ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แปลว่า ใครไม่มีปัญญาสร้างผลตอบแทนได้พอจ่ายภาษี ก็ไม่สมควรมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ

หลักสำคัญของภาษี มักจะเก็บเมื่อมีรายได้ หรือ มีกำไร  (เช่น ภาษีรายได้ ภาษีกำไร)
... แย่หน่อย ก็เมื่อมีการใช้จ่าย (เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต)

แต่ต่อไปเราจะมีภาษีใหม่กันแล้วครับ คือ ภาษีเมื่อมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  โดยภาษีนี้
ไม่สนใจว่า คุณจะมีรายได้ หรือ กำไรจาก ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นหรือไม่ ... ถ้ามีก็ต้องจ่าย

คำถามที่น่าสนใจคือ แล้ว อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ควรเป็นเท่าไหร่
ถึงจะทำให้ เราสมควรมี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นของตัวเอง

เราสามารถสร้าง สมการง่ายได้แบบนี้ครับ

อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำในการเป็นเจ้าของที่ดิน(ต่อปี) = อัตราภาษีที่ดิน + อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก + ค่าบำรุงรักษาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เช่น  ตัวอย่าง1 อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำในการเป็นเจ้าของบ้าน = 0.5% + 3% + 1%
                                                                                = 4.5% ของราคาบ้านรวมที่ดิน

       ตัวอย่าง2 อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำในการเป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ = 2% + 3% + 1%
                                                                                             = 6% ของราคาอาคารพาณิชย์  

อธิบายสมการ ...1 ทำไมต้อง รวมอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ... ก็เพราะ คนเราสามารถเลือกได้ ว่าจะมี ทรัพย์สินเป็นบ้านและที่ดิน หรือ จะเอาเงินสดไปฝากธนาคารก็ได้ครับ ดังนั้น นี่คือ ค่าเสียโอกาศในการเป็นเจ้าของเงิน
                   ... 2 ค่าบำรุงรักษา 1% มาจากไหน ... บ้าน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั้งหลาย ต้องมีการบำรุงรักษาครับ ... อาจจะหลายปี ซ่อมที แต่ ค่าซ่อมแต่ละทีอย่าคิดว่าน้อยครับ

สรุป ... ถ้ามีการประกาศใช้ กฎหมายภาษีและสิ่งปลูกสร้างจริง ... จะแปลว่า ใครไม่มีปัญญา สร้างผลตอบแทนขั้นต่ำในการเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นได้ ก็ไม่สมควรมีที่ดินและบ้าน เป็นของตัวเองครับ

ข้อดีของนโยบายนี้ คือ ใครไม่มีปัญญาสร้างผลตอบแทนขั้นต่ำนี้ได้ ก็ควรให้คนที่เก่งกว่า เป็นเจ้าของแทนครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่