อัพเดตชีวิต: หลังจากออกจากงานมาเป็นเวลาเกือบ 4 เดือน (กลับเข้าสู้วงจรมนุษย์เงินเดือน)

หลังจากเคยตั้งกระทู้ใว้เมื่อเดือนตุลาคม 2557
http://pantip.com/topic/32818204

ว่าได้ออกจากงานที่ทำอยู่ จะกลับไปอยู่ ตจว. หลังจากนั้น ก้อได้พาตัวเองออกไปดูหลู่ทางที่บ้านเกิด เพื่อหาทางขยับขยาย
โดยแผนแรก จะกลับไปเลี้ยงกุ้งกับพ่อ แต่พอเลี้ยงไปได้ 1 เดือน กุ้งเจอโรค EMS ตายเกือบหมดบ่อ หมดทุนไป 1 แสนบาท
พ่อก้อบอกว่าตอนนี้หมดยุคเลี้ยงกุ้งแล้ว  แผนแรกก้อเจ๊งไปโดยปริยาย (โชคดีที่เป็นการเลี้ยงกับพ่อไปก่อน เพื่อดูหลู่ทาง พ่อไม่ยอมให้ทำเอง กลัวเจ๊งคนเดียวจะสาหัสกว่าเดิมนัก) (ต้องขอบคุณพ่อมากที่ไม่ปล่อยให้ความวู่วามของเรามาทำให้ขาดทุนหนัก)
หลังจากแผนแรก ไปไม่รอด

แผนที่สอง คุยกับแฟนว่าจะเปิดร้านค้า: ร้านอะไรล่ะ???? คำถามนี้ที่ถามกับตัวเอง ก้อคงไม่ต่างกับพี่น้องในพันทิพ ที่ชอบตั้งกระทู้ อยากทำธุรกิจ แต่ไม่รู้จะขายไร ก้อเลยมาตั้งกระทู้ถาม "ขายไรดีครับ/ค่ะ?"
จะเปิดร้านชำ!!! แต่ร้านชำรอบบ้านมีอยู่แล้ว เปิดไปก้อไม่เห็นความต่างที่จะตีตลาดได้!!!
ก้อเลยมาปรึกษาพี่น้องในพันทิพย์ว่า "เปิดร้านสะดวกซื้อดีมั้ย"
http://pantip.com/topic/33063553
http://pantip.com/topic/33072015
แต่ด้วยความที่ร้านสะดวกซื้อต้องใช้เงินลงทุน ประมาณ 7 แสน - 1 ล้านเป็นอย่างน้อย บวกกับยุค 7-11 ครองเมือง ทำให้ไม่กล้าเสี่ยงในการทุ่มทุน (ยอมรับว่าเกิดความกลัว) ก้อเลยถอยครับ!!! ถึงแม้ทำเเลดีแค่ไหน แต่ยอมรับว่าใจเราไม่กล้าเสี่ยงครับ (บวกกับภาระที่มีคือ ลูกสาวและแฟนที่ต้องดูแล)
เมื่อความกล้า ไม่สามารถชนะความกลัวได้ ก้อคงต้องถอยครับ!!!

แผนสาม กลับไปบ้านแฟนพิดโลก!!! ไปหาลู่ทางทำมาหากิน แต่ด้วยความที่บ้านแฟนนั้นมีอาชีพทำไร่มัน ไร่ข้าวโพด บวกกับไม่ใช่ชุมชนที่พอจะทำมาค้าขายได้ ก้อเลยคิดไรไม่ออก ยอมรับว่าด้วยความที่เราไม่ถนัดงานสวน งานไร่ ถึงแม้ที่สตูล กับบ้านแฟนที่พิโลกมีที่ดินให้ทำกินก้อเถอะครับ

แม่ยายให้ที่ใว้ 6-8 ไร่ ก้อเลยช่วยกันปลูกมันสำปะลังทิ้งใว้ กับครอบครัวแฟน อีก 9-12 เดือนข้างหน้า ถึงเก็บได้!!!


ที่นี้เกิดอาการเคว้งเลยครับ 4 เดือนที่พยายามหาลู่ทางต่างๆ (บางคนบอก แค่ 4 เดือนเอง แต่สำหรับผมนั้น ฟุ้งซ่านมากครับ) เพื่อทำมาหากิน แต่ทำไม่มีลู่ทางเลย

ปรึกษากับพี่ๆ น้องๆ ที่สตูล เค้าก้อบอกว่า อยู่บ้านก้อกรีดยางแหละ วันล่ะ  200-300-400 พออยู่พอกิน แต่สำหรับผมนั้นไม่พอครับ (ยอมรับ)
และช่วยพ่อตัดปาล์ม (แต่สำหรับผมนั้น มันไม่ใช้งานตัวเอง ตัดปาล์มได้ครั้งล่ะ 3000-5000 พ่อก้อแบ่งให้ 500-1000 ก้อไม่พอกินครับ ลูกเมียรออยู่)
บวกกับมีน้องเขยคอยช่วยอยู่แล้ว หากผมกลับไปช่วยตัดปาล์ม น้องเขยจะไม่ได้รายได้ในส่วนนี้ ผมก้อเลยไม่อยากเบียดเบียนน้องเขยกับน้องสาว เพราะเขา 2 คน หลานอีก 3 คน ก้อไม่ค่อยมีรายได้เลย!!!

ปรึกษากับพ่อ พ่อก้อบอกว่าด้วยยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ยังไม่เหมาะกับการลงทุนเปิดร้าน ยางราคา 3 โลร้อย กำลังซื้อของคนในชุมชมลดลง ถึงมีความกล้าเสี่ยงแต่ยังไม่เหมาะกับการลงทุน!!! คนที่ทำธุรกิจอยู่แล้วแค่ประคอง คนที่เพิ่งเปิดรับภาวะขาดทุนไม่ได้ ร้านขายเสื้อผ้ารอบหมู่บ้านทะยอยปิดตัวลง ประกาศเซ้งร้านก้อหลายเจ้า (พ่อเห็นเขาติดป้ายขายกิจการ)

ก้อเลยคุยกับพ่อว่า งั้นจะลองขึ้นไปหางานทำที่ กทม อีกครั้ง เอาเงินเก็บที่มี เข้าบัญชีเก็บไปก่อน วันหน้าหากสถาณการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น ค่อยคิดกันใหม่

ก้อเลยชวนแฟน พาลูกขึ้นมาอยู่ที่บ้านแฟน ที่พิดโลก ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2557 เพื่อพักผ่อน
และประมาณวันที่ 10 มกราคม 2558 เริ่มทำการอัพเดตเรซูเม่ในเวปหางานต่างๆ  และได้ลงมา กทม คนเดียวก่อน
ได้ไปสัมภาษท์ครั้งที่ 1 วันที่ 14 มกราคม 58 (สถาณการณ์เงียบ)
สัมภาษท์ครั้งที่ 2 วันที่ 15 มกราคม 58 (พี่ที่สัมภาษท์แจ้งรอพิจาณาถึงสิ้นเดือนมกราคม ตอนนี้สถาณการณ์ยังเงียบ) (อยากทำที่นี่มากหลังจากได้คุยรายละเอียดกัน)
สัมภาษท์ครั้งที่ 3 วันที่ 16 มกราคม 58 (สถาณการณ์เงียบ)
หลังจากสัมภาษท์ไป 3 ที่ก้อได้กลับขึ้นไปพิดโลกใหม่ (คิดถึงลูกเมีย)

หลังจากขึ้นพักผ่อนที่บ้าน 1 อาทิตย์ ได้ทำการอัพเดตเรซูแม่และทะยอยสมัครงานผ่านเวปอีกครั้ง
ก้อโดนเรียกสัมภาษท์อีก
สัมภาษท์ครั้งที่ 4 วันที่ 24 มกราคม 58 (เจ้าหน้าที่ HR แจ้งว่าวันจันทร์ที่ 26 ต้องเข้ามาพรีเซ็นต์งานอีกรอบ) ก้อเลยกลับมาทำ power ponit และฝึกตัวเอง จนได้ไปพรีเซ็นต์งานวันจัทน์ที่ 26 มกราคาม 58 (ตอนนี้ยังเงียบอยู่ และคาดหวังจากที่นี่เหมื่อนกันเนื่องจากเป็น บ.ใหญ่และสวัสดิการดี สามารถอยู่ในระยะยาวๆ  ได้)
สัมภาษท์ครั้งที่ 5 วันที่ 27 มกราคม 58 (รอบเช้า) ด้วยความที่ไม่ตรงสายงานที่เคยทำ ก้อเลยไม่ได้คาดหวังอะไร
สัมภาษท์ครั้งที่ 6 วันที่ 27 มกราคม 58 (รอบบ่าย) ถึงแม้เป็นสายงานเดียวกัน แต่อยู่คนล่ส่วน ก้อเลยไม่ได้คาดหวังอะไร

หลังจากกลับมาตอนค่ำวันที่ 27 นั้นรู้สึกท้อมาก เหนื่อย คิดไรไม่ออก ฟุ้งซ้าน คุยกับแฟนและลูก พอเฟสทามไปหาลูก เห็นหน้าลุกแล้วน้ำตาไหล่เลยครับท้อแท้มาก กลัวเลี้ยงเค้าไม่ได้ กลัวเป็นเสาหลักให้ครอบครัวไม่ได้ ร้องไห้ใส่แฟนอีก (อารมณ์แบบว่าสุดๆ แล้ว) กลัวครอบครัวแฟนจะว่าไม่สามารถเลี้ยงดูลูกหลานได้ (ความจริงแล้วเค้าก้อเป็นกำลังใจให้ตลอด) คือกลัวไปต่างๆ นาๆ ครับ คิดไปเอง
นอนไม่หลับ เที่ยงคืน ตี 1 ก้อไม่หลับ หลับไปเกือบตี 2

ตื่นมา 8.30น  แฟนโทรปลุกให้ไปสัมภาษท์งาน (แต่ด้วยความไม่อยากไปเพราะตื่นสายเลยโกหกแฟนไปว่า เขาโทรมาเลื่อน  สุดท้ายก้อไป หลังจากดูข้อมูลในเน็ต)


สัมภาษท์ครั้งที่ 7 วันที่ 28 มกราคม 58 (เช้าวันนี้) คราวแรกนั้นด้วยความที่ บ. อยู่ไกล ออกไปชานเมือง ก้อเลยคิดว่าจะไม่ไป และเขานัด 10 โมงเช้า
แต่พอเข้าเน็ตดูรายละเอียดใหม่ ก้อเลยเห็นว่า รายละเอียดงานบวกสวัสดิการน่าสนใจ ก้อเลยรีบแต่งตัวและออกจากห้องเวลาประมาณ 9 โมงเกือบครึ่ง รีบซิ่งรถไปให้เร็วที่สุด
(เวลา 09.55น  พี่ HR โทรมาตาม ว่าอยู่ไหนแล้ว ให้ตายเถอะโรบิ้น ยังไม่ได้ครึ่งทางเลย รถก้อติด ทางก้อไม่เคยไป จะหลงมั้ยเนี้ยะ แต่ดูตามแผนที่ไปเรื่อยๆ)

ปรากฏว่าไปถึงที่ บ. ประมาณ 10.40น (ผิดนัดไปเยอะ คิดในใจแล้วเขาจะเอาเราหรอ แต่ไม่เป็นเรา มาช้ายังดีกว่าไม่มา)
ปรากฏว่าได้โชว์ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ให้เขาได้รู้เต็มที่ หลังจากสัมภาษท์เสร็จก้อเลยกลับมานั่งกินข้าว ที่แถวที่พัก
ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ ปรากฏว่า พี่ HR  โทรมาคอนเฟิร์มรับเข้าทำงาน พร้อมกับเงินเดือนตามที่คาดหวังใว้ ก้อเลยตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดไรมากครับ!!!
พรุ่งนี่วันที่ 29 มกราคม 58 จะเข้าไปทำสัญญา และขอเริ่มงานวันที่ 09 ก.พ. 58 (ขอเวลาเขา 1 อาทิตย? กลับไปขนของ ตจว และหาที่พัก)

ในเมื่อชีวิตเราไม่กล้าเสี่ยง ก้อต้องยอมรับในเส้นทางที่ตัวเองเลือกใว้ ที่จะกลับเข้าสู่วงการ!!!  
ตอนนี้ก้อเลยกลับมาสู่วงจรมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง

หลังจากได้งานแล้วแผนต่อไป คือจะทำงานไปสัก 1 เดือน และจะหาที่พักถาวรเพื่อไปรับลูกเมีย มาอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะให้แม่ยายมาช่วยเลี้ยงลูก และให้แฟนกลับเข้าทำงานที่บริษัทเก่าที่แฟนเคยทำ เพราะที่ทำงานเก่าของแฟนยังยินดีรับแฟนเข้าทำงานอยู่ ก้อเลยโชคดีในส่วนนี้ไป,,,,,,
(ความจริงแล้ว เงินเดือนที่ผมได้รับนั้น สามารถเลี้ยงดูแฟนและลูกได้พอแต่ล่ะเดือน ใจก้ออยากให้แฟนเลี้ยงลูกเอง แต่แฟนบอกอยากทำงานด้วย อยากช่วยๆ กัน ก้อเลยตามใจเขาครับ)


จบแล้วครับ ชีวิติ 4 เดือนหลังออกจากงาน และกลับเข้าทำงานใหม่อีกครั้ง
ขอบคุณที่ติดตามและกำลังใจที่ให้ตลอดมา

ปล. สำหรับ 4 เดือนที่ไม่ได้ทำงานถือว่าคุ้มนิดหน่อย เพราะได้พักผ่อน ได้เที่ยวในหลายๆ จังหวัด ขับรถตะลอนไปเกือบทั่วไทย
ได้กลับไปดูที่บ้านแล้วว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง ถึงแม้จะยังไม่ลงมือก้อตาม,,, ก้อคงต้องรอโอกาสต่อๆ ไป

ปล. เป็นกำลังใจให้คนสู้ชีวิต คนหางานต่อไปครับ
ใครหลายๆ คนที่ต้องตกงาน กำลังหางาน สู้ๆ  ครับ หลังจากที่ผมคิดจะกลับเข้าหางาน ผมใช้เวลา 2 อาทิตย์ และไปสมัครและสัมภาษท์ถึง 7 บริษัท จนได้งานในสายงานที่มีประสบการณ์และได้เงินเดือนตามที่หวังใว้  
ขยันๆ อัพเดตเรซูเม่ และสมัครงานครับ ต้องมีสักทีแหละที่รับเรา,,,,

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่