เรื่องราวดีๆท่ามกลางเหตุการณ์จับตัวประกัน Sydney Cafe Siege

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิพย์ วันนี้มีเรื่องราวดีๆ อยากจะมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านและรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ๆนึงซึ่งกำลังเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ค่ะ

หลายคนอาจจะได้รับรู้ข่าวดังข่าวนึงที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Sydney Cafe Siege หรือ ข่าวการจับตัวประกันในร้านลินด์ต ช็อกโกเลต คาเฟ่ ย่านมาร์ติน เพลซ ของนครซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรเลีย ซึ่งจะขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆของเหตุการณ์นี้ให้ฟังนะคะ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีคนร้ายพร้อมอาวุธปืนบุกเข้าไปในร้านลินด์ต ช็อกโกแลต คาเฟ่ และจับพนักงานรวมถึงลูกค้าภายในร้านไว้เป็นตัวประกัน ซึ่งตอนนนี้ทางหน่วยงานและตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ได้ออกมาระบุแล้วว่า คนร้ายคือ นายมาน ฮารอน โมนิส (Man Haron Monis) ชาวอิหร่าน ตอนนี้ทางตำรวจได้คุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ แนะนำให้เข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ

http://www.bbc.com/news/live/world-australia-30475711
http://www.bbc.com/news/world-australia-30485355

เรื่องราวที่จะมาเล่าให้ฟังเกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์นี้ค่ะ ระหว่างเกิดเหตุ นายมาน ฮารอนได้บังคับให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันชูธงสีดำที่มีข้อความสีขาวเขียนอยู่ ซึ่งข้อความบนธงนั่นเป็นตัวหนังสือของศาสนาอิสลามซึ่งแปลว่า “There is no god but God, Muhammad is the messenger of God.” "ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนนอกเหนือไปจากพระเจ้าของเราและมูฮัมหมัดก็คือผู้ส่งสารของพระเจ้า"

เมื่อมีข่าวเผยแพร่ออกไปทำให้ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียกังวลและกลัวว่า คนในประเทศจะเข้าใจผิด โกรธและอาจจะทำร้ายพวกเขาได้ค่ะ เพราะจากที่เราเคยได้เห็น ได้รับรู้กันมาก็คือ คนบางส่วนเกิดความไม่พอใจต่อศาสนาอิสลามเนื่องด้วยชอบมีกลุ่มก่อการร้ายต่างๆที่อ้างคำสอนของศาสนาอิสลาม บางทีก็ไม่พอใจถึงขึ้นทำร้ายคนมุสลิมที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

เรื่องราวดีๆที่อยากจะเล่าให้ฟังก็คือเรื่องราวของ  hashtag #illridewithyou ในโลกทวิตเตอร์ค่ะ ซึ่ง hashtag นี้ถูกตั้งขึ้นมาโดยชาวออสเตรเลีย โดยคนที่เล่นทวิตเตอร์จะโพสข้อความประมาณว่า ถ้าใครที่กังวลกับการนั่งpublic transportation เช่น รถไฟ รถโดยสารประจำทางต่างๆคนเดียว เพราะกลัวจะโดนทำร้าย ให้ติดต่อมาหาคนที่ติดhashtagนี้ได้ โดยคนที่โพสส่วนใหญ่จะบอกสถานที่,แผนการเดินทางและเวลาที่ตนเองใช้บริการ public transportation ไว้ในโพสเพื่อให้ชาวมุสลิมที่ต้องการความช่วยเหลือในเวลาและพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ติดต่อไปหาค่ะ








(ขอบคุณข้อมูลที่ถูกต้องจากคุณ Spatula Spoon and Saturaday ค่ะ) รูปสุดท้ายนี้ นักข่าวคนนี้โพสข้อความของหญิงสาวคนนึง แปลได้ประมาณว่า ผู้หญิงที่ฉันคิดว่าเป็นชาวมุสลิมที่นั่งข้างๆฉันค่อยๆเอาฮิญาบออก ตอนเธอเดินออกไปที่สถานี ฉันวิ่งตามเธอไปแล้วบอกเธอว่า คุณเอาใส่เหมือนเดิมก็ได้ เดี๊ยวฉันเดินไปเป็นเพื่อนคุณเอง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมา กอดฉันประมาณหนึ่งนาทีแล้วก็เดินไป



ชาวออสเตรเลียทำ hashtag นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจ ซัพพอร์ตชาวมุสลิมว่า ไม่ต้องกลัวนะ พวกเราเข้าใจว่าพวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิดและเราพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณ ซึ่งตอนนี้มีโพสทั้งหมดถึง 150,000 โพสภายในเวลาแค่ 4 ชั่วโมงค่ะ

อย่างจะฝากเรื่องนี้ไว้ค่ะ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่า บางทีท่ามกลางเหตุการณ์ร้ายๆ ถ้าเราใช้เหตุผล มีสติ ไม่ฟังสื่อแบบผ่านแล้วตีความไปเอง ไม่ใช้อารมณ์ มีความมีน้ำใจ ความเป็นห่วงเป็นใยให้กับผู้คนรอบข้าง เพื่อนร่วมโลกของเรา ไม่ว่าจะชาติไหน ศาสนาไหน คิดถึงใจเขาใจเรา เราก็จะเห็นและรับรู้ได้ว่า โลกเราก็มีมุมดีๆที่ทำให้รู้สึกอยากอยู่อาศัยบนโลกใบนี้ไปนานๆค่ะ

ฝากไว้ด้วยนะคะ เป็นเรื่องที่อาจจะทำให้ใครหลายๆคนยิ้มและนึกอบอุ่นในใจท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของสังคมในปัจจุบัญค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน ข้อมูลผิดเพี้ยนยังไง ขอโทษไว้ ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ ยิ้ม

credit pictures and information: BBC News / The Guardian / micdotcom.tumblr.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่