Edward Snowden เผย ''กบข'' ที่จริงแล้วมี 2 รัฐบาล 1. รัฐบาลจากการเลือกตั้ง 2. รัฐบาลมืด มนุษย์ต่างดาว ???

Edward Snowden เผย ''อเมริกา'' ที่จริงแล้วมี 2 รัฐบาล 1. รัฐบาลจากการเลือกตั้ง 2. รัฐบาลมืด มนุษย์ต่างดาว ???

“were actually two governments in the US: the one that was elected, and the other, secret regime,

governing in the dark.”
แท้ที่จริงแล้ว US มี 2 รัฐบาล มาจากการเลือกตั้งและ ระบอบมืด รัฐบาลเงา ( หลายคนคาดว่า Tall whites ) ...Edward Snowden กล่าวไว้

รัฐบาลในเงามืดของสหรัฐ คือ กลุ่มอลูมิเนติ ที่ทำงานกับสำนักงานข่าวกรองกลาง ที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ในการควบคุมการเป็นไปของโลก และรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยนโยบายโปลิสสเตท คาดว่ามีประมาณ 50,000 คน แต่ก็มีสมดุลย์อยู่ตรงที่ มีฟรีเมสันต์คอยถ่วงดุลย์อยู่อีก หลายแสนคน แต่ ฟรีเมสันระดับลับอย่างเช่น องค์กรอลูมิเนติ มีจำนวนน้อยกว่ามาก

ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือเรื่องการลงไปเหยียบดวงจันทร์นั้น เป็นเรื่อง หลอกเด็กให้มีจินตนาการด้านอวกาศ แล้วก็ใช้จิตวิทยาศัตรูร่วมคุกคามจากนอกโลกเพื่อสร้างแนวร่วมหาเงินเข้าโครงการอวกาศ แล้วผันไปทำเรื่องลับๆ ในโครงการวิจัยกลาโหม เช่น ผสมยีนส์ปลาหมึก หรือ แมงกะพรุน เข้ากับมนุษย์ ทำให้มนุษย์ทดลองมีหัวโตตาโตอย่าที่เห็นในหนัง และมีการแบ่งปันข้อมูลเรื่องนี้ในกลุ่มอลูมิเนติ ประเทศนาโต้ เงินจากนาซ่าในโครงการดวงจันทร์ส่วนใหญ่ถูกผันไปใช้ซื้ออาวุธเลียนแบบโซเวียดจากอิสราเอลไปขายให้ โฮจิมินทร์ในเวียดนาม บินลาเดนในอัฟกานิสถาน และกลุ่มประเทศยากจนในแอฟริกา เพื่อแบ่งแยกให้โซเวียดแตกกันในเรื่องผลประโยชน์การค้าอาวุธ รวมทั้งพื้นที่ ทิศทาง ทางการขนส่งของเวียดนาม ทำให้ จีนและโซเวียต แตกความสามัคคีกัน เพราะเส้นทางดังกล่าว ทำให้การขนอาวุธจากโซเวียตกระทบดุลย์อำนาจจีน ซึ่งทำให้เวียดนามเหนือ ต้องมาทำการซื้ออาวุธส่วนใหญ่ผ่านทางไทย
ดวงจันทร์มีแรงดึงดูด หรือมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าโลก  6 เท่า คนที่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์จะดูออกทุกคนครับ ว่า การเดินก้าวเท้าแต่ละก้าว จะต้องตัวลอย 2-3 เมตรขึ้นไป ซึ่งต่อให้ใช้สลิงก็จะดูออกได้ง่ายอยู่ดีเพราะจะไม่เป็นธรรมชาติ แล้วก็แสงสว่างระดับในวีดีโอที่ถ่ายทำมา อุณหภูมิ จะสูงกว่า 150-200 องศาเซลเซียส คือ คนที่ลงไปเดินขณะที่มีแสงสว่าง จะต้องเปื่อยเหมือนคนดูแน่นอนครับ
การลงไปเหยียบดวงจันทร์เป็นปฏิบัติการจิตวิทยาเหยียบโลก ที่ส่งผลให้หลายประเทศหยุดการฝักใฝ่และการติดต่อกับประเทศคอมมูนิสต์ ทำให้ชาวอเมริกันยอมให้มีการใช้ภาษีในโครงการอวกาศ แต่จริงๆแล้วกลายเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทที่มีสัญญากับกลาโหมสหรัฐ ทั้งบริษัทที่ผลิต บริษัทวิจัย กลุ่มบริษัทเคมี เคมียา ชีวภาพ อาวุธ การบิน บริษัทที่ปรึกษาทางยุทธศาสตร์การทหาร รวมทั้งทำให้เกิดการยินยอมให้เกิดการวิจัยการทดลองที่ละเมิดกฎหมายและเกิดการซุกซ่อนวิศวกรรมเคมี ในยา โดยไม่แสดงตัวยาที่แท้จริงในการรักษาในสิทธิบัตร เพื่อป้องกันการซีแอล ส่งผลให้ยาที่ทำเลียนแบบไม่สามารถรักษาคนให้หายจากโรคได้ ยาของบริษัทที่ผลิตเลียนแบบโดยไม่มีความรู้เรื่อง การซุกซ่อนความลับทางการค้าของวิศวกรรมยานี้อันตรายต่อผู้ป่วยมาก การวิจัยลับที่มีสัญญาลับกลาโหมด้วยการผันจากงบประมาณมหาศาลด้านอวกาศนี้ ทำให้ประเทศสหรัฐกลายเป็นประเทศที่น่ากลัวที่สุดในโลก ของบรรดาประเทศมหาอำนาจ ซึ่งประเทศอื่นก็ทำคล้ายๆกัน แต่งบประมาณแตกต่างกันลิบลับมาก ส่งผลให้อเมริกากลายเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกที่ทิ้งห่างประเทศอื่นๆมากๆทางเทคโนโลยีลับ ที่ยังไม่เปิดเผยอีกมาก แต่ ผลจากการ ทำสัญญาลับกลาโหม ก็ทำให้หลายบริษัทเกิดปัญหาในการเปิดเผยการพัฒนาเทคโนโลยี และมีหลายบริษัทพยายามย้ายฐานออกจากสหรัฐ เพื่อกระจายความเสี่ยงฐานะของบริษัท และระบบการเงิน ที่ภาครัฐประเทศสหรัฐอเมริกามีหนี้สูงอันดับหนึ่งของโลก ปัจจุบัน บรรดาเศรษฐีสหรัฐเกือบทุกคน ถือครองทองคำ ประมาณ 1ใน2ส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ทั้งๆที่ผลตอบแทนจากตลาดเงินและตลาดทุนในอเมริกาสูงมาก แล้วก็มีจำนวนมาก
ที่กำลังย้ายเงินไปเก็บไว้ในยุโรป แต่ก็ยังมีแมงเม่าจำนวนมากที่เข้าสู่ตลาดทุนอเมริกาเพราะผลตอบแทนสูงกว่าประเทศอื่น รวมทั้ง กบข. ของประเทศไทย ซึงเคยขาดทุนหลายหมื่นล้าน และ บรรดาข้าราชการที่เกษียณแล้วเกือบทั้งหมดต้องการขอออกจากการเป็นสมาชิก ไปรับระบบบำนาญแบบเดิม เพราะระบบบริหารของ กบข ซึ่งมีสินทรัพย์ประมาณ 7แสนล้าน การที่มีผู้ที่เกษียณในแต่ละปี ประมาณ 10% ของข้าราชการประมทาณ 2ล้านคน นั้นหมายถึงว่า กบข.ต้องหมุน สินทรัพย์กว่าครึ่ง คือประมาณ 3แสนหกหมื่นล้าน มาจ่าย ซึ่งหมายถึง การเก็บเงินจากข้าราชการที่ยังไม่เกษียณทั้งหมดมาจ่าย เป็นงูกินหาง หรือลักษณะ แชร์ลูกโซ่ ซึ่งถ้าหากปีใหน กบข ขากทุนถึงแสนล้านจะทำให้ไม่มีเงินจ่ายข้าราชการที่เกษียณแล้วทันที และรัฐบาลในช่วงนี้ที่งบประมาณ พอดี หรือขาดดุลเล็กน้อย จะไม่มีทางหาเงินมาจ่ายข้าราชการที่เกษียณแล้วอย่างเด็ดขาด มีทางเดียวคือ คนที่มีสิทธิ์ พากันอันดูหมด เท่านั้น รัฐบาล
จึงจะตั้งงบประมาณกันเงินกันสำรองจ่าย ปีละประมาณ 3แสนหกหมื่นล้านให้ สินทรัพย์ประมาณ 7แสนล้านของ กบข เฉลี่ยกับ ข้าราชการ 2ล้านคน จะเท่ากับ คนละ 3แสนห้าหมื่นบาท การที่ กบข จ่าย โปะให้ ตอนเกษียณ 1.6 ล้านต่อคน ข้าราชการ อาจรู้สึกว่าได้กำไรเฉพาะตอนเกษียณ แต่ หลังจากนั้น
ชีวิตจะไม่มั่นคงมากๆ จึงเกิดการประท้วงเรียกร้องขึ้นทั่วประเทศ อีกสองถึง สี่ปี จะมีปริมาณผู้เกษียณอายุสูงเป็นประวัติการณ์ ถ้าปีนั้นขาดทุนถึงหกหมื่นล้านเพราะฟองสบู่สหรัฐแตกอีก หมายถึง กบข จะไม่มีเงินจ่าย แน่นอน
ผู้บริหาร กบข ควร หาวิธีการบริหารเงินแบบอื่นที่มั่นคงและปลอดภัยกว่านี้กว่านี้มาดำเนินการ นั่นคือ พันธบัตร รัฐบาลไทย และควรปิดความเสี่ยงจากตลาดทุนในอเมริกา ยุโรป รวมทั้ง การปรับพอร์ทการลงทุนในหุ้น ซึ่งควรลงทุนเฉพาะในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง ห้าสิบอันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย ที่ปันผลสูงสุดต่อเนื่องเกิน7-10ปีเท่านั้น    บล็อก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่