ไม่ต้องง้อมีดหมอ ก็โบกมือลาทุกนิยามความห่วยของหน้าได้

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น ออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้ เราตั้งขึ้นเพื่อให้กำลังใจ
กับผู้หญิงที่เคยเจอแบบเรา คุณอาจมองว่า เห้ย! แกไม่ได้ขี้เหร่เลย มาตั้งกระทู้ต้องการอะไร
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนเราจะมาเป็นนางแบบนิตยสาร เราโดนเหยียบ โดนดูถูกยังไง
และเราก้าวผ่านมายังไง นี่คือสาระสำคัญของกระทู้นี้ค่ะ  และคำว่าห่วย ในหัวข้อ ลองเปิดใจอ่านเนื้อหา
ของเราก่อนนะคะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคำติ ชม ค่ะ

และ กระทู้นี้ ไม่ได้แอนตี้ศัลยกรรมนะคะ
สิงพันทิพมานานมาก เห็นหลายกระทู้ รีวิว การเปลียนแปลงตัวเอง
ร้อยละ 90 สวย หล่อ ขี้น จากการศัลยกรรม ซึ่งจขกท.เอง ก็แอบมีโครงการนำซิลิโคนเข้าร่างกาย
ในอนาคตเช่นเดียวกัน แต่ !!!! จขกท.เชื่อว่า อีก 10% ที่ได้แต่อ่าน แต่ยังกลัว หรือปัจจัยไม่ถึง
แล้วเกิดความท้อที่ว่า เกิดมาไม่สวย ก็ปล่อยมันไม่สวยไปแบบนี้แหละ !!

ซึ่งจขกท.เอง เคยมีโมเม้นท์นั้นค่ะ ด้วยความที่โดนล้อแต่เด็กว่า น้องเฉาก๊วย น้องโอเลี้ยง
น้องหลักกิโล น้องคางคก !!! เพราะจขกท. เตี้ย !! ดำ !! และ เป็นสิว !!

มาดูรูปสมัยม.ต้น จขกท.กันก่อนดีกว่าค่ะ






พอขึ้นม.ปลาย เริ่มปล่อยตัว ตากแดด ถือคติ ก็ไม่สวยอยู่แล้ว ช่างมัน !!





ดำเต็มรูปแบบ สิวเขรอะเต็มหน้า แล้วก็เกิดเรื่อง ปิดเทอม กลับมาหาพ่อแม่ ที่นนทบุรี
(แม่ส่งไปเรียนที่ร้อยเอ็ดตั้งแต่ช่วงประถม อยู่กับยาย จะกลับเข้ากรุงเทพทุกปิดเทอม) แล้วเกิดอะไรขึ้นจำไม่ได้
จขกท.ต้องมาอยู่บ้านป้าที่ลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่ๆเคยอยู่สมัยอนุบาล คงพอเดากันได้ใช่มั้ยคะ ?
ใช่ค่ะ กลับมาเจอ เพื่อน พี่ สมัยเด็กน้อย จากที่ไปไหนมาไหน กับแม่ เริ่มเจอเพื่อนๆในกรุงเทพ ที่ผิวพรรณ หน้าตา....
ทำเอาจขกท.ไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลย ยิ่งช่วงนั้นฮิต Hi5 เพื่อนๆที่รู้จัก รู้ว่าเรามากรุงเทพ นัดเจอ
เราบ่ายเบี่ยงตลอดเลย
และช่วงนี้เองที่เราเริ่มอ่านหนังสือแฟชั่น พวก ICE, Scawaii หาวิธีการแต่งตัว การดูแลตัวเอง
ไปหาหมอรักษาสิว เต้นแอโรบิควันละ 1-2 ชม. หน้าก็เริ่มใส ผอมลง





และการที่ได้อ่านนิตยสารบ่อยๆก็ทำให้ จขกท.เกิดความคิดที่ว่า ถ้าวันนึง ผู้หญิงในนิตยสารคนนั้นเป็นเรา จะดีแค่ไหนนะ ?
และพอทุกคนที่รู้เรื่อง พูดกับเราแบบไม่คิดเลยว่า ไปตายแล้วเกิดใหม่ไป !! (สมัยนั้นศัลยกรรมยังไม่เข้าถึงขนาดนี้)
และพอเราจบม.ปลาย มาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ คำว่า"เป็นไปไม่ได้" ยิ่งชัดเจนขึ้นกับความฝันนี้

แต่คิดว่าเราจะยอมแพ้กับคำตราหน้าที่เราโดนย้ำนัก ย้ำหนา ว่าเป็นยัยขี้เหร่ หรออออออออออ ??

ม.ปลายจบไป ก็ดูสวย ใส  อ้าวแย่ไงล่ะ ? ก็แย่ตรงความฝันอยากเป็นนางแบบนิตยสารไงล่ะ !!

ด้วยความที่ความฝันเราแอดวานซ์ พอเอาหน้าปกติ ไปเทียบกับนางแบบ มันก็ต้องเจอกับคำว่า ห่วย แปะหน้าผาก

ตอนเข้ามหาลัย เรามีเพื่อนเป็นเด็กโคฟ (เต้นcopy วงเกาหลี) และแต่ง cosplay ซึ่งนางเนี่ยแหละ

ได้พาเราไปงานคอสเพลตามสยาม แล้วก็มีตากล้องมาขอถ่ายรูป จนเราเริ่มรับงานพอร์ทเทรด

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปหาหมอสิวแล้ว และเริ่มซื้อครีมใช้มั่ว สิวก็บุก เริ่มกินเยอะ ก็จะอวบขึ้น

ตอนสิวเริ่มบุก มันก็เริ่มแต่งหน้าไม่เรียบแล้ว ตอนนั้นเล่นเว็บมัลติพาย ก็จะมีตากล้องมาชวนไปถ่ายรูป

โลกมืดเราเริ่มจากตรงนี้ เมื่อตากล้องเจอหน้าเรา แล้วแสดงท่าทีไม่อยากถ่าย ทั้งๆที่ตอนคุยกันก่อนเจอ

พี่เขาพูดจาดีมาก บางคนดีหน่อย ถ่ายสิบกว่ารูป แล้วกลับบ้าน แต่บางคน ถึงขนาดเจอหน้าเรา ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

แล้วก็หายไปเลย ตอนนั้นเริ่มมีเฟคบุค เขาลบเราทิ้ง และเราเคยเจอขนาดว่า คุยว่าเราน่ารักอยากพาไปถ่ายที่นั้น ที่นี่

พอเจอหน้า เขาแสดงกริยารังเกียจแบบเดินห่างๆ และแกล้งโทรศัพท์บอกติดธุระด่วน !!!!!









อย่าว่าแต่ตากล้องเลย เพื่อนๆเราเอง ยังแสดงออกถึงท่าทีดูถูก เรียกเราว่า น้องคางคก !!

ซึ่งพอคนที่รู้ว่า เราฝันอยากเป็น นางแบบนิตยสาร ทุกคนก็เบะปาก กรอกตา แล้วบอกว่า

"ไปตายแล้วเกิดใหม่ง่ายกว่าว่ะมรุงงงง" หรือหัวเราะใส่เราแล้วบอกว่า หราาาา

อีกอย่าง เราเตี้ยมาก สูงแค่ 158 และ ผิวสองสี

เลยยิ่งทำให้ทุกคนส่ายหน้ากับความฝันลมๆ แล้งๆ ของเราหนักขึ้นไปอีก

และกว่าเราจะประสบความสำเร็จกับเวทีแรก ไม่มีรางวัลไหนได้มาง่ายหรอกค่ะ

เราสมัครประกวดเป็นสิบเวที แต่ละเวที แค่เราแนะนำตัว กรรมการก็ก้มหน้ากดโทรศัพท์แล้ว

ถามว่าถึงตรงนี้ มันคงไม่มากไปใช่มั้ยคะ ที่เราจะยอมรับว่า สังคมมองว่าเรา "ห่วย"

แต่เราถอยไม่ได้ค่ะ เพราะถ้ายอมแพ้ คนที่เคยหัวเราะเรา จะยิ่งหัวเราะหนักขึ้นไปอีก

ผู้ชาย ที่บอกเลิกเรา เพราะหน้าเราเป็นสิว คงจะสะใจ ที่ผู้หญิงที่มันสะบัดทิ้ง ก็ยังเป็นยัยขี้แพ้

เราก็กลับมามองว่า เราสวยไม่พอหรอ ต้องมีดั้ง ผิวขาวโอโม่ ถึงจะได้รับเลือกหรอ

แต่ข่าวศัลยกรรมทำพิษ ก็ทำเอาเราไม่กล้าเสี่ยง

อีกอย่าง เราเคยอยากขาวค่ะ เรากลัวมีด กลัวเข็ม แต่เราไม่กลัวยา !! เราเลยจัดสารพัดกลูต้าเข้าร่างกาย



แต่นั่น !! ก็ทำเราเกือบตายค่ะ เพราะมันไม่ใช่กลูต้า แต่เป็นยาห้ามเลือด เราทานเยอะมากต่อวัน

ขาวสมใจค่ะ ขาวเหลืองเป็นดีซ่าน แต่ประจำเดือนขาด ปวดท้องมาก ประจำเดือนมาเป็นลิ่มเลือดสีดำ

เราก็กลับมามองตัวเองค่ะ ว่าถ้าเรายังเป็นเรา มันจะไม่มีสิทธิ์ทำตามฝันเลยหรอ???

เริ่มต้นใหม่ ซื้อแผ่นซีดีมาเต้นแอโรบิค ให้หุ่นดี สิว ครีมไหนดี ครีมไหนดัง จัดมาเลยค่ะ ช่วงนี้เริ่มใช้ครีมปรอท หน้าใสเงา

เราเริ่มศึกษาว่าแต่ละเวทีการประกวด คนที่เข้าเพราะอะไร ตกรอบเพราะอะไร และคอนเซปแต่ละเวที อยากได้อะไร

ประสบการณ์ สำคัญ ถ้ามีผลงานมาก่อนบ้างเล็กน้อย จะผ่านเข้ารอบง่ายขึ้น

แล้วทำไงจะมีผลงาน ? ไปSE-ED เลยค่ะ สาขาใกล้บ้าน เปิดนิตยสารที่ไม่ดังมาก นางแบบน้อย และส่งใบสมัครเป็นนางแบบทางบ้านไป

ขอบคุณหนังสือ SWEETY พี่ผึ้ง (ปัจจุบันย้ายไปอยู่Dek-D) ได้ให้โอกาสเราเป็นเล่มแรก จากทั้งหมดเกือบ20 สำนักพิมพ์

ให้เราได้ถ่ายแบบ และด้วยความที่หนังสือยังใหม่มาก นางแบบยังน้อย เราเลยได้ถ่ายลงอีกหลายเล่ม





และจากตรงนี้ เราก็เริ่มรับงานพริตตี้บ้าง เพื่อนที่เคยไม่คุยกับเรา เห็นเราเป็นตัวประหลาด เพราะเป็นสิว

ก็เริ่มกลับมาชวนเราคุย ทำงานเป็นไง ไปถ่ายแบบได้ไง อืมมม.. ดีอออกกกกกกก สังคมเมืองกรุงเป็นงี้นี่เอง!!

พอเริ่มมีผลงาน เราก็ตั้งใจแน่วแน่ กับหนังสือที่เราอ่านมาตั้งแต่เด็ก และฝันจะถ่ายลงให้ได้ นั่นก็คือ Scawaii

ซึ่งปี 2010 เราไปออดิชั่น เรายังพูดแนะนำตัวไม่จบ กรรมการ นั่งก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อหน้าเรา T_T

พอปี 2011 คอนเซปต์ปีนี้ คือ SUMMER ถ้าเราตามธีม แต่ถ้าไม่สวยพอ แน่นอนว่าเราจะไร้ตัวตน

ปีนั้น เราเลยไปสมัครแบบ สาวร็อค ฮาราจุกุ เลยค่าาาา แต่งตาดำ ทาปากแดงไปเลย

เวลาแนะนำตัวเราก็จะพูดดังๆเอาแบบให้ได้ยินไปแปดกิโล

(เราจะทำ how to แต่งหน้าให้ดูในกระทู้ต่อๆไปนะคะ ถ้าคุณไม่อยากขึ้นเขียง คุณก็ต้องแต่งหน้าเก่งค่ะ จริงๆนะ

แล้วผู้หญิงทุกคนจะสวยได้)



และมันได้ผลจริงๆค่ะ เราผ่านเข้ารอบ 50 คนสุดท้าย และที่เกินคาดหมาย คือ 15 คนสุดท้าย



ได้เซ็นสัญญาเป็น Scawaii Model 2011





ถามว่าประสบความสำเร็จรึยัง ยังค่ะ !! แรงกดดัน แรงดูถูกเรายังมีต่อจากนี้

สาระสำคัญ เราไม่ได้จะโชว์ว่าเราสวย หรือเรา ขี้เหร่

แต่เราเป็นคนนึง เคยโดนเหยียบย่ำความรู้สึก กับคำที่เราขี้เหร่ เราหน้าผี เราควรไปตายแล้วเกิดใหม่

แต่เราอยากก้าวผ่านคำดูถูกนั้น ด้วยกำลังใจทั้งหมดของตัวเอง ที่สร้างขึ้นด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติ

และการไม่พึ่งมีดหมอ เราอยากมาแชร์ให้กำลังใจ สำหรับคนที่บอกว่า ต้องขึ้นเขียงถึงจะสวย

จริงๆ เวลาเราล้างหน้า เราก็เป็นผู้หญิงบ้านๆ แต่ด้วยการแต่งหน้า เลยทำให้เราเป็นนางแบบได้

และเราเชื่อว่าคุณไม่ได้ขี้เหร่มากไปกว่าเรา แต่แค่คุณแต่งหน้าไม่เป็น หรือยอมแพ้ที่จะดูแลตัวเอง

เราจับเพื่อนที่คนบอกว่าหน้าแย่ มาแต่งหน้า ก็เห็นสวยกันทั้งนั้น หลักจริงๆของกระทู้นี้คือตรงนี้

ส่วนใครจะมองอย่างอื่น เราก็น้อบรับค่ะ

ยาวมากแล้ว ต่อไป จากนางแบบเด็กกะโปโล จะก้าวสู่นางแบบSEXY ทั้งๆที่นมแค่ 30

แต่ก็ยังยืนยันตามเดิมว่า "ไม่กล้าศัลยกรรม" ได้ยังไง

เรากำลังเขียนนะ อย่าพึ่งมาม่า กว่าจะรวบรวมเสร็จ แค่นี้ก็เขียนตั้งแต่เที่ยง

เห้ออ .. บางทีคนบางคนในพันทิพก็น่ากลัวจริงๆ สำหรับคนที่น่ารักๆกับเรา ก็ขอบคุณกำลังใจมากๆน้าค้า

มีต่อที่คห.41 และ 113 ค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่