10 ข้อควรรู้ก่อน DATE หนุ่ม SINGAPORE



สวัสดีค่ะ นุ้ยจาก www.sononui.com เองค่ะ

นุ้ยแต่งงานกับสามีชาวสิงคโปร์ค่ะ และในช่วงนี้ก็มีคนถามเข้ามาเหลือเกินว่า "เอิ่ม...พี่คะ คนสิงคโปร์เค้าดีมั๊ยคะพี่" หรือพี่คะ "หนุ่มสิงคโปร์เจ้าชู้มั๊ยคะ" หรือนี่ค่ะ คำถามจากกลุ่มเพื่อนตุ๊ด "เหย แกรๆๆๆๆ หนุ่มสิงคโปร์แซ่บป่าวว๊าาาา"

Ok la, ok la ... เดี๋ยวพี่จะมาสรุปรวบยอดให้รับชมรับฟัง โดยมี ซะมี ของพี่เป็นบรรทัดฐานนะคะ (แต่แม่มส่วนมากมันก็จะแนวๆนี้ล่ะค่ะ)



แต่ก่อนอื่นขอบอกว่า มุมมอง แนวคิด และการใช้ชีวิตของคนสิงคโปร์จะไม่เหมือนกันนะคะ ในส่วนของแฟนนุ้ยจะเป็นกลุ่ม Banker และเจ้าของบริษัท ดังนั้นนิสัยใจคอของนางจะค่อนข้างเป๊ะเฟ่อออออ!

ว่าแล้วเราก็มาเรียนรู้นิสัยใจคอของหนุ่มๆแดนลอดช่องกันเลยค่า

1) งาน คือพระเจ้า



สิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ดังนั้นทุกคนจึงต้องทำงานหาเงินกันอย่างบ้าคลั่ง เพราะถึงแม้เงินที่ได้รับจะมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงเช่นกัน โดยเฉพาะค่ารถ ค่าบ้าน นี่เป็นอีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราสังเกตว่า ทำไมคน "โสด" สิงคโปร์ถึงมีจำนวนมากมายมหาศาล นั่นก็เป็นเพราะว่าถาหากผู้หญิงหาคนที่มีรายได้มากกว่าตัวเองไม่ได้ นางก็จะไม่ยอมแต่งงานด้วย ส่วนผู้ชายที่เงินเดือนน้อยก็จะไม่กล้ามีแฟนเพราะกลัวเรื่องรายจ่ายนั่นเอง

2) สำคัญอันดับ 2 รองจากเรื่องงาน คือเรื่อง SEX
จากการสอบถามเพื่อนสาวชาวสิงหลายๆนางที่เคยเดทกับทั้งหนุ่มสิงคโปร์และต่างชาติมาแล้ว เพื่อนีทั้งหลายบอกว่า พ่อลอดช่องนี่แหละตัว SEX จัดเลย ทั้งนี้เพราะนางเครียดจากงานมาก (ว่ากันมาแบบนี้นะคะ) มีคู่รัก (ชายสิง หญิงสิง) หลายคู่ที่ต้องเลิก หรือหย่าร้างกันมาเพราะเรื่อง SEX นี่แหละ เพราะด้วยความที่มีรากเหง้ามาจากวัฒนธรรมจีนผู้ชายก็อยากให้ฝ่ายหญิงมาปรนิบัติเป็นธรรมดา แต่ฝ่ายหญิงนางไม่ได้คิดแบบนั้นสิคะ เพราะคุณนีทั้งหลายเธอคิดว่า "ชั้นก็หาเงินได้เท่ากับเธอ ทำไมชั้นต้องปรนิบัติเธอล่ะ" นานไปๆ SEX เสื่อม รักล่มก็เลิกกันสิคะ

3) ไม่เจ้าชู้
เห็นหนุ่มตี๋ของเราเซ็กซ์จัดขนาดนี้ แต่นาง "ไม่เจ้าชู้" นะคะ บ้านเมืองเค้าไม่รู้หรอกว่า "กิ๊ก" คืออะไร คนสิงคโปร์จะเปลี่ยนคู่รักด้วยเหตุผลไม่กี่อย่างค่ะ คือ หมดรัก วิสัยทัศน์ไม่ตรงกัน บ้านเค้าจะไม่มีกรณี "คบซ้อน" ให้เห็นกันเลย ดังนั้นแม้ในวันที่เรากับเขาไม่ได้อยู่ใกล้กัน ก็มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีเรื่องนอกใจแน่นอน

4) เพราะความไม่เจ้าชู้นี่แหละ ทำให้เขาไม่เข้าใจว่า ROMANTIC...คืออัลไล?
อย่าได้หวังเรื่องความโรแมนติคจากหนุ่มสิงคโปร์ค่ะ อย่าหวังว่าวันดีคืนดีเค้าจะมี Surprise ให้คุณได้ชื่นฉ่ำหัวใจเล่นๆ เพราะเค้าคิดว่าเรื่องการมานั่งนึกทำเซอร์ไพรส์นั่นนี่เป็นเรื่องเด็กน้อยที่ทำให้เสียเวลามาก ดังนั้นอยากได้ดอกไม้ให้บอก อยากได้กระเป๋าให้ชี้บอก การที่จะให้หนุ่มๆประเทศนี้มานั่งเดาใจคุณนั้น "ฝันไปได้เลยค่า"

5) ชอบผู้หญิงผมยาว หรือ โคตรยาวเท่านั้น





เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว ผมยาวคือ สัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิง ความนิ่มนวล ซึ่งถ้าเป็นผมดำด้วยแล้วจะดีมาก (รู้ยังคะว่าทำไมนุ้ยถึงต้องไว้ผมดำ) และถ้าคิดจะ Date กับหนุ่มที่มีสถานะทางสังคมดีหน่อย ห้าม! หัวเหลือง หัวทองเด็ดขาดเพราะมิฉะนั้นคุณจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Ah Lian (สะก๊อย) อีกสิ่งหนึ่งที่แอบบอกไว้เป็น Trick เลยก็คือ ถ้าอยากจะหมักผม ห้าม!หมักด้วยน้ำมันมะพร้าว ปู้ชายไม่ชอบกลิ่นเป็นที่สุด สาเหตุก็คือเขาบอกว่ากลิ่นเหมือนอาหารอินเดีย...เอิ่ม ในเคสของนุ้ยเลยพบกันครึ่งทางกับพี่แซคที่ Baby Oil ค่า 5555

6) ระเบียบจัดยิ่งกว่าครูฝึกทหาร
หนุ่มๆฝั่งนี้เค้าเนี๊ยบยิ่งกว่ากลุ่มชาวเกย์อีกค่า ทั้งนี้เป็นเพราะ กฎหมายของประเทศที่มีหลายร้อยข้อห้าม แถมยังจะนิสัยที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กเพื่อให้เนี๊ยบไปในทุกๆเรื่อง แถมพอวัยรุ่นก็ต้องเข้ารับใช้ชาติ หรือ National Service(NS) อีก 2 ปีอีก เรียกได้ว่าเติบโตมาในกรอบตั้งแต่เด็กจนโตเลย จะดูว่าเนี๊ยบไม่เนี๊ยบ เช็คได้จากการจัดตารางงานให้แม่บ้านที่คอนโดนุ้ยเลยค่า 55555


7) หนุ่มสิงคโปร์ต้องกลับไปฝึก ทหาร/ตำรวจ ปีละครั้ง



หนุ่มๆต้องทำแบบนี้ไปจนถึงอายุ 35 เลยค่า เหตุผลก็คือทางรัฐบาลฝั่งนู้นอยากให้ผู้ชายทั้งประเทศพร้อมเผื่อเวลาเกิดศึกสงครามจะได้เตรียมตัวทัน อย่าลืมนะคะว่าสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยประเทศใหญ่ๆทั้งนั้น

เวลาที่หนุ่มๆถูกเรียกให้กลับไปฝึก ทางรัฐบาลก็จะออกจดหมายให้บริษัทที่หนุ่มๆทำงานอยู่ดังนั้นพวกเขาก็จะยังได้เงินเดือนตามปกติฮับ และที่สำคัญในระหว่างที่อยู่ในค่ายก็จะมีการ Test นั่นนี่ เช่น ทดสอบการวิ่ง ทดสอบยิงปืน ซึ่งถ้าหากสามารถทำได้ผ่านเกณฑ์ ก็จะมีเงินรางวัลให้ด้วย...เริศป่ะล๊า!

8) 5 WHAT IF(S), 5 WHY(S),5 HOW(S)
5 ถ้าเกิดว่า... 5 ทำไม และ 5 อย่างไร

นางละเอียดแม้กระทั่งการถามคำถามกับเราในเคสของนุ้ยคำถามหลายอย่างเกิดขึ้นจากความเป็นห่วงค่ะ เคยมีครั้งหนึ่งที่โทรศัพท์นุ้ยแบตหมด เลยขาดการติดต่อไป กลับบ้านมาโดนอิ 5 What if(s), 5 Why(s),5 How(s) นี่แหละค่าเป็นชุดเลย ไม่ว่าจะเป็น

ทำไมเธอไม่รับสาย !!!!

ทำไมไม่พกแบตสำรองไปด้วย !!!!

คนอื่นจะติดต่อเธอได้ยั ยังไง!!!!

ถ้าเกิดเธอเกิดอุบัติเหตุชั้นจะรู้ได้ยังไง
...เป็นต้นค่ะ

อาจจะดูจู้จี้ไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าเขายังเป็นห่วงเราเนาะ

9) สะอาด ยิ่งชีพ
เคสนี้บางรายก็ไม่เป็นนะคะ แต่กับพี่แซคแล้วนางสะอาดมาก เคยมีครั้งหนึ่งไปทานข้าวกับใหม่และ พี่ส้ม Orangina ทุกคนถึงกับการล้างมือ 8 Steps ของพี่แซค 5555

นุ้ยแอบมีตัวอย่างเรื่องการให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องให้ดูค่า

[ห้องน้ำ]



[ห้องครัว]



[ห้องนั่งเล่น]



เนี๊ยบมั๊ยล่ะคะคุณผู้ชม!

10) ให้ความสำคัญกับ VALUE หรือ คุณค่าของตัวบุคคล
เราอาจจะเคยได้ยินว่าคนสิงคโปร์ชอบดูถูกคนที่มาจากประเทศอื่นกันใช่มั๊ยคะ แต่ที่จริงแล้วกับคนในประเทศเดียวกันเขาก็เหยียดกันแบบนี้แหละค่ะ ทั้งนี้เรื่องเชื้อชาติไม่เกี่ยว แต่สิงที่สำคัญคือคุณค่าในตัวบุคคล คุณเป็นคนดีมั๊ย การศึกษาดีมั๊ย ครอบครัวมักมากหรือเปล่า คุณเป็นคนที่ขยันแค่ไหน นี่ต่างหากคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงนี่แหละที่ทำให้นุ้ยสามารถอยู่กับสามีชาวสิงคโปร์ได้

นุ้ยอยากบอกว่าการที่ "ผู้หญิงไทย" จะคบกับหนุ่มสิงคโปร์อาจจะมีช่องว่างหลายอย่างพอสมควรนะคะ ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม ความคิด และนิสัยใจคอหลายๆอย่าง ต้องใช้เวลาในการปรับตัวมากอยู่พอสมควร

ขนาดนุ้ยที่เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวคบเพื่อนต่างชาติมาก็เยอะ แถมยังไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมาแล้วด้วย ช่วงแรกๆที่คบกับพี่แซคยังทะเลาะกันแบบว่า 4 ครั้ง/สัปดาห์ เลยค่า แต่ด้วยความรักนี่แหละที่ทำให้เราอดทนและค่อยๆปรับตัวเข้าหากัน จนทำให้ทุกอย่างลงตัวมาจนถึงทุกวันนี้...แต่ก็ยังมีแอบทะเลาะกันอยู่บ้างนะ ก็แหมผู้หญิงอย่างเราก็ต้องการความ Romantic บ้าง งอนนิดงอนหน่อยพอเป็นน้ำจิ้มให้ชีวิตคู่ก็ดีกว่าจืดชืดแบบแกงจืดค้างคืนแหละเนอะ ^^


ปิดท้ายด้วยรูป Zap Zap ของพ่อหนุ่มแดนลอดช่อง ... ใครมีประสบการณ์จากการ Date หนุ่มประเทศอื่นๆบ้างมาแชร์ประสบการณ์กับนุ้ยบ้างนะคะ...อยากเผือก อิอิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่