คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อีกอย่างที่เจอบ่อยๆ ก็คือพวก กาแฟสด ค่ะ
เห็นประจำเลย พนักงานออฟฟิส เงินเดือน 1-2 หมื่น ซื้อกาแฟสด ชาไข่มุก น้ำปั่น หรือเครื่องดื่มต่างๆ กันแทบทุกวัน
แก้วนึงก็ 50-60 บาทขั้นต่ำ แต่บางทีซื้อ starbuck กันบ่อยมาก แก้วละเป็นร้อย
เราว่าเครื่องดื่มพวกนี้มันดูดเงินไปทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ถ้าซื้อเดือนละ 20 แก้ว เดือนนึงก็เป็นพัน ถ้า starbuck ทุกวัน เดือนนึง 3000 เลย ยังไม่รวมค่าขนมอีกนะ
แถมยังทำให้อ้วนอีกด้วย กาแฟเย็น ชาเย็น สมูตตี้ แก้วนึง 4-5 ร้อยแคลอรี่แน่ะ
เราเองก็นานๆซื้อที หรือรอตอนซื้อ 1 แถม 1 แต่ก็ไม่ทานบ่อย
ส่วนใหญ่ใช้กาแฟผง กับโกโก้ผง ชงทานเองค่ะ แบบว่างกอ่ะ
ปล. ก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใครหรอกค่ะ ไม่เคยไปบอกใครด้วยถ้าไม่สนิทกันจริงๆ เพียงแต่พูดเท่าๆที่เห็นมา เพราะบางคนเขาไม่ได้ทำบัญชี และไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้ เงินก็เลยไม่ค่อยเหลือเก็บ
ปล. 2 เฮ้อ กลายเป็นประเด็นไปซะแล้ว ที่ว่าเงินเดือน 1-2 หมื่นนี่คือพนักงานในที่ทำงานที่เรารู้จักน่ะค่ะ ก็เลยรู้ว่ารายได้ประมาณไหน ( ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนหรอก แค่ ส่วนหนึ่งเท่านั้น ) เอาง่ายๆเลยก็ลูกน้องเรานี่แหละ ชอบบ่นว่าเงินไม่พอใช้ และน้ำหนักเพิ่ม แต่เห็นเธอซื้อกาแฟกับเครื่องดื่มต่างๆบ่อยเหลือเกิน ส่วนคนที่เงินเดือนเยอะๆ ซื้อกินทุกวันก็ขนหน้าแข้งไม่ร่วง จะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างทำไมล่ะคะแหม่ แต่จริงๆแล้ว วัตถุประสงค์ของ reply นี้ ก็แค่เล่าถึงสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เงินรั่วไหลได้เรื่อยๆ นอกจาก เหล้า บุหรี่ ของ จขกท. เท่านั้นเอง
เห็นประจำเลย พนักงานออฟฟิส เงินเดือน 1-2 หมื่น ซื้อกาแฟสด ชาไข่มุก น้ำปั่น หรือเครื่องดื่มต่างๆ กันแทบทุกวัน
แก้วนึงก็ 50-60 บาทขั้นต่ำ แต่บางทีซื้อ starbuck กันบ่อยมาก แก้วละเป็นร้อย
เราว่าเครื่องดื่มพวกนี้มันดูดเงินไปทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ถ้าซื้อเดือนละ 20 แก้ว เดือนนึงก็เป็นพัน ถ้า starbuck ทุกวัน เดือนนึง 3000 เลย ยังไม่รวมค่าขนมอีกนะ
แถมยังทำให้อ้วนอีกด้วย กาแฟเย็น ชาเย็น สมูตตี้ แก้วนึง 4-5 ร้อยแคลอรี่แน่ะ
เราเองก็นานๆซื้อที หรือรอตอนซื้อ 1 แถม 1 แต่ก็ไม่ทานบ่อย
ส่วนใหญ่ใช้กาแฟผง กับโกโก้ผง ชงทานเองค่ะ แบบว่างกอ่ะ
ปล. ก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใครหรอกค่ะ ไม่เคยไปบอกใครด้วยถ้าไม่สนิทกันจริงๆ เพียงแต่พูดเท่าๆที่เห็นมา เพราะบางคนเขาไม่ได้ทำบัญชี และไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้ เงินก็เลยไม่ค่อยเหลือเก็บ
ปล. 2 เฮ้อ กลายเป็นประเด็นไปซะแล้ว ที่ว่าเงินเดือน 1-2 หมื่นนี่คือพนักงานในที่ทำงานที่เรารู้จักน่ะค่ะ ก็เลยรู้ว่ารายได้ประมาณไหน ( ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนหรอก แค่ ส่วนหนึ่งเท่านั้น ) เอาง่ายๆเลยก็ลูกน้องเรานี่แหละ ชอบบ่นว่าเงินไม่พอใช้ และน้ำหนักเพิ่ม แต่เห็นเธอซื้อกาแฟกับเครื่องดื่มต่างๆบ่อยเหลือเกิน ส่วนคนที่เงินเดือนเยอะๆ ซื้อกินทุกวันก็ขนหน้าแข้งไม่ร่วง จะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างทำไมล่ะคะแหม่ แต่จริงๆแล้ว วัตถุประสงค์ของ reply นี้ ก็แค่เล่าถึงสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เงินรั่วไหลได้เรื่อยๆ นอกจาก เหล้า บุหรี่ ของ จขกท. เท่านั้นเอง
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องนี้ เรื่องจริงครับ ....
สมัยทำงาน เงินเดือนๆแรก ให้แม่ ...
หลังจากนั้น ก็บรรเลง ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่า ละเลงเงินเดือน เพื่อให้ได้มาซึ่ง ความสุข ให้ท่วมท้น .... ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นาๆ ที่จะเอามาอ้างเข้าข้างตัวเอง ว่า ความสุขเล็กน้อย บางล่ะ ... ให้รางวัลกับความสำเร็จ บ้างล่ะ ชดเชยกับสิ่งที่ขาดไปในสมัยเรียน ประกอบกับสังคมที่ทำงาน และเพื่อนใหม่ ๆ แต่คงไม่โทษใครครับ ผมจะโทษสันดานตัวเอง มากกว่า ผลคือ ติดลบ เงินเดือนออก ใช้หนี้ 100% ก็ต้องกู้ยืม บัตรเครดิตเต็มทุกใบ ... หนักเข้าเริ่มไม่ไหว ไม่มีกำลังใจทำงาน ไม่พัฒนา ... กว่าจะกลับตัวได้ และเคลียร์หนี ปรับทัศนะคติใหม่ อายุก็ปาเข้าไปใกล้จะ 30 ปี ....
ผมเป็นแบบนั้นแหละ ...... เสียดาย มากครับ
สมัยทำงาน เงินเดือนๆแรก ให้แม่ ...
หลังจากนั้น ก็บรรเลง ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่า ละเลงเงินเดือน เพื่อให้ได้มาซึ่ง ความสุข ให้ท่วมท้น .... ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นาๆ ที่จะเอามาอ้างเข้าข้างตัวเอง ว่า ความสุขเล็กน้อย บางล่ะ ... ให้รางวัลกับความสำเร็จ บ้างล่ะ ชดเชยกับสิ่งที่ขาดไปในสมัยเรียน ประกอบกับสังคมที่ทำงาน และเพื่อนใหม่ ๆ แต่คงไม่โทษใครครับ ผมจะโทษสันดานตัวเอง มากกว่า ผลคือ ติดลบ เงินเดือนออก ใช้หนี้ 100% ก็ต้องกู้ยืม บัตรเครดิตเต็มทุกใบ ... หนักเข้าเริ่มไม่ไหว ไม่มีกำลังใจทำงาน ไม่พัฒนา ... กว่าจะกลับตัวได้ และเคลียร์หนี ปรับทัศนะคติใหม่ อายุก็ปาเข้าไปใกล้จะ 30 ปี ....
ผมเป็นแบบนั้นแหละ ...... เสียดาย มากครับ
ความคิดเห็นที่ 11
ผมแค่อยากวิเคราะห์ให้ฟังด้วยความเสียดายแทนนะครับผม เพราะต้นทุนคุณจะสูงขึ้นแน่นอนต่อวัน
สมมุต มีนาย AและนายB ที่มีกิจวัตรเหมือนกัน
แต่นาย A ดื่มและสูบ แต่นายBไม่
ลองนึกง่ายๆ ว่าหลังกินข้าว,ตอนเข้าห้องน้ำ,ก่อนเข้าโรงหนัง,หรือทานมื้อเย็น คุณจ่ายเงินกับบุหรี่และเบียร์หรือแอลกอฮอลล์ไปมากกว่านาย Bกี่บาท
เพราะProcess ชีวิตที่ต่างกันทำให้นาย B มีโอกาสเก็บเงินได้สูงกว่าเมื่อ เทียบ5ปีออกมาเป็นเงินทิ้งห่างหลายช่วงตัวโดยที่เราไม่รู้
ผมเข้าใจในประเด็นที่หลายคนอาจจะบอกว่าเดียวนาย B ก็เอาไปหมดกับอย่างอื่นอยู่ดี
แต่ผมจะถามกลับเฉยๆครับว่า นายAจะไม่อยากเอาไปใช้กับอย่างอื่นหรอครับ สุดท้ายต้นทุนคุณจะสูงเป็น2เท่าจากคนอื่นเพราะระหว่างวันเขาก็ต้องเสียกับเบียร์และบุหรี่ เหมือนต้องจ่ายค่าผ่านด่านทุกวัน
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
สมมุต มีนาย AและนายB ที่มีกิจวัตรเหมือนกัน
แต่นาย A ดื่มและสูบ แต่นายBไม่
ลองนึกง่ายๆ ว่าหลังกินข้าว,ตอนเข้าห้องน้ำ,ก่อนเข้าโรงหนัง,หรือทานมื้อเย็น คุณจ่ายเงินกับบุหรี่และเบียร์หรือแอลกอฮอลล์ไปมากกว่านาย Bกี่บาท
เพราะProcess ชีวิตที่ต่างกันทำให้นาย B มีโอกาสเก็บเงินได้สูงกว่าเมื่อ เทียบ5ปีออกมาเป็นเงินทิ้งห่างหลายช่วงตัวโดยที่เราไม่รู้
ผมเข้าใจในประเด็นที่หลายคนอาจจะบอกว่าเดียวนาย B ก็เอาไปหมดกับอย่างอื่นอยู่ดี
แต่ผมจะถามกลับเฉยๆครับว่า นายAจะไม่อยากเอาไปใช้กับอย่างอื่นหรอครับ สุดท้ายต้นทุนคุณจะสูงเป็น2เท่าจากคนอื่นเพราะระหว่างวันเขาก็ต้องเสียกับเบียร์และบุหรี่ เหมือนต้องจ่ายค่าผ่านด่านทุกวัน
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
แสดงความคิดเห็น
เคล็ดไม่ลับใกล้ตัว 5 ปีมีตังค์เก็บเพิ่ม 1แสน5 โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
ออกตัวก่อนว่าผมเพิ่งทำงานมาได้ 2 ปีกว่าๆ สิ่งที่ผมสังเกตเห็นอย่างหนึ่งคือต้องยอมรับว่าเงินเดือนของเด็กจบใหม่ส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ราว
10,000 - 15,000 บาท หลายคนพอเงินเดือนออกต้องหมดไปกับค่าน้ำไฟค่าเช่าห้อง 3,000 - 5,000 บาท สรุปแล้วจะเหลือใช้จ่ายแค่ราว 1หมื่นบาท
แต่พฤติกรรมของบางคนที่มีอาการเริ่มแรกจากการเป็น social drink และอาจจะทำให้บางคนนำไปสู่การเริ่ม "เสพติด"
เลือกสั่งเบียร์หรือแอลกอฮอลล์ แทนน้ำเปล่าเวลาไปทานอาหารหรือทานมื้อเย็น หรือเหนื่อยๆแล้วอยากจิบเบียร์เสมอ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนี้ผมไม่ได้บอกว่ามันผิดแต่จะบอกว่า น่าเสียดายจังที่คุณกำลังเสียโอกาสในการเก็บเงิน
ลองตีไปว่าคุณเสียเงินให้ เบียร์หรือแอลกอฮอลล์ วันละ 60 บาท หนึ่งเดือนคุณจะเสียเงินราว 1,800 บาท หนึ่งปีคุณจะเสียเงินราว 21,600 บาท
มาดูกันต่อว่า ถ้าคุณดันเป็นคนที่สูงบุหรี่ด้วย จะเกิดอะไรกับโอกาสในการเก็บเงิน บุหรี่หนึ่งซองจะมี 20 มวน โดยทั่วไป ตีไปว่า 1 สัปดาห์เท่าที่ผมสังเกตและถามดูคนที่สูบเป็นประจำจะสูบวันละ 4-5ตัว
ลองตีไปว่าหนึ่งสัปดาห์คุณซื้อ 2 ซอง 140(ตีกลมๆ) ปีหนึ่งคุณจะ เสียเงินไปราว 6,720 บาท
สรุปแล้วถ้าคุณมีอาการดังกล่าวทั้ง2อาการ
คุณจะเสียโอกาสเก็บเงินไปถึงปีละ 28,320 บาทต่อปี
และ5ปี คุณจะเสียโอกาสการเก็บเงินไปถึง 141,600 บาท
อันนี้ยังไม่นับการเอาเงินไปฝากประจำ หรือ เอาไปลงทุน
แต่ขอย้ำว่าผมไม่ได้มีเจตนาว่าผู้ที่ดื่มหรือสูบนะครับแต่แค่รู้สึกเสียดายโอกาสทางการเงินที่เสียไปเท่านั้น
แต่ถ้าคุณเลิกได้หรือลดลงได้ คุณก็ไม่ต้องทำอะไรเลยเงินก็จะเพิ่มขึ้นมาซะยังงั้น