Backpacking in Sangkhlaburi
วันนี้พวกเราจะเดินทางไปสังขละบุรี ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจ.กาญจนบุรีเราไปกันทั้งหมด6คน การเดินทางของเราเริ่มต้นที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ออกเดินทางตั้งแต่6โมงเช้าโดยอันดับแรก ขึ้นBTSที่อนุเสาวรีย์ราคา42บาท/คน จากนั้นไปลงที่สถานีธนบุรีแล้วก็นั่งแทกซี่อีกประมาณ15นาทีก็ถึงสถานีรถไฟธนบุรีเวลา7โมงเช้า
พวกเราก็เดินตลาดแถวสถานีรถไฟ
พอกินเสร็จพวกเราก็ถ่ายรูปรอขึ้นรถไฟ
และนี่คือตั๋วรถไฟฟรีของพวกเรา…..แท่มแทมแท๊มมม
พอถึงเวลา7.50น.ขบวนรถไฟ257(ธนบุรี-น้ำตก)ก็มาถึง
ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดผู้คนต่างหลั่งไหลกันไปเที่ยวและช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่พึ่งซ่อมสะพานมอญเสร็จพอดี
ทำให้บนขบวนรถไฟเต็มไปด้วยผู้คนที่มีจุดหมายเดียวกันคือพักผ่อนในวันหยุดยาว…
การเดินทางของเราเริ่มขึ้นแล้ว เฮ้!!! Let’s Go!
ระหว่างการเดินทางจะได้สัมผัสกับบรรยากาศป่าเขาธรรมชาติที่สวยงาม
อากาศก็ดี๊ดี
ตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์ที่รับรองว่าคุณไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้จากตัวเมืองเท่าไหร่
แล้วคุณจะได้รู้ว่าเมืองไทยของเรานี่ Amazing จริงๆ
ซึ่งขบวนรถไฟก็จะผ่านสถานีต่างๆ
สถานีธนบุรี
นครชัยศรี
นครปฐม
พระราชวังสนามจันทร์
ชุมทางหนองปลาดุก
กาญจนบุรี
สะพานแควใหญ่
ถ้ำกระแซ
ตรงสถานีถ้ำกระแซก็จะมีสวนไทรโยค
พอผ่านถ้ำกระแซไปก็จะเป็นจุดที่ตื่นเต้นที่สุดนั่นก็คือ ทางรถไฟสายมรณะ เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยมากเห็นวิวแม่น้ำ(มองลงไปนี่อย่างเสียว!!!)
ถึงจะเสียวแต่ก็สวย.....
เกาะมหามงคล
และสุดท้ายที่สถานีน้ำตก
ถ่ายซะหน่อยๆ
หลังจากนั่งรถไฟมาถึงสถานีน้ำตกเวลาบ่ายสอง(ใช้เวลา6ชม.!!!!)
จากนั้นก็ หาไรกินกันก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังสังขละบุรีที่รักของเรา555
ร้านอาหารแถวสถานีน้ำตก
จากสถานีจะมีรถสองแถวไปยัง บขส.คนละ20บาทและนั่งรถบัสต่อไปยังอ.ทองผาภูมิคนล160บาทเป็นเวลา3ชม. ซึ่งระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจบัตรประชาชน(อย่าลืมนะสำคัญมาก)
เมื่อถึงจุดหมายก็เวลาหกโมงเย็นพอดี
รถบัสที่ไปอ.ทองผาภูมิ
วิวระหว่างทางของการนั่งรถบัส
หลังจากนั้นชีวิตก็ไมได้เรียบง่ายอย่างที่คิดคือห้องพักเต็มหมด พวกเราก็ต้องช่วยกันเดินหาที่พัก เป็นการเดินมาราธอนมากกก หาอยู่หลายที่ก็ไม่ได้สักทีดันไปเจอที่หนึ่งตอนที่โทรไปมีแพว่างอยู่ ตอนนั้นพวกเราก็คิดว่าจะเป็นห้องที่สะดวกสบาย มีระเบียงชมวิวริมน้ำสบายใจเฉิบ ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ 1500สำหรับ6คนมันก็โอน้ะ บรรยากาศคงฟินน่าดู พวกเราก็เดินกันไปกันเกือบๆ2กิโลได้ ก็ถึงสะพานไม้ตอนนั้นเวลาประมาณทุ่มกว่าๆ ก็มีเรือมารับเขาบอกให้พวกเราเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ที่ไม่รู้เลยว่าถ้าเหยียบไปโดนตรงที่ผุจะเป็นไง ทันใดนั้น…พรวดดโคร่มมม!เพื่อนเราเองคร้า เหยียบไปโดนตรงที่ผุพอดี….กรรม!!! งานเข้าแล้วไงเปียกฮ้ะ555
ขำเพื่อนกันยกใหญ่เลย พอเดินไปขึ้นเรือ เขาก็พาเราไปที่พักเท่านั้นแหละโอ้ววว……..ม่ายย……….เจงง ช่ายยม่ายยยยย ฝันสลายแพล้งง!!!
ห้องนอนเล็กไม่เท่าไหร่คือเขายังไม่ติดไฟในห้องให้แถมไม่มีแม้แต่พัดลมด้วยซ้ำ.... ต้องอาบน้ำริมแม่น้ำด้วยการกระโดดอาบมันตรงนี้แหละ พี่เขาบอกมา (WOW)จริงๆพวกเราก็ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องที่นอนมากนะแต่ปัญหาคือกลัวไม่ปลอดภัยเพราะต้องมีเพื่อนบางคนออกมานอนข้างนอก(ห้องเล็กเฟ่อร์) เผื่อมีคนกลิ้งตกน้ำ?(โอ้วววImagine เก่งจริงๆ) ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจหาที่ใหม่ บังเอิญมาเจอ “กรีนโฮม อิน เดอะเมาท์เท็น” ซึ่งมีห้องว่างพอดี ที่พักก็ดีนะโอเคเลยแหละห้องพัดลม2ห้อง(แค่ลมธรรมดาก็หนาวอยู่แล้วววว)คืนละ1500บาท
เราถึงที่พักก็3ทุ่มกว่าๆ ทุกคนสภาพคือเหน็ดเหนื่อยหมดแรงกันเลยที่เดียว รวมๆวันนี้การเดินมาราธอนของพวกเราไปกลับๆนี่เกือบๆ10กิโลได้เลยมั้งเฮ้ออ(ก็เวอร์ไปป่ะ555) พอหาที่พักได้เราก็ไปหาของกินที่ตลาด ซึ่งนั่นก็คือ…หมูจุ่มไม้ละ1บาท…..(อยากจะบอกว่าฟินจุงเบยยยยแนะนำว่านี่คือทีเด็ด)
นอกจากหมูจุ่มจะมียำพม่าด้วย
หลังจากหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนทุกคนจึงสลบสะไหลไปตามๆกัน….หึหึZzz
[CR] ปิดเทอมนี้ไปเที่ยวสังขละบุรีกันเถอะ....
หลังจากหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนทุกคนจึงสลบสะไหลไปตามๆกัน….หึหึZzz
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น