จากการศึกษาตำนานพื้นบ้านอย่างยาวนาน ผมค้นพบสิ่งสำคัญที่จะปฏิวัติวงการหนังไทยได้เลยทีเดียว นั่นคือ กระหังบินได้ด้วยระบบเทอโมไดนามิค! ไม่ใช่ด้วยระบบแอโร่ไดนามิคอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจกัน
ให้ลองพิจารณารูปนี้ดู คนทั่วไปทั้งชาวบ้าน นักวิทยาศาสตร์ตำนานพื้นถิ่นชั้นแนวหน้า และวงการหนังไทย ต่างคิดไปเองว่า กระหังบินด้วยกระด้งที่แขวนอยู่ที่แขน คือใช้แรงในการกระพือปีกเพื่อให้เกิดแรงต้านอากาศในการเคลื่อนที่ ส่วนสากที่หนีบไว้ที่ขาทำหน้าที่เหมือนหางเสือไว้คุมทิศทาง
ผิดครับ!
เนื่องจากกระหังมีน้ำหนักตัวสูงมาก หากใช้การกระพือปีกในการบินนั้น กระหังต้องกระพือปีกเร็วแบบนกฮัมมิ่งเบิร์ดถึงจะบินได้ แต่ที่เราเห็นกันนั้นกระหังมีการกระพือปีกที่ช้าๆเนิบๆ เรามาดูรูปประกอบกันว่าถ้ากระหังบินด้วยระบบแรงต้านอากาศแล้วกระพือช้าแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนครับ ย่อมร่วงลงพื้น
ผมงงกับเรื่องนี้มากจนกระทั่งวันหนึ่งผมไปนั่งรถไฟฟ้า เจอผู้ชายที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นกระหังเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม คิดว่าเขาจะนั่งยังไงครับ นั่งเรียบร้อยรึเปล่า ไม่ใช่ครับ พลิ๊กล๊อคเลย พอนั่งปุ๊ปเขาจะจัดการแหกขาให้กว้างที่สุดเพื่อระบายความร้อนออก เป็นที่น่ารำคาญแก่คนนั่งข้างๆนัก ในวินาทีนั้นเอง
ยูเรก้า!
ผู้ชายที่เป็นกระหังจะมีอุณหภูมิที่ไข่สูงมาก ยิ่งเอาสากตำข้าวหรือสากกระเบือไปผูกติดกับขา ยิ่งร้อนขึ้นไปอีก ทำให้มีมวลความร้อนมหาศาลระบายออกมาทางข้างสาก และลอยไปอยู่ใต้ปีก ยกกระหังให้ลอยตัวสูงขึ้นแบบเดียวกับบอลลูนไฟ ส่วนที่กระหังขยับปีกก็เพื่อระบายความร้อนออกไปเพื่อรักษาระดับการบินนั่นเอง!
ที่คนทั่วไปคิดว่า ใช้ปีกกระด้งในการบิน และใช้สากเป็นหางเสือคุมทิศทางจึงเป็นความเข้าใจผิด
ที่จริงแล้วกระหังใช้สากในการบิน และใช้กระด้งในการควบคุมความสูงและทิศทางต่างหาก! (กลับกันเป็นตรงข้ามเลย)
มีต่อความเห็นล่างๆ เลื่อนลงไปเลยครับ
(ความเห็น 5)
ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่นี่ครับ ปกติจริงจังนะ 5555
https://www.facebook.com/Tactschool/
กระหังบินด้วยระบบเทอโมไดมามิกส์ ไม่ใช่แอโร่ไดนามิกส์อย่างที่เราเข้าใจกัน
ให้ลองพิจารณารูปนี้ดู คนทั่วไปทั้งชาวบ้าน นักวิทยาศาสตร์ตำนานพื้นถิ่นชั้นแนวหน้า และวงการหนังไทย ต่างคิดไปเองว่า กระหังบินด้วยกระด้งที่แขวนอยู่ที่แขน คือใช้แรงในการกระพือปีกเพื่อให้เกิดแรงต้านอากาศในการเคลื่อนที่ ส่วนสากที่หนีบไว้ที่ขาทำหน้าที่เหมือนหางเสือไว้คุมทิศทาง
ผิดครับ!
เนื่องจากกระหังมีน้ำหนักตัวสูงมาก หากใช้การกระพือปีกในการบินนั้น กระหังต้องกระพือปีกเร็วแบบนกฮัมมิ่งเบิร์ดถึงจะบินได้ แต่ที่เราเห็นกันนั้นกระหังมีการกระพือปีกที่ช้าๆเนิบๆ เรามาดูรูปประกอบกันว่าถ้ากระหังบินด้วยระบบแรงต้านอากาศแล้วกระพือช้าแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนครับ ย่อมร่วงลงพื้น
ผมงงกับเรื่องนี้มากจนกระทั่งวันหนึ่งผมไปนั่งรถไฟฟ้า เจอผู้ชายที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นกระหังเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม คิดว่าเขาจะนั่งยังไงครับ นั่งเรียบร้อยรึเปล่า ไม่ใช่ครับ พลิ๊กล๊อคเลย พอนั่งปุ๊ปเขาจะจัดการแหกขาให้กว้างที่สุดเพื่อระบายความร้อนออก เป็นที่น่ารำคาญแก่คนนั่งข้างๆนัก ในวินาทีนั้นเอง
ยูเรก้า!
ผู้ชายที่เป็นกระหังจะมีอุณหภูมิที่ไข่สูงมาก ยิ่งเอาสากตำข้าวหรือสากกระเบือไปผูกติดกับขา ยิ่งร้อนขึ้นไปอีก ทำให้มีมวลความร้อนมหาศาลระบายออกมาทางข้างสาก และลอยไปอยู่ใต้ปีก ยกกระหังให้ลอยตัวสูงขึ้นแบบเดียวกับบอลลูนไฟ ส่วนที่กระหังขยับปีกก็เพื่อระบายความร้อนออกไปเพื่อรักษาระดับการบินนั่นเอง!
ที่คนทั่วไปคิดว่า ใช้ปีกกระด้งในการบิน และใช้สากเป็นหางเสือคุมทิศทางจึงเป็นความเข้าใจผิด
ที่จริงแล้วกระหังใช้สากในการบิน และใช้กระด้งในการควบคุมความสูงและทิศทางต่างหาก! (กลับกันเป็นตรงข้ามเลย)
มีต่อความเห็นล่างๆ เลื่อนลงไปเลยครับ
(ความเห็น 5)
ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่นี่ครับ ปกติจริงจังนะ 5555
https://www.facebook.com/Tactschool/