* ผลงานชิ้นสุดท้ายของ Paul Walker ในซีรี่ย์ที่ทำให้เขาโด่งดังมาตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งภาคที่กำกับโดย James Wan ซึ่งดูจากผลงานที่เขาเคยกำกับนั้นจะมีแต่หนังผีทั้งนั้นเลยทำให้สงสัยนิดนึงแน่นอนว่าเขาจะถ่ายฉากแอ็คชั่นได้ แต่ผลลัพธ์นั้นออกมาได้ดีไม่น้อยเลยครับ (ถึงแม้แกจะชอบหมุ่นกล้องบ่อยไปหน่อยเถอะนะ) และถือว่าเป็นผลงานการแสดงเปิดตัวเรื่องแรกของจาพนมใน Hollywood ด้วยเลยก็ว่าได้
ข้อดี / ข้อเสีย
+ ฉากบู๊อภิมหามันส์อลังกาลงานสร้าง แบบยกระดับจากภาคก่อนๆขึ้นอย่างบ้าคลั้งจนหลุดโลก รวมทั้งฉากต่อสู้ตัวต่อตัวนั้นให้ความรู้สึกรวดเร็วและดุดัน
+ ตัวละครแต่ละตัวนั้นหลุดโลกมาก ทั้งแฮ็กเกอร์ที่สร้างโปรแกรมที่แฮ็กโลกทั้งใบได้ หรือแม้กระทั้งจาพนมที่มาเพื่อกระทืบทุกคนที่ขวางหน้า
+ ธีมหลักของเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและการดูแลซึ่งกันและกัน และในหลายๆฉากนั้นทำได้ซึ่งจนต่อมน้ำตาแตกได้เลยทีเดียว
- ในแฟร์นไซส์ที่มีหลายภาคและเปลี่ยนมือจากผู้กำกับหลายๆคนมักจะไม่ค่อยสนเรื่องความต่อเนื่องของเนื้อเรื่องซักเท่าไหร่ แต่ภาคนี้ต้องการจับปมทุกอย่างที่เหลือจากภาคก่อนๆ มาคลี่คลายให้หมดแต่ว่าเนื้อเรื่องภาคนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นจนอาจจะทำให้คนดูตามไม่ทันได้
- ในขณะที่ต้องใช้สมองทำงานเพื่อตามเนื้อเรื่องอยู่นั้นกลับทำให้คิดตามเรื่องหลักความสมเหตุผลในบางฉากจนอาจจะทำให้หงุดหงิดกับตนเองเรื่องความไม่สมเหตุผลของเนื้อเรื่องได้เล็กน้อย
คะแนนรวม 4.5 / 5 คะแนน
ปล.ผมแนะนำให้ดูภาค 1 ก่อนไปดูภาคนี้ครับ แล้วคุณจะตกใจในบางฉากที่ทำขึ้นมาให้เกรียติภาคแรกเป็นอย่างมาก
[CR] [Non-Spoiler Review] Furious 7 - One Last Ride
* ผลงานชิ้นสุดท้ายของ Paul Walker ในซีรี่ย์ที่ทำให้เขาโด่งดังมาตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งภาคที่กำกับโดย James Wan ซึ่งดูจากผลงานที่เขาเคยกำกับนั้นจะมีแต่หนังผีทั้งนั้นเลยทำให้สงสัยนิดนึงแน่นอนว่าเขาจะถ่ายฉากแอ็คชั่นได้ แต่ผลลัพธ์นั้นออกมาได้ดีไม่น้อยเลยครับ (ถึงแม้แกจะชอบหมุ่นกล้องบ่อยไปหน่อยเถอะนะ) และถือว่าเป็นผลงานการแสดงเปิดตัวเรื่องแรกของจาพนมใน Hollywood ด้วยเลยก็ว่าได้
ข้อดี / ข้อเสีย
+ ฉากบู๊อภิมหามันส์อลังกาลงานสร้าง แบบยกระดับจากภาคก่อนๆขึ้นอย่างบ้าคลั้งจนหลุดโลก รวมทั้งฉากต่อสู้ตัวต่อตัวนั้นให้ความรู้สึกรวดเร็วและดุดัน
+ ตัวละครแต่ละตัวนั้นหลุดโลกมาก ทั้งแฮ็กเกอร์ที่สร้างโปรแกรมที่แฮ็กโลกทั้งใบได้ หรือแม้กระทั้งจาพนมที่มาเพื่อกระทืบทุกคนที่ขวางหน้า
+ ธีมหลักของเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและการดูแลซึ่งกันและกัน และในหลายๆฉากนั้นทำได้ซึ่งจนต่อมน้ำตาแตกได้เลยทีเดียว
- ในแฟร์นไซส์ที่มีหลายภาคและเปลี่ยนมือจากผู้กำกับหลายๆคนมักจะไม่ค่อยสนเรื่องความต่อเนื่องของเนื้อเรื่องซักเท่าไหร่ แต่ภาคนี้ต้องการจับปมทุกอย่างที่เหลือจากภาคก่อนๆ มาคลี่คลายให้หมดแต่ว่าเนื้อเรื่องภาคนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นจนอาจจะทำให้คนดูตามไม่ทันได้
- ในขณะที่ต้องใช้สมองทำงานเพื่อตามเนื้อเรื่องอยู่นั้นกลับทำให้คิดตามเรื่องหลักความสมเหตุผลในบางฉากจนอาจจะทำให้หงุดหงิดกับตนเองเรื่องความไม่สมเหตุผลของเนื้อเรื่องได้เล็กน้อย
คะแนนรวม 4.5 / 5 คะแนน
ปล.ผมแนะนำให้ดูภาค 1 ก่อนไปดูภาคนี้ครับ แล้วคุณจะตกใจในบางฉากที่ทำขึ้นมาให้เกรียติภาคแรกเป็นอย่างมาก