เมื่อแฟนฝรั่งบอกว่า จะไม่มีงานแต่ง จะไม่มีสินสอด

คบกับแฟนฝรั่งมาได้สักพักแล้วค่ะ คุยกันคร่าวๆ เรื่องอนาคตกันบ้างแล้ว  ช่วงคบกันแรกๆ เค้าบอก เค้าไม่จ่ายนะ สินสอด โอเค ไม่เป็นไร เข้าใจ วัฒนธรรมเค้าไม่มีแบบนี้ เดี๋ยวเราเคลียร์ปัญหาตรงนี้เอง (เคลียร์โดยเราเอาเงินเก็บ ให้แม่เอง เป็นค่าสินสอด แต่ไม่บอกนะ ว่าเป็นเงินเรา)

นิสัยส่วนตัว เราสองคนมี life style คล้ายกันค่ะ ทะเลาะกันบ่อย ช่วงคบกันแรกๆ แต่หลังๆมา เริ่มปรับตัวเข้าหากันได้แล้ว จนมาเมื่อวาน เค้าบอกจริงจังกับเรานะ เราซื้อบ้านแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันมั้ย  อยู่แบบโดยไม่แต่งงาน หมายถึง ขนของไปอยู่กับเค้าเลย (เค้าจ่ายเงินดาวน์บ้าน แล้วช่วยกันผ่อนคนละครึ่ง และให้บ้านเป็นชื่อเรา) เค้าอยากเริ่มต้นสร้างครอบครัวสักที  

มาถึงประเด็นแต่งงาน เค้าบอก ไม่แต่ง ไม่อยากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เราเอาเงินแต่งงานไปทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง เค้าโอเคถ้าจะจดทะเบียน เรารู้ว่า เราคงมีปัญหากับพ่อแม่แน่ๆ เพราะ ขนาดบอกว่า ไม่มีสินสอดบ้านก็แทบแตก แล้วจะไม่พิธีแต่งงาน ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยนี่ เราว่าพ่อแม่คงคิดว่าเราหลงผู้ชายจนไม่แคร์ความรู้สึกของท่านแน่ๆ  ถามเรานะ เราเห็นด้วยที่จะไม่แต่งงาน ขอแค่จดทะเบียนตามกฏหมายก็พอ แต่ที่ต้องคิด 10 ตลบเพราะแคร์ความรู้สึกของพ่อแม่  เราพยายามที่จะหาจุดกึ่งกลาง ระหว่างแฟนกับพ่อแม่ คือให้พอใจทั้งสองฝ่าย คิดๆอยู่ว่าอยากจะจัดงานเล็กๆ (เล็กจริงๆ)  แต่เค้าบอกว่าเมื่อถึงเวลา เค้าจะไปคุยกับพ่อแม่เราเอง (หมายถึง ยังงัยก็ไม่แต่งนะ)

เราไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้ มาตัดสินว่าเราจะคบกับคนๆนี้ต่อดีมั้ยเลยค่ะ  คือในเมื่อคนสองคนรักกัน มันก็ต้องมีวิธีที่ทำให้เราผ่านเรื่องแบบนี้ไปด้วยกันได้  ใจนึงเราอยากทำ ตามใจเรานะคะ (หมายถึงไม่แต่งงาน) เรามีความสุขเวลาเราอยู่กับเค้า แต่อีกใจนึงก็ทำให้พ่อแม่เสียใจไม่ได้ แต่ถ้าเค้ายืนยันว่า จะไม่มีงานแต่งงาน แล้วเราต้องเลือกจริงๆ เราต้องเลือกพ่อแม่

*ที่ต้องมีงานแต่ง เพราะพ่อแม่เราเป็นที่รู้จักของคนในอำเภอค่ะ คือไม่มีไม่ได้อ่ะ ลูกสาวมีสามี โดยไม่มีงานแต่งพ่อแม่เราไม่โอเค

-------------------------------------------------------------------------------------

แฟนเป็นคนอังกฤษ อายุ 37 ค่ะ เป็น single dad มีลูกสาว 1 คนอายุ 5 ขวบ (แม่น้องทิ้งน้องไปตั้งแต่อายุ 4 เดือน เค้าเลี้ยงลูกคนเดียว  และเราเข้ากับลูกสาวเค้าได้ดีค่ะ) แฟนเป็นครูสอนโรงเรียนนานาชาติ เงินเดือน 50k  

เราอายุ 31 ค่ะ เป็นเลขาฝรั่ง เงินเดือน 40k

*ที่ต้องบอกเงินเดือนเพราะว่า หน้าที่การงานเค้าก็พอเป็นหลักประกันให้พ่อแม่เรามั้ยค่ะ ว่าเค้ามีฐานะค่อนข้างมั่นคง ไม่ทำให้เราต้องลำบาก

(ปล. เราสนิทกับนายเรามาก เลยเล่าเรื่องนี้ให้นายฟัง นายบอกว่า you are 31, what make you happy just do it and remember that it’s your life, not your parent’s life. You are adult have your own decision.

2 จิต 2 ใจ อยากฝืนคบต่อ แล้วมันก็ต้องมีทางของมัน หรือ รู้อยู่แล้วว่าปลายทางมันเป็นยังงัย เลิกตอนนี้ดีมั้ย

เราคิดน้อยใจนิดๆอยู่เหมือนกัน ถ้าเค้าคิดว่า เงินแต่งงานมันสำคัญกว่าความรักของเราสองคน มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะฝืนคบกันต่อ

ใครเจอสถานการณ์แบบเราบ้าง แนะนำด้วยค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมอยู่อเมริกามานานกว่าอยู่เมืองไทย เข้าใจขนบธรรมเนียมทั้งสองวัฒนธรรม ผมว่าแฟนคุณเอาแต่ใจตัวเองเหมือนเด็กๆ คนอย่างนี้อยู่ด้วยยาก ไม่แปลกใจหรอกที่เลิกกับภรรยาคนแรก

Profile ของคุณดีกว่าของแฟนคุณอีก คุณน่าจะมีโอกาสหาแฟนดีกว่านี้ได้ไม่ยากเลย อย่าหลงแฟนจนไม่นึกถึงหัวอกของพ่อแม่

ถ้าเรื่องเล็กๆแค่นี้ แฟนคุณยังไม่สามารถปรานีปรานอมได้ ผมว่าดูจะเสี่ยงเกินไปที่จะร่วมชีวิตด้วย
ความคิดเห็นที่ 6
He is not flexible, in my opinion.==>about the wedding
he has lived and worked in Thailand and knows some of Thai culture.
He will make the downpayment for the house, and you would have to share exactly 50 %
of each installation.
For me it doesn't make much difference if the house in your name or his, as long as you're
both legally married. (of course, there's a small details over advantage/disadvantage)

Well, I have worked with Farangs since grauduation both in Thailand and abroad, mostly
executive/ managerial levels. Some acted like your boyfriend. Any way, I understand it
pretty well because of cultural difference. But I didn't marry them, and they went for
some other women who accepted their terms, which is fair enough  ;=)

You just have to let your brain lead your heart. This is the beginning of your marriage/
family life. If he never wants to compromise, he will always have his own way--
or if you never want to stand up and voice your need, you will never get that right again after
marriage.
ความคิดเห็นที่ 12
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไรไป ลองดูซิว่าผู้ชายเขาคิดอะไร

แฟนเป็นคนอังกฤษ อายุ 37 ค่ะ เป็น single dad มีลูกสาว 1 คนอายุ 5 ขวบ (แม่น้องทิ้งน้องไปตั้งแต่อายุ 4 เดือน เค้าเลี้ยงลูกคนเดียว  

ก็ไม่ทราบเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวขนาดนั้นเชียวหรือ อย่างที่หลายๆๆ คนให้ความคิดเห็น  
ให้ผู้ชายเลื้ยงเด็กผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วสิ่งที่เขาผิดหวังตั้งแต่แม่เขาหนีไปนั้น ไม่ทราบรายละเอียด
แต่ก็ให้คะแนนเขาหน่อย  เขาเลี้ยงดูลูกสาวเขามาได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนจน  5 ปี และก็ไม่ทราบว่า
เขาผิดหวังมากขนาดไหน เพราะไม่รู้รายละเอียด เรื่องภรรยาเก่า  

เค้าบอกจริงจังกับเรานะ เราซื้อบ้านแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันมั้ย  อยู่แบบโดยไม่แต่งงาน หมายถึง ขนของไปอยู่กับเค้าเลย (เค้าจ่ายเงินดาวน์บ้าน แล้วช่วยกันผ่อนคนละครึ่ง และให้บ้านเป็นชื่อเรา) เค้าอยากเริ่มต้นสร้างครอบครัวสักที  


บางคนบอกว่าแต่งแล้วมันก็เป็นของคุณอยู่ดีไม่มีความหมายอะไร แล้วจะต้องให้คุณออกคนละครึ่งหมายความว่าเห็นแก่ตัว
มันก็จริงอยู่ บางอย่าง  แต่คิดหรือไม่ ผู้ชายอายุขนาดนี้ คิดที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว ลงทุนซื้อบ้าน ก็ต้องให้คะแนนเขาหน่อย
น้อยคนที่จะคิดอย่างนี้ ที่เขาถามคุณให้ช่วยออกค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งนั้น มันก็ดูจะเป็นเรื่องปกติ ดีกว่าที่จะมาอยุ่ด้วยกันแล้ว
ต้องมาทะเลาะกันเรื่องนี้  ต้องการเพียงว่าเป็นหลักประกันว่าเราเข้าใจกันเรื่องค่าใช้จ่ายหลักๆๆที่สำคัญที่สุด แล้วแฟนคุณก็จริงใจ
ที่จะให้บ้านนั้นเป็นชื่อคุณแต่ผู้เดียว มันก็เป็นหลักประกันว่าถ้าอนาคตอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว เขาก็คงจะไม่มาวุ่นวายกับเรื่องบ้าน

แล้วว่าด้วยเรื่องที่สำคัญสำหรับที่ทุกคนให้คำตอบมาเรื่องสินสอด
สำหรับผุ้หญิงคงจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิต สำหรับบางคน  ก็เช่นเดียวกันกับผู้ชาย
ในเมื่อเขาเป็นคนทีเคยมีภรรยามาแล้ว จะแต่งแบบมีพิธีหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ก็อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาคิดว่า
การจัดงานทำพิธี หมดเงินไปเยอะ หนสุดท้าย ภรรยาก็หนีไปอยู่ดี เงินที่เขาเก็บมาก็หายไป
เขาเห็นแก่ตัวหรือว่าเขาคิดถึงอนาตตของตัวเขาเองหรือลูกสาว เขาอาจจะคิดว่าเงินจำนวนนั้น ทำอะไรได้มาก
กับอนาคตของลูกสาวเขาเอง การศึกษา มีอาหารกินทุกมื้อ มีคนรัก มีแม่ใหม่ที่เข้าใจลูกสาวเขาได้ มีบ้านพักอาศัย
5 ปีที่เขาเลี้ยงลูกสาวมาคนเดียวนั้น เขาใช้จ่ายแบบเห็นแก่ตัว หรือเขาใช้จ่ายอย่างคิดถึงอนาคตเด็ก
อันนี้ต้องถามตัวคุณ เพราะผมไม่ได้อยู่กับเขา  ถ้าคุณมีลูกแล้วคุณอาจจะตอบคนละอย่าง
เพราะทุกครั้งที่คุณใช้เงิน หรือสามีใช้เงิน คุณต้องคิดแล้วว่า การใช้จ่ายนั้นมันสำคัญหรือไม่ อยากเก็บเงินไว้ให้ลูกในอนาคต
อันนี้คิดดูเอาเอง............

สำหรับเรื่องทำพิธีที่พ่อแม่คุณต้องการนั้น  มันเรื่องของผู้ใหญ่ คุณต้องเป็นคนตัดสินใจ แล้วสิ่งที่คุณต้องให้น้ำหนักไปมากหน่อย
คุณรักเขา เพราะต้องการให้พ่อแม่ดูดี มีหน้ามีตา หรือต้องการให้ชีวิตคุณอยู่อย่างราบรื่น
ตนที่เขทำพิธีกันใหญ่ตัว หมดเงินไปหลายล้าน หนสุดท้ายก็จบด้วยการหย่าร้างก็มีเยอะ มันเป็นแค่เพียงพิธี
อนาคตเมื่อคุณและแฟน มีเวลามากขึ้นหลังจากทีอยู่ด้วยกัน ก็กลับมาทำพิธีได้เช่นกัน ไม่แปลกอะไร คนต่างชาติเขาก็ทำกันเยอะไป
คุณพร้อมหรือยัง..........

ไม่แย้งว่าความคิดเห็นผุ้อื่นจะไปในทางกลับกัน  ผมก็เพียงแต่ให้ความคิดเห็นที่กลับกันบ้าง
ใช่ว่ามันจะไม่มีเหตุผล แต่ก็ขอให้นึกถึงบ้างก็แล้วกัน
โชตดีนะครับ
ความคิดเห็นที่ 25
จากข้อมูล

1. ผมว่าไม่เกี่ยวว่าเขา เป็นฝรั่ง แล้วไม่ชอบสินสอดไม่ชอบพิธีแต่งงานนะ
ผมว่านั่นไม่ใช่ประเด็นเลยด้วยซ้ำ ประเด็นคือ...
เขาเป็นคน self-centered ครับ  ทำให้ไม่คิดถึงใจคู่ชีวิตว่าคิดยังไง อยากได้อะไร

ชีวิตเขาที่คบกับคุณ มีแต่คำว่า "ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน"
เช่น บ้านที่เขาดาวน์ให้แล้วผ่อนคนละครึ่งแต่ชื่อคุณ นั่นก็เขาคิดว่าดีแล้ว ถูกต้องแล้ว
แล้วยัดเยียดให้คุณรับความคิดของเขาเฉยเลย

ผมไม่เห็นคุณแสดงข้อมูลอะไรว่าเขาเคยดึงคุณมาร่วมปรึกษาหารืออะไรเลยสักเรื่องเดียว มีแต่สิ่งที่เขาคิดเท่านั้น

นั่นละ สัญญาณอันตรายเลย


2. ปัญหาเรื่องสินสอดและงานแต่ง เป็นแค่กระจกสะท้อนให้คุณเห็นว่า ในชีวิตคู่ของคุณจะไม่มีคำว่า "เธอ" มีแต่คำว่า "ฉัน" ครับ
ไม่ต้องอธิบายต่อแล้วนะ


3. การที่เขาดูแลลูกดีมาก แต่เขาไม่เห็นดูแลคุณนิครับ
บางคนเป็นพ่อที่ดีแต่เป็นสามีที่แย่นะครับ


4. การที่เมียทิ้งเขา ผู้หญิงอาจจะใจร้ายจริง แต่...คุณรู้ได้ไงว่าแฟนคุณไม่มีส่วนผิดด้วย?
คุณฟังความด้านเดียวไม่ได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเค้ารักคุณแค่แต่งงานเองทำไมจะทำไม่ได้ งานแต่งก็แค่แลกแหวนแบบฝรั่งไม่ได้เงินไปตำละลายน้ำพริกนักหนา ฝรั่งแต่งงานสวยๆเยอะไป ไม่ได้เลี้ยงกันเป็นหมู่บ้านเลย งานค็อกเทลน่ารักๆ เรื่องสินสอดเราเข้าใจแฟนคุณ แต่เรื่องแต่งงานรักกันเจอกันครึ่งทางน่าจะดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่