Beppu :: ตะลุยหิมะบนยอดเขาซูรูมิ (Mt.Tsurumi)

ทริปนี้ผมไปเที่ยวคิวชูในช่วงกลางธันวาที่ผ่านมานี้
ที่ไปก็มีในรีวิวส่วนใหญ่แล้วเลยขอข้ามไปนะครับ แต่เขาซูรูมิ ไม่ค่อยเห็นมีริวิววันนี้เลยจะมารีวิวนะครับ
ซึ่งแพลนผมจะเป็นว่าไปเที่ยวยูฟุอินในตอนเช้าแล้วนั่งรถไฟไปพักที่โออิตะก่อน 1 คืนแล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปเที่ยวในเบปปุ
ที่ผมเลือกพักที่เมืองโออิตะแทนเบปปุ เพราะ เห็นว่าเป็นสถานีใหญ่กว่าเบปปุน่าจะมีร้านค้ารอบๆมากกว่า

เที่ยวจากยูฟุอินแล้วนั่งรถไฟไปถึงโออิตะตอนประมาณเกือบๆ 6 โมงครับ
พอเช็คอินที่โรงแรมเสร็จ ก็เดินกลับมาที่สถานีครับ พอดีว่จะไปกินข้าวเย็นที่เบปปุ << แล้วทำไมไม่พักเบปปุไปเลยฮะ!!! 5555

ระหว่างทางก็เดินผ่านถนนชอปปิ้งครับ (Cenporta Shopping Str.)
อันนี้เป็นถนนชอปปิ้งไม่ไกลจากสถานีครับ (ซึ่งผมว่าไม่ค่อยมีอะไร หรือตอนผมไปมันดึกแล้วก็ไม่รู้)

มีร้านขายยาอยู่ประมาณ 2-3 ร้าน


ในเมื่อไม่มีอะไรเลยออกมาเดินที่ถนนแทนครับ


เดินไปเดินมา เจอร้านทาโกะยากิ ก็เลยแวะกินก่อน




1 กล่องครับคุณลุง


500 เยนครับ ลูกเล็กๆอร่อยดี ซึ่งมารู้ที่หลังว่า ที่เบปปุก็มีร้านนี้ครับ เลยคิดว่า อีกหลายๆเมืองคงมีเหมือนกัน =="
ส่วนตัว ผมว่าอร่อยกว่ากิงดาโกะตรงหลังสถานีฮากาตะมากมาย


กินเสร็จก็เดินไปสถานีต่อครับ
ภายในสถานีโออิตะ ก็มีร้านค้าต่างๆพอสมควร
แม้แต่ครัวซองร้านนี้ (ซึ่งลองกินที่ฮากาตะ ผมคิดว่าก็เฉยๆนะครับ)


แล้วก็มี supermarket ตรงด้านหลัง พร้อมร้านขายขนมต่างๆพอสมควรเลยทีเดียว


เดินวนๆในสถานีอยู่แปปนึง แล้วก็นั่งไป เบปปุครับ
พอถึงสถานี เดินต่อไปไม่ไกลก็....

...

...

ถึงแล้วครับ!!


ตอนนี้หลายคนมองหน้าร้านแล้วคงคิดว่า ทำไมดูเกาหลีๆจัง ใช่ครับ มันคือร้านอาหารเกาหลีครับ 5555

เมนูที่สั่งก็เป็นนี่เลย..หมู/เนื้อ/ไส้ภูเขาครับ (มีแค่เนื้อแปะด้านบนนะครับ ข้างล่างเป็นผัก ซึ่งประกอบด้วยถั่วงอกเป็นหลัก)




พอตั้งไฟไปซักพัก พนักงานก็จะมาถล่มภูเขาให้กลายเป็นแบบนี้


แล้วพอกินหมด ก็สั่งข้าว แล้วพนักงานจะมาทำให้ครับ


พอกินเสร็จ ก็นั่งรถไฟกลับไปพักที่โออิตะครับ

ตื่นเช้ามา ก็นั่งรถไฟไปเบปปุเหมือนเดิมครับ << น่าจะพักที่เบปปุจริงๆนะเนี่ย 555


ทั้งที่สถานีโออิตะและเบปปุมีเคาน์เตอร์ให้จองที่นั่งสำหรับคนใช้ JR PASS นะครับ สามารถเดินเข้าไปจองได้เลย
ถ้าขี้เกียจดูรอบก็บอกเข้าไปเลยว่า... จะไปนั่งจากโออิตะไปเบปปุตอนนี้เลย พนักงานเค้าก็จะเขียนรอบที่เร็วที่สุดที่มีมาให้เราดู
ถ้าโอเค พนักงานเค้าก็จะออกตั๋วให้ครับ
** ปกติตั๋วที่ออกมาจะเป็นภาษาญี่ปุ่นบวกกับภาษาอังกฤษนะครับ แต่มีรอบนึงผมให้เพื่อนผมไปออกตั๋วให้ ซึ่งเพื่อนผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้
ตั๋วที่ออกมาเลยกลายเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนซ่ะงั้น 5555 ฉะนั้นระวังนะครับ


และแล้ว sonic ก็มารับไปเบปปุ


สภาพรางที่สถานีเบปปุ


มาถึงสถานีก็เดินไปซื้อตั๋ว one day pass สำหรับนั่งบัสครับ
(ถ้ากำลังเรียนอยู่ สามารถโชว์บัตรนักเรียน/นักศึกษา ภาษาไทยได้เลยนะครับ จะมีส่วนลดนิดหน่อยสำหรับพาส)


แล้วก็เดินมาขึ้นบัส คันที่เขียนว่าไป ropeway ครับ
** รถบัสที่เบปปุขึ้นประตูกลาง ลงประตูหน้านะครับ จะลงป้ายไหนก็กดกริ่ง และคนในเมืองนี้จะรอให้รถบัสจอดสนิทก่อนแล้วค่อยลุกเดินไปที่ประตู ส่วนถ้าใครไม่ได้ใช้พาส ใช้เงินสดแล้วต้องการแลกเหรียญ แนะนำให้ลงเป็นคนท้ายๆ เพราะต้องเสียเวลาแลกเหรียญ อาจจะทำให้คนที่ต่อคิวรอลงอยู่ รู้สึกเซ็งได้ครับ (อันนี้เพื่อนที่อยู่ที่เบปปุบอกมา 5555)


นั่งไปเรื่อยๆ....สภาพในตัวเมืองมีหิมะปกคลุมไปหมดครับ


ประมาณ 20 นาที ก็มาถึงครับ
แต่ก่อนลงจากรถ คุณลุงคนขับบอกว่า บัสนี้เป็นรอบสุดท้ายที่จะวิ่งแล้ว...ห๊ะ!!!!
คุยไปคุยมาก็ได้ความว่า ตอนนี้หิมะตกบวกกับลมแรงมาก ทำให้บัสไม่สามารถวิ่งได้ คันนี้เป็นคันที่ขึ้นเขาเป็นคันสุดท้ายแล้ว
โดยบัสนี้จะขับไปต่อจนสุดทาง แล้วกลับมาทางเดิม ซึ่งจะวนมาถึงสถานี ropeway ตอน 10:35 ฉะนั้น 10:35 ต้องบลงมาขึ้นรถบัสให้ทันนะ
อะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งพวกผมก็โอเค แล้วก็ลงจากรถ บ๊ายๆคุณลุงคนขับ

แล้วคุณลุงก็ขับบัสจากไป.... ไปป.... 10:35 เจอกันอีกรอบนะครับ


รูปตึกสถานี ropeway ครับ




จัดแจงซื้อตั๋วมาเรียบร้อย (ropeway จะวิ่งขึ้นและวิ่งลงทุกๆ 20 นาทีนะครับ)


อันนี้เป็นตรงที่ขึ้นกระเช้าครับ


เริ่มขึ้นเขาแล้ว


พนักงานก็พูดบรรยายไปเรื่อยๆ เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผมฟังไม่ออกครับ


ประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานีบนยอดเขา
พอเดินออกมาก็... ลมแรงมากกกก หิมะกระจายครับ 5555


มีศาลเจ้าอยู่ไม่ไกล ซึ่งผมได้แค่เดินไปถ่ายรูปครับ แต่ไม่ได้เข้า หรือเดินขึ้นไป เพราะลมแรงมาก ไม่น่าจะไปไหว


อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ -8 องศา


เจอกบนั่งตากหิมะอยู่ ...


เพื่อนผมสงสารกบมั้งครับ5555 เลยเอามือไปปัดหิมะบนหลังกบให้
เจอเหรียญเต็มหลังกบเลย (แต่มันฝังอยู่บนหลังนะครับ เอาออกไม่ได้)




หนาวจริงๆ


ซักพักนึ่งก็นั่ง ropeway ลงเขาครับ


พอลงมาก็รีบวิ่งไปที่ป้ายรถบัสเลยครับ (กลัวตกรถคุณลุง 555)
ไปถึงป้ายประมาณ 10:25 ก็ยืนรอครับ....

10:30...

10:35....

ถึงเวลาแล้ว!! แต่ยังไม่เห็นวี่แววคุณลุงกับรถบัสของเขาเลยครับ
ก็เลยรอ...

10:40

10:45
คุณลุงอยู่หนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย....
มองซ้าย...


และมองขวา...


ก็ยังไม่เห็นรถบัสอยู่ดีครับ
เพื่อนผมเลยตัดสินใจโทรไปที่สถานีรถบัสเพื่อเช็ค ได้ความว่า...
รถบัสที่ขึ้นเขาหยุดวิ่งหมดแล้วว คาดว่าน่าจะกลับมาวิ่งอีกทีตอนบ่ายๆ
นั่น หมายความว่า คุณลุงไม่กลับมาแล้ววว T___T
สุดท้ายไม่มีทางเลือกครับ เลยต้อง


มิเตอร์เด้งรัวเลยครับ T_T

แปปเดียว (แต่ค่าแท็กซี่ไม่นิดเดียว) ก็มาถึงสถานีเบปปุ ถ่ายรูปกับคุณลุงหน่อย แช๊ะ


แล้วก็เดินไปกินชาบูครับ


ถึงแล้วครับ


เมนูมา (ผักมีให้ชุดเดียว ส่วนหมูไม่อั้น)


น้ำจิ้มมา


หม้อมา


ผัก/หมูมา


กินครับ!


กินเสร็จก็ไปเดินถนนชอปปิ้งของเบปปุแปปนึงครับ
เพื่อนบอกมีไอติมร้านนึงอร่อยมาก เป็นไอติมโฮมเมด << หนาวขนาดนี้ยังจะกิน 5555

หน้าร้านครับ


ร้านปิดอยู่ครับ ยังไม่เปิด เปิดบ่ายสาม เลยคิดว่าเดี๋ยวไปทัวร์บ่อนรกแล้วค่อยกลับมากินครับ


ไปทัวร์บ่อ ซึ่งผมไปแค่บ่อเดียวครับ
บ่อนี้ครับ จำชื่อไม่ได้ จำได้แต่เป็นบ่อที่น้ำสีฟ้า


ซื้อตั๋ว


แล้วก็เข้าไปครับ


ดูท่าโยนพลาดไปหลายคน (ผมไม่ได้โยนครับ)




ดอกไม้ก็ยังดูสดใสท่ามกลางหิมะและอากาศอันหนาวเหน็ย


เสร็จจากบ่อ แล้วก็มารอรถบัสที่ป้ายนี้ครับ
ซึ่งพอยืนรอไปซักพัก ก็มีคุณลุงคนนึงเดินมาบอกว่า ป้ายนี้บัสไม่จอดนะ เลิกใช้ไปแล้ว...


ก็เลยเดินไปรอที่อีกป้ายครับ


ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายสามหน่อยๆละครับ
ใช่แล้วครับ ร้านไอติม!! ก็เลยแวะไปครับ


ใช่ครับ ยังปิดอยู่ดีครับ T__T

ขอบคุณที่รับชมครับ
ก็ขอจบรีวิวเมืองเบปปุไว้เท่านี้ครับ  เม่าดี๊ด๊า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่