ควรสู้ต่อ หรือถอยดีกว่า กับอาชีพการตลาดที่บริษัท แห่งนี้

มีเรื่องขอคำปรึกษาค่ะ คือเราทำงานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แห่งหนึ่ง ในตำแหน่ง รองผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด (รองจากเจ้าของบริษัทนะคะ)
อดีต ที่ผ่านมา เราเป็น sales ค่ะ แ ต่มีความสนใจด้านการตลาด เป็นคนชอบค้นหาความรู้ใหม่  ๆ ชอบคิด ชอบต่อยอด จึงได้ลาออกจากการเป็น sales มาทำด้าน ขายและการตลาด ควบคู่กัน

ประสบการณ์เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เรียนจบ หลักๆ จะผ่านงานขายมาพอสมควร แต่ก็มีงานการตลาดมาบ้าง แต่ละที่เราทำงาน 2-7 ปี เวลาที่เราเปลี่ยนงานจะเปลี่ยนจากที่เจ้านายเก่า หรือลูกค้าดึงๆ กันไปทำค่ะ
สำหรับบริษัทนี่ เพื่อนเราแนะนำเข้ามา     ตอนเข้ามาช่วงแรกของบริษัทนี้ ด้วยความที่เรามาใหม่ เรายิ้มแย้ม ทักทาย อ่อนน้อมถ่อมตนให้กับคนเก่าที่อยู่มานานเป็นสิบปี  หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการทำให้สินค้าขายได้  ควบคุมหนี้เสีย และทำให้ Brand Awareness มากขึ้น

-    เราทำแผนการตลาดไว้ เพื่อเสนอเจ้าของ ซึ่งกำหนดทิศทาง วัดผลได้  แต่เจ้าของบอก เอาไว้ก่อน ???
-    ในงานขาย เรากำหนดกติกา การสั่งออเดอร์ของทีมขาย วงเงิน การเก็บเงินจากร้านค้า การคืนสินค้า CN  โดยกำหนดกับบัญชี แผนกสต๊อกร่วมกัน

สุดท้าย ที่กำหนดไว้ทุกอย่าง เจ้าของบอกเอาไว้ก่อน  ????
ตอนนี้เราทำงานมา 5 เดือนแล้ว ซึ่งถือว่าน้อยกับการวัดผล ว่าควรอยู่ต่อ หรือควรไป  แต่ !!  เรารู้สึกว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้เปิดมาเป็นสิบ ปีแล้ว  ยอดขายลดลง  และความเป็น Brand Awareness กำลังถดถอย  เพราะคู่แข่งในตลาดมีเยอะมากขึ้นทุกวัน

(ช่วงที่เราเข้ามา Brand Awareness มากขึ้น  โดยที่งบไม่ให้ เราก็หา partner จากเว็บอื่นๆ โดยการส่งสินค้าให้ partner ไว้เล่นเกม หรือแจก  - สื่อออนไลน์ เกิดการสั่งซื้อ  ยอดขายออนไลน์โตขึ้น 100 % เมื่อเทียบก่อนเราเข้ามา ทีมตัวแทนเขตการขายโอเคที่มีแผนกช่วยคิด ช่วยทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้)
ที่นี่ เจ้าของสั่งงานเองทั้งหมด บิลทุกบิลเจ้าของต้องเซ็น เอง  เราพยายาม performance ตัวเองขึ้นมาว่ามอบหมายให้เราก็ได้ เราสามารถคุมและจัดทำรายงานเสนอได้ แต่เจ้าของไม่ปล่อยวาง  (ระแวงทุกคนในบริษัท)
งานเพียง 1 งาน เจ้าของลงมือสั่งเอง ทุกแผนก ซึ่งมันคือความซ้ำซ้อนกัน
อย่างเช่นงานออกแบบผลิตภัณฑ์ งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ควรเป็นหน้าที่การตลาด  เจ้าของมอบหมาย การตลาด + เลขาผู้บริหาร + สต๊อก  คือเราว่ามันไม่ใช่น่ะค่ะ

การทำ Brand Awareness โอเคค่ะ ข้อจำกัดของแต่ละที่มี ไม่ว่าจะเรื่องงบ หรือคน    เป็นเรื่องปกติของทุกๆ ธุรกิจ เพียงแต่ตัวเลขที่ผ่านมา ตั้งแต่เราเข้ามาทำ มันโตขึ้น บางทีเราก็อยากขอความไว้ใจ ให้เราได้คิด ได้ต่อยอดไปมากกว่านี้ โดยที่วิจารณ์การทำงานของเรา เป็นไตรมาสได้ไหม ไม่ใช่วิจารณ์ทุกวัน  

ตอนนี้ เราพยายามสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น เพื่อ ทำความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง     เรา protect ลูกน้องในแผนก ซึ่งเปิดอกคุยกันแล้ว เราสามารถปรับทัศนคติเค้าได้ ให้เค้าอดทน สู้งาน   แต่กลายเป็นว่าเจ้าของก็จะคอยเม้าท์มอย พนักงานคนนั้น คนนี้ให้พนักงานด้วยกันฟัง แล้วความสามัคคี มันจะเกิดได้อย่างไร

ถ้าถามใจเราตรงๆ เราขอถอยค่ะ  คือรู้สึกว่าเสียเวลาที่จะเอาพลังมาสู้รบ ปรบมือกับอนาคตที่มองไม่เห็น  

อยากรบกวนขอความเห็นนักการตลาดว่า ความอดทนเราน้อยไป หรือเราควรไปเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ดีกว่า  ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่