มาดูประวัติ "เฉลิมชาติ รุจิเชาว์" ผู้ผ่าชีวิตแห่งโลกมืด ผู้ผลักดัน"ด.ญ.ชัชชุอร" และเปลี่ยน "ยุพา สนิทกลาง" จากบอลเร็ว

กระทู้สนทนา
เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ ผู้ผ่าชีวิตแห่งโลกมืด มองเห็นแสงสว่าง จนมีวันนี้ของ ''รองเยิ้ม'' รองผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 3 วัดไชนาวาส จังหวัดสุพรรณบุรี

โลกมืดของเด็กน้อยสลัมคลองเตย
          "ผมเกิดที่คลองเตย ในย่านที่เค้าเรียกกันว่า สลัมคลองเตย นั่นล่ะครับ ก็เป็นชีวิตจนๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่มีทั้งพ่อ แม่ มีพี่น้องสี่คน ชีวิตวัยนั้นเรียกว่าหาเช้ากินค่ำ ต้องทำงานตั้งแต่เด็กทั้งขายของ ขายพวงมาลัยตามสี่แยก''
          ความจนบังคับให้ต้องสู้ ชีวิตเด็กน้อยของเฉลิมชาติเขาทำได้ทุกอย่างขอให้เป็น เงิน แต่ลำพังขายพวงมาลัย หนังสือพิมพ์ตามสี่แยก ก็เพียงแค่ประทังชีวิต กับหลายชีวิตที่ต้องดิ้นรนในทุกๆวัน
          ในย่านที่ขึ้นชื่อในเรื่อง ยาเสพติด ครอบครัวของเด็กน้อยคนนี้ ก็หลีกไม่พ้นวังวนนี้ ที่ต้องไปรับยามาส่งขาย เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ ในวัยนั้น จึงต้องเป็น เด็กส่งยา ตามที่ลูกค้าสั่ง
          ความเป็นเด็ก ทำให้รอดพ้นสายตาตำรวจ ที่แม้จะตรวจ จะจับยังไงก็ไม่มีหมดสำหรับ ผงขาว ยานรกอันดับ 1 เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เฉลิมชาติ ต้องเป็นเด็กเดินยาแทบทุกวัน ทำจนเคยชิน ไม่เคยคิดถึงความผิดด้วยวัยที่ยังเด็กเกินไป
          ชีวิตของเด็กสลัมคลองเตยคนหนึ่ง ทั้งเดินยา ดูต้นทางหน้าบ่อน และอื่นๆ อันเป็นเรื่องของอบายมุข เด็กน้อยคนนี้ผ่านมาหมด เข้มข้นกับชีวิตโลกมืด จนมาถึงวันที่ครอบครัวต้องพังไปกับสิ่งแล้วร้ายพวกนี้
          ''มาวันหนึ่ง พ่อผมโดนจับ ผมไปด้วย ยังร้องไห้โหบอกตำรวจจับพ่อผมทำไม แล้วแม่ก็มาโดนจับอีกคน ชีวิตตอนนั้นเริ่มแย่แล้ว พี่ชายก็ติดผง แล้วก็มาตาย ผมก็ยังเล็ก ยายก็มารับไปอยู่ที่อยุธยา ตอนนั้นซักแปดเก้าขวบมั้งครับ ก็ไปอยู่กับหลวงลุงที่วัด ไปเรียนแล้วก็อยู่อยุธยาตั้งแต่ตอนนั้น''

โดนหยาม ''เด็กวัด'' ปลุกพลังเล่นวอลเลย์ฯ
          มาอยู่ที่วัด ได้เรียนหนังสือที่อำเภอผักไห่ อยุธยา ความเป็นเด็กสู้ชีวิตแต่เล็ก มาอยู่ห่างบ้าน จากพ่อ แม่ พี่น้อง จึงไม่ใช่เรื่องลำบากของเด็กน้อยคนนี้ เรื่องชีวิตเป็นอยู่ ไม่ใช่เรื่องยากของเด็กแกร่งคนนี้
          เป็นเด็กวัดที่หลังเลิกเรียน ก็ต้องไปดูแลปรนนิบัติหลวงตา ชีวิตผูกกับโรงเรียน กับวัด ที่เป็นเหมือนบ้านให้เป็นที่ซุกหัวนอน ที่ต่างกับเด็กบ้านที่มีพ่อมีแม่ดูแล
          ''มาอยู่อยุธยา มาเป็นเด็กวัด เราก็ตั้งใจว่า จะไม่กลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก็ทำตัวเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่ก็ยังมีคนมาดูถูก พวกเด็กวัดอย่างเราไม่มีอะไรดี ยิ่งเรามาแบบไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ด้วยแล้ว มันเหมือนไม่มีกรอบคุ้มกันเรา''
          ''พอโดนดูถูก โดนล้อบ่อยๆ เราก็เริ่มมีความคิดอยากเอาชนะ เหมือนเป็นแรงบันดาลใจ ให้เรามุ่งมั่นทั้งเรื่องเรียน ทั้งกีฬา ที่พอโตขึ้นมาระดับมัธยม ก็เริ่มจะเล่นวอลเลย์บอลแล้ว''
          จบจาก ป.6 ที่โรงเรียนวัดบางอ้อ มาต่อมัธยมที่โรงเรียนผักไห่ (สุทธาประมุข) จนจบ ม.ปลาย แล้วก็มาต่อ ปกศ.สูงที่วพ.อ่างทอง มาเป็นนักวอลเลย์บอลเต็มตัวที่นี่ เป็นตัวของวิทยาลัย แล้วก็มาต่อปริญญาตรีที่สถาบันราชภัฏพระนคร ที่ตอนนี้มาเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลับมาอยู่อยุธยา มาเล่นวอลเลย์บอลที่นี่ ก็มาเจอกับ จรัล เนียมทับทิม โค้ชใหญ่ของอยุธยา เอ.ที.ซี.ซี ทีมดังในไทยแลนด์ลีก
           ''ได้มารู้จักกับ พี่รัล (จรัล เนียมทับทิม) ก็ชอบพอกันตั้งแต่ตอนอยู่อยุธยา เล่นวอลเลย์ฯ ทันกัน พอพี่รัลมาทำทีมอยุธยา ก็ดึงผมไปช่วย ก็เลยได้เรียนรู้เรื่องโค้ชไปด้วย''
          ''มาช่วยพี่รัล ก็ได้วิชามาเยอะ พี่รัลมีทั้งวิธีการสอนเด็ก แท็กติกดีๆ นอกเหนือจากช่วยทีมช่วยโค้ชแล้ว ผมก็จะช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของเด็กในทีมด้วย ในเรื่องของจิตวิทยา ซึ่งเราก็จะทำควบคู่กันไป''

จับงานโค้ชกระหึ่มชื่อสู่นักบริหาร
          ในยุคสร้างทีมอยุธยาใหม่ๆ ชื่อของ จรัล เนียมทับทิม ถูกยกให้เป็นเฮดโค้ช ที่ต้องมีผู้ช่วยชื่อ เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ เป็นผู้ช่วย ในทุกรายการที่แข่งขัน เรื่องของการหานักตบมาเสริม ในส่วนของ อ.จรัลก็จะดึงเข้าพณิชยการอยุธยา
          อีกส่วนหนึ่งของนักตบ จะไปอยู่ที่โรงเรียนเซนเทเรซ่าแสงทอง ที่ เฉลิมชาติ ได้มาทำทีมให้ที่นี่ นักตบที่เราคุ้นชื่อกันดีอย่าง [b]ยุพา สนิทกลาง
ก็เป็นเด็กสาวที่ เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ ไปได้ตัวมาจากโคราช แล้วก็มาปรับจากมือตบบอลเร็ว มาเป็นตัวรับอิสระ จนฝีมือติดเป้นแนวหน้าของเมืองไทย
          จนมาวันหนึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร ชื่อของเขาก็ถูกลบออกจากโรงเรียนเซนเทเรซ่า เนื่องจากที่โรงเรียนไม่มีนโยบายในการทำทีมวอลเลย์บอล จึงต้องระเห็จออกมา แต่ก็ได้มาช่วยทำทีมให้โรงเรียนสงวนหญิง ที่สุพรรณบุรี สร้างชื่อได้รองแชมป์ประเทศไทย รายการยุวชน 14 ปีเครือซิเมต์ไทย
          พอถึงปี 2549 ก็มาสอบบรรจุครูสังกัดท้องถิ่น (เทศบาล) ได้ แต่พอไปสมัครเข้าโรงเรียนเทศบาลที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ จนมาที่โรงเรียนเทศบาล 3 วัดไชนาวาส ที่มีตำแหน่งว่างแต่ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรด้วย

"ผมเข้าไปคุยกับท่านนายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี คุณจารนัย อินทร์ใจเอื้อ เรียนกับท่านว่า ขอเวลาสองปี ผมจะทำทีมเทศบาล 3 วัดไชนาวาส เป็นแชมป์วอลเลย์บอลกีฬาเทศบาลให้ได้ ท่านก็รับไว้''
''ตอนนั้นก็ยังพอมีเด็กอยู่บ้าง ก็เอาเข้าไปเรียน แล้วเราก็สอนเด็กประถมไปด้วย พอมาปีที่สองที่เข้าไปอยู่ ทีมของเราก็ได้แชมป์ ต่อมาสุขภาพของท่านนายกฯ ท่านไม่ค่อยดี ก็ลาออก ลูกชายท่าน คุณเอกพันธ์ อินทร์ใจเอื้อ ก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ท่านก็ได้สนับสนุนโรงเรียนจนถึงทุกวันนี้''



มองโลกสดใสหวังลูกยางสุพรรณฯ บูม
          เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ บอกถึงการทำทีมของเขาว่า เป็นเหมือนต้นน้ำ ที่สร้างเด็กในเบื้องต้น ก่อนส่งต่อให้เรียน ให้เล่นวอลเลย์บอล กับสถาบันหรือทีมวอลเลย์บอลดีๆ ต่อไป นักตบหลายคนของเทศบาล 3 วัดไชนาวาส มีดีกรีติดธงในระดับเยาวชนทีมชาติ นักเรียนไทย สร้างชื่อให้ประเทศและสถาบัน
          แม้จะทำทีมลูกยาง แต่เขาก็หาเวลาว่างศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ต่อมาก็มาสอบรองผู้อำนวยการ ซึ่งต้องใช้เวลาสองปีถึงสอบได้ และได้เป็นรองผู้อำนวยการ สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 3 วัดไชนาวาส เมื่อสองปีก่อน และเป็น ''รองเยิ้ม'' ในปัจจุบันนี้

          แม้จะมีเก้าอี้นั่งเป็นผู้บริหาร แต่กับวอลเลย์บอล ''รองเยิ้ม'' ก็ยังมาคุมทีมเอง ในทุกๆ เย็นหลังเลิกงาน มีเด็กในระดับ 14 และ 16 ปีให้ดูแล หนึ่งในนั้นมี ด.ญ.ชัชชุอร โมกศรี สาวน้อยวัย 14 ปี ที่พอมีหน่วยก้าน เลยถูกดันเข้าไปเป็นหนึ่งในนักตบลีกอาชีพ ไทยแลนด์ลีก 2014 ให้ทีมอยุธยา เอ.ที.ซี.ซี และได้ประเดิมสนามไปแล้ว เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
          วันนี้ของ ''รองเยิ้ม'' เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ เขาผ่านสิ่งเลวร้ายในวัยเด็ก ได้เล่นกีฬาที่เขารัก อย่างวอลเลย์บอล ที่ผลักดันให้เขาเป็นผู้ฝึกสอน ก่อนมาเป็นผู้บริหาร สิ่งดีๆ เหล่านี้ที่เขาได้จากกีฬาตบลูกยาง แต่ยังมีอีกบางสิ่งที่เขาหวังจะได้เห็น
          ''ผมมาอยู่สุพรรณฯ ใช้ชีวิตที่นี่ จนเป็นเหมือนคนสุพรรณบุรีคนหนึ่ง คนที่นี่มีศักยภาพครับ ถ้าตั้งใจทำก็ไปได้ดี อย่างฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี ตอนนี้คนที่นี่นิยมมาก รักทีมของตัวเอง วอลเลย์บอลที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจสูง ถ้ามีทีมวอลเย์บอล ผมมั่นใจว่าต้องมีแฟนวอลเลย์บอลติดตาม เหมือนทีมฟุตบอล''
          ''คนทำทีมก็มีแล้ว ทีมชาย พี่จอน (ขจรศักดิ์ มานะพรชัย สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติ และสพล.สุพรรณบุรี) ก็ทำทีมมาตลอด ทีมหญิงผมก็ดูได้ ถ้ามีผู้สนับสนุน ผมเชื่อว่าทีมวอลเลย์บอลสุพรรณบุรี จะเป็นทีมที่ดีได้ทีมหนึ่งในลีกอาชีพครับ'' เป็นสิ่งดีๆ ที่ เฉลิมชาติ รุจิเชาว์ ชายนักสู้ ผู้ฝ่าความมืดสู้ชีวิตแห่งแสงสว่าง ทิ้งท้ายไว้ตรงนี้

ที่มา..http://www.siamsport.co.th/Column/140117_097.html

ขออภัยพิมตัวธรรมดา...กลายเป็นตัวหนา อย่าว่ากันน๊ะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่