"เมื่อผมพาลูกสาวเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่4 ไปรับปริญญา"

จากกระทู้เดิม
http://pantip.com/topic/32925589/comment19
     “ ครอบครัวน้องจอยไล่มาตั้งแต่สาย ปู่,ย่า – ตา,ยาย ไม่มีใครรับราชการเลย แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา เราได้มายืนอยู่ตรงที่หลายๆคนใฝ่ฝัน เส้นทางของหลายคนอาจจะดูสวยงามเรียบง่าย ดำเนินไปตามครรลองของมัน แต่เส้นทางของน้องจอยอาจจะมีอุปสรรค์บ้าง ที่ต้องต่อสู้หลายๆอย่าง ตามสภาพที่เกิดขึ้นกับน้องจอย จนมาถึงวันนี้ น้องจอยได้พาเราและครอบครัวก้าวข้ามมันไปได้อีกก้าวหนึ่งแล้ว “
      หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาต่างๆ ที่ต้องต่อสู้และเอาชนะกับจิตใจของตนเองที่ต้องเผชิญกับหลากหลายความคิดที่ประดังเข้ามา และช่วงเวลาที่จำกัด เพราะใกล้ถึงช่วงเวลาที่น้องจอยต้องเข้ารับปริญญาในวันที่ 16 ธันวาคมนี้แล้ว ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่เราต้องดูแลน้องจอยและไปพบแพทย์บ่อยขึ้น เพราะทุกท่านเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพมาก จึงต้องไปตรวจดูว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
     หลังจากที่พาน้องจอยไปซ้อมรับปริญญาที่ มทร.พระนครเมื่อวันที่ 30พ.ย.ที่ผ่านมา และได้ไปพูดคุยกับอาจารย์ ที่ควบคุมแถวและโหลดนักศึกษาเพื่อเข้าหอประชุมแล้ว ซึ่งสรุปว่าน้องจอยไม่ต้องไปซ้อมในวันที่ 10 ธันวานี้แล้วแต่ในวันที่ 11ธันวาคมนั้น ให้ไปดูสถานที่และจุดที่จะต้องพักที่หอประชุม และฟังคำแนะนำจากอาจารย์  ว่าในวันที่ 16 ธันวาจะต้องทำอย่างไรบ้าง และจะทำอย่างไรเมื่อถึงวันจริงน้องจอยจะมาใกล้จุดคืออาคารหอประชุมให้มากที่สุด (ต้องขอบพระคุณทุกๆฝ่ายมาก ที่เป็นห่วงและได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกให้น้องจอยในครั้งนี้)
    การมาที่คลองหก(วันที่ 11ธันวาคม) ในครั้งนี้ทางเราก็เตรียมการในเรื่องของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องออกซิเจน และยังมีน้องพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด มันเป็นครั้งที่สองที่ผมมาที่คลองหก หลักจากเมื่อ 18ปีที่แล้วได้เคยมาที่นี้ครั้งหนึ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด ภายในบริเวณกว้างขวางมากอากาศดี มีน้องๆและญาติๆนักศึกษามา ซ้อมรับปริญญามากมาย เหมือนกับการรับจริงเลย แต่น้องจอย ไม่มีโอกาสที่จะไปไหนมากนักได้แต่นั่งดูเพื่อนๆ อยู่บริเวณที่จัดให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องพานักศึกษา(ตอนนี้เขาให้เรียกบัณฑิต) เข้าสู่ห้องประชุม(ซ้อมช่วงบ่าย)
   และหลังจากซ้อมเสร็จ ทางท่านอธิการบดี และคณะผู้บริหารก็ได้มาพบ และนัดแนะว่าในวันจริงจะต้องทำอย่างไรบ้าง อาจารย์ทุกท่านมีความเป็นห่วงมากและมาให้กำลังใจกันมาก ต้องขอขอบพระคุณทุกๆท่านไว้เป็นอย่างสูง ณ ที่นี้ด้วย    
     และเมื่อวันที่เรารอคอยก็มาถึง 16 ธันวาคม 2557 วันรับจริง เราเดินทางมาตามหมายกำหนดการ และได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีจากท่านอาจารย์หลายๆท่าน ที่คอยโทรสอบถามตลอดว่าอยู่ที่ไหนแล้ว เป็นอย่างไร  
                 
    วันนี้คนเยอะมาก เป็นวันจริงแต่น้องจอยก็ไม่ได้ถ่ายรูปเลย จะอยู่บริเวณด้านหลังหอประชุม ต้องคอยอยู่ในจุดที่ใกล้ที่สุด
    เมื่อถึงเวลา 11 โมงโดยประมาณน้องจอยก็ถูกเรียกเข้าห้องประชุมทางด้านหลังโดยอาจารย์เป็นผู้พาไป ในช่วงนี้ผมและภรรยายังมีโอกาสตามน้องจอยไปได้อยู่ แต่เมื่อเข้าสู่พิธีการแล้ว ก็คงรอน้องจอยอยู่ที่ด้านหลังหอประชุมเท่านั้น
จนเมื่อเวลาบ่ายสองโมงน้องจอยก็ออกมาพร้อมคณะอาจารย์ที่มาส่งและให้กำลังใจ และให้น้องจอยเดินทางกลับบ้านได้ทันที

    มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม ซึ่งคงไม่เป็นการเหมาะสมที่จะเล่าสู่กันฟังในสถานที่แห่งนี้
   ขอบคุณคณะอาจารย์จาก มทร.พระนครทุกท่าน ที่ไม่ทอดทิ้ง คอยดูแลคอยสอบถาม คอยให้กำลังใจ ขอบพระคุณมากครับ
    ขอบคุณคณะอาจารย์จาก มทร.ธัญบุรีทุกๆท่าน ที่ดูแลและอำนวยความสะดวก
     ขอบคุณบัณฑิตและญาติบัณฑิตทุกท่านที่เป็นกำลังใจ
     ขอบคุณกลุ่ม "โรคนางเอก พี่ลูหัวใจน้องลิม" กลุ่มที่คอยให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคเลือด
     ขอบคุณทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผมและน้องจอย
     หลังจากนี้น้องจอยก็คงเริ่มเข้าสู่ขบวนการรักษาต่อไป หลังจากเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ได้ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจดูความพร้อมของร่างกาย และอาการต่างๆ สรุปทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี และมีนัดให้มาให้ยาอีกทีในวันที่ 23 ธันวาคมนี้เป็นครั้งที่สาม ต่อไ  
      ส่วนแนวทางในการดูแลรักษาหลังจากนี้ไปก็จะมาเล่า เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยกันต่อไป
       "สำคัญที่สุดคือกำลังใจ  ร่ำรวยแค่ไหนก็ซื้อกำลังใจและความจริงใจไม่ได้"
      ขอความสวัสดี ความสุข ความเจริญ จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ
            ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่