคนที่เค้ารัก  คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกเค้า
จะมีทัศนคติต่อการเสียสละอย่างไร และเค้าก็อาจห้ามเมื่อเราจะช่วยแชร์
(นางทำตัวดูเหมือนอยากให้เราจ่ายมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆกลับไม่ยอม
ให้เราออกแม้แต่บาทเดียวด้วยซ้ำไป  ไม่รู้ว่าต้องการอย่างไรกันแน่ เยอะจิงเชียะ)

ส่วนในข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ หรือมากเกินไป
เราควรรับฟังแล้วปฏิเสธด้วยเหตุผล อย่าใช้ความรู้สึกในการตอบ

     ทั้งหมดนี้  จะช่วยให้คุณทั้งคู่มีความสุขในการอยู่ร่วมกัน
เรา ผญ ไม่ใช่จะเป็นผู้ที่เข้าใจยากอยู่ฝ่ายเดียว ผู้ชายก็เช่นกัน
แค่เพียงคนไม่เข้าใจเปลี่ยนมาเป็นเราเท่านั้นเอง
      เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้ว เค้าจะมั่นใจในตัวเรา และไม่ทำตัวเยอะแบบนี้อีก
เพราะถ้ายังทดสอบอีก เดี๋ยวเจอตัวแม่ของจริง อิอิ

ต้องอภัยหากเนื้อหาวกวนไปบ้างหรือมีข้อผิดพลาด
เราพิมพ์ในมือถือยาวๆแบบนี้ไม่ค่อยถนัด