...สอดคล้องหรือขัดแย้ง..พุทธศาสนากับทฤษฎีวิวัฒนาการ!?

ในบรรดาพระสูตรทีมีอยู่มากมายในพุทธศาสนาผมชอบพระสูตรกำเนิดโลกมากที่สุดเพราะมีข้อมูลที่เกินกว่ามนุษย์ในยุคเราจะรู้ได้
ถึงความเป็นมาอันน่าอัศจรรย์ของกำเนิดชีวิตของภพมนุษย์ในยุคเริ่มแรกของวัฏฏะจักรของการเกิดและดับของโลก
โอ้..ถ้าผมจะนำแต่เรื่องราวของคำภีย์มากล่าวอย่างเดียวโดยไม่หาหลักฐานนำมาสนับสนุน
เอาแต่แบกคำภีย์มาอ้างคนที่เขาไม่ได้ศรัทธาก็ย่อมไม่เชื่อถือ

ผมขอเริ่มต้นที่มีความคล้ายคลึงกันของทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวจนมาเป็นนามรูปกายของมนุษย์และกายละเอียด
ที่ซ้อนอยู่ในกายมนุษย์ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงยุคเริ่มแรกของกำเนิดมนุษย์ที่มีแต่กายละเอียดในมิติที่ต่างไปจากโลกใบนี้
ใช่..เลยครับชีวิตมนุษย์ไม่ได้เริ่มต้นในโลกใบนี้การที่เราพบว่าองค์ประกอบของร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวจำนวนมาก

ทำให้เราสาวไปถึงยุคเริ่มต้นของกำเนิดชีวิตบนโลกใบนี้ ส่วนการค้นพบว่ามนุษย์มีกายละเอียดจากบันทึกทางการแพทย์
ว่ามีปรากฏการณ์ถอดกายทิพย์ของผู้ป่วยอาการโคม่าทั่วโลกที่ทอดกายทิพย์ออกมาเองและสามารถจดจำรายละเอียดที่
แพทย์และพยาบาลกำลังทำการรักษาร่างกายขณะที่ผู้ป่วยหมดสติ
เรื่องแบบนี้มีผู้รวบรวมขึ้นและสภาวิจัยไทยก็เคยนำมาแปลเป็นหนังซื้อออกขาย


แม้โลกปัจจุบันจะรู้จักกายทิพย์ได้ไม่มากนักแต่ปรากฏการณ์พบปะกายของผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตที่ไปปรากฏให้คนรู้จักและญาติได้เห็น
ก็มีบันทึกพบเห็นกันอยู่ทั่วโลกเหมือนกัน มันเป็นความสอดคล้องเหลือเชื่อที่ในคำภีย์ในพุทธศาสนาได้มีพระสูตรที่
บรรยายถึงลักษณะกายมนุษย์ว่ามีถึงสามชนิดเรียงจากความละเอียดของกายก็จะเริ่มจากกายอรูป กายทิพย์และกายหยาบ
ถ้าปราศจากพระสูตรอัตตาสามนี้เสียแล้วคำภีย์กำเนิดโลกก็จะเป็นแต่เรื่องชวนหัวให้กับคนที่ยังไม่ศรัทธาเท่านั่นเอง
ในคำภีย์กำเนิดโลกได้บรรยายถึงภพมนุษย์และมนุษย์ในยุคเริ่มแรกของวัฏฏะจักรของรอบนี้ว่า

มนุษย์และภพของมนุษย์มีมาก่อนโลกหรือจักรวาลนี้จะกำเนิดขึ้นมา มนุษย์มีกายที่มีแสงสว่างในตนเองเป็นกายชั้นแรก
ของมนุษย์ลักษณะกายแบบนี้ไม่ต้องกินอาหารหยาบอิ่มด้วยปิติความสุขด้วยตนเอง ต่อมาภายหลังได้ไปกินสิ่งที่มาจากภายนอก
ที่กำเนิดขึ้นมาภายหลังเข้าจึงทำให้มนุษย์เริ่มมีกายที่ยาบกว่ากายชั้นแรกเกิดขึ้นและต่อมามนุษย์มีกิเลสมากขึ้นทำให้แสงสว่าง
ในกายก็หดลงไปเรื่อยๆจนเป็นกายทึบแสงเกิดขึ้นเหมือนกายมนุษย์ในยุคของเราซึ่งเป็นช่วงที่มีวิญญาณของมนุษย์มาเกิด
ในโลกใบนี้ในร่างของสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาการขึ้นมาจากสัตว์เซลล์เดียวและข้ามพ้นสติปัญญาระดับสัตว์เดรัจฉานขึ้นมาแล้ว
วิญญาณมนุษย์ในมิติอื่นจึงสามารถมาปฏิสนธิในกายของสัตว์ในโลกใบนี้ได้


ที่อธิบายแบบนี้ย่อมมีหลักฐานมิใช่ไม่มีหลักฐานเพราะพระพุทธองค์กล่าว่าอายตนะเป็นปัจจัยภพจึงเกิด
ตราบที่สิ่งมีชีวิตบนโลกยังพัฒนาอายตนะหรือระบบร่างกายไม่ถึงระดับมนุษย์ความเป็นภพของมนุษย์ก็จะไม่บังเกิดขึ้น
มันก็จะมีแต่วิญญาณของเดรัจฉานเท่านั้นที่มาปฏิสนธิกำเนิดได้เท่านั้นเพราะฉะนั้นทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก
จากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวจนมาเป็นร่างนามรูปของมนุษย์ได้นั้น ไม่ได้ขัดแย้งกับคำภีย์ในทางพุทธศาสนาถ้านับรวมอายุเริ่มต้น
ที่มีวิญญาณระดับมนุษย์มาอาศัยร่างของสัตว์บนโลกนี้ก็จะไม่ยาวนานเท่ากับอายุของร่างสัตว์นี้ มันน่าจะเริ่มขึ้นพร้อมกับความสามารถระดับมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
ชาวพุทธเองก็ต้องรู้จักพระสูตรอัตตาสามด้วยลำพังพระสูตรกำเนิดโลกอย่างเดียว
ไม่สามารถบรรยายต่อภาพจิกซอจนเห็นภาพรวมได้ทั้งหมดครับ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่