ช่างไม่รู้อรรถกถาเลย ตอนที่ 9 สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญาในวิภังคปกรณ์ แปลใหม่ตามฏีกาให้อ่านรู้เรื่อง

สารบัญทุกตอน
http://pantip.com/topic/32469271

อนึ่ง ใครที่ต้องการอ่านแบบตัดบรรทัดสวยๆ
ให้อ่านในรูป หรือ ในลิงก์นะครับ, ต่อไปนี้
ในพันทิพจะไม่ตัดบรรทัด เพื่อสะดวกกับแท็ปเล็ตและมือถือ ครับ.

อ่านแบบสบายตา
http://dhammacomment.blogspot.com/2014/11/blog-post_18.html
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(แปลตามอนุฏีกาของพระธัมมปาลาจารย์ ครับ)

เรื่องสุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญา เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผม เพราะมีการตีความที่ขัดแย้งกับอรรถกถาหลายมติจากหลายสำนัก จนนำไปสู่ความขัดแย้งเป็นก๊กเป็นเหล่าระหว่างสำนักที่ตั้งใจปฏิบัติตามพระไตรปิฎกด้วยกัน ซึ่งพระไตรปิฎกตรงนี้แปลยากมากสำหรับมือใหม่ (เพราะยังไม่ชำนาญกับอรรถกถาฏีกา) ผู้เขียนเองใช้เวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2006 จวบจนถึง ปีนี้ 2014 จึงแปลรู้เรื่อง. ด้วยเหตุทึ่เรื่องนี้ จึงได้นำคำแปลนี้มาเผยแพร่ให้ได้ศึกษากัน ครับ.

-------------------------------------------------------------------------

จินตามยปัญญา คือ บุคคลย่อมได้ปัญญาเหล่านี้โดยไม่ได้ฟังจากผู้อื่น คือ  

1. ปัญญา(คือ ขันติ, ทิฏฐิ, รุจิ, มุทิ, เปกขา, ธัมมนิชฌานขันติ [ไวพจน์ของปัญญาทั้งหมด]) ในงานใช้แรงงานต่างๆที่จัดการด้วยปัญญาบ้าง
(เช่นคิดด้วยตนเองว่าจะสร้างศาลาเพราะอยากให้คนอื่นมาพักผ่อนใช้สอย),

2. ปัญญาในงานใช้หัวคิดต่างๆที่จัดการด้วยปัญญาบ้าง
(เช่นคิดด้วยตนเองว่าน่าจะทำแผนที่ให้คนอ่านจะได้ไม่หลงทาง),

3. ปัญญาในงานใช้วิชชาต่างๆที่จัดการด้วยปัญญาบ้าง
(เช่นคิดด้วยตนเองว่าน่าจะร่ายมนต์รักษาคนเขาจะได้หายป่วยเป็นสุข),

4. กัมมสสกตาปัญญาบ้าง
(เช่นคิดขึ้นมาเองว่า ทำบุญได้ผลเช่นนี้ ทำบาปได้ผลเช่นนี้ บุญควรทำ บาปไม่ควรทำ),

5. สัจจานุโลมิกปัญญาบ้าง
(ว่า "รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ ไม่เที่ยง" ดังนี้) ,

6.หรือได้ปัญญาอะไรก็ตามที่เป็นอนุโลมิกะ
(ปัญญาใดๆ ที่เข้ากันได้กับเหตุ 5 ข้อนั้น/กับประโยชน์ของสัตว์โลก/กับมัคคสัจ/และกับนิพพาน).

-------------------------------------------------------------------------

ในสุตมยปัญญาก็เหมือนกัน, ต่างกันตรงที่ สุตมยปัญญา ได้ยินได้ฟังมาจากคนอื่นจึงเกิดปัญญา ใน 6  ข้อนั้นขึ้นมา, ส่วนจินตามยปัญญาไม่ได้ยินได้ฟัง ก็สามารถคิดได้เอง.

อรรถกถาบอกว่า เฉพาะสัจจานุโลมิกญาณเท่านั้น ที่เป็นจินตามยปัญญาเฉพาะของพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า, จินตามยปัญญาอื่นนอกนั้นสัตว์ที่มีปัญญามากเหล่าอื่นๆ ก็สามารถทำได้.

ส่วนภาวนามยปัญญานั้น วิสุทธิมรรคมหาฏีกา กล่าวว่า หมายถึงวิปัสสนาและมรรคปัญญา. แต่ในที่นั้น ท่านหมายถึง ภาวนามยปัญญาในวิสุทธิ ๕ ข้อหลัง ที่เป็นวิปัสสนา เพราะเป็นเนื้อหาที่กำลังกล่าวอยู่ในวิสุทธิมรรคจุดนั้น, ดังนั้น จึงไม่ควรจะเอามาใช้ขยายในวิภังค์ตรงๆ ทีเดียว. ในวิภังค์ที่กำลังยกมาแปลนี้ โดยบริบทแล้วควรจะหมายถึง ฌานและมรรคปัญญา  (ถ้าเอาแบบวิสุทธิมรรคมหาฏีกาก็ต้องรวมทั้งอุปจาระด้วย ซึ่งผู้แปลมองว่า ซ้ำซ้อนกับสัจจานุโลมิกปัญญาข้างต้นจึงไม่เอามารวมไว้)

ควรดูปัญญา 3 อย่างนี้ใน เทสนาหารปฏินิทเทส ในเนตติปกรณ์ประกอบด้วย เพื่อความเข้าใจยิ่งๆ ขึ้นไป ครับ.

---------------------------------------------
ฝากเพจธรรมะ
ตอบปัญหาธรรมะลึกซึ้ง:
https://www.facebook.com/DhammaComment
กลุ่มผู้รักษาศีล 8 สัปดาห์ละครั้ง (ศีล 5 ก็เข้าร่วมได้):
https://www.facebook.com/gsila8
เครือข่ายโยมอาสาช่วยงานพุทธศาสนา
https://www.facebook.com/pages/เครือข่ายโยมอาสาช่วยงานพุทธศาสนา/528975920543584
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่