จขกท.ก็เป็นเหมือนแฟนๆเพชรพระอุมาหลายๆท่าน ที่เฝ้ารออยากเห็นนวนิยายผจญภันเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์หรือละครสักเรื่อง แม้ว่าในตอนนี้ มีข่าวว่าคนนั้นคนนี ค่ายนั้นค่ายนี้จะสร้าง แต่ก็ยังไม่เห็นการเริ่มสร้างอย่างจริงจัง
เข้าเรื่องของวันนี้ เวลาที่ละครเรื่องไหนดังมากๆ เราก็มักจะเห็นคลิปตัดต่อฉากในละคร กับเพลงต่างๆของแฟนละครเรื่องนั้นๆ นำไปแชร์ในยูทูป
เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าหากว่าออกมาเป็นภาพยนตรหรือละคร แล้วผลตอบรับดีมากๆ ก็จะมีคลิปในลักษณะนี้เช่นกัน คอยดู
จขกท.ก็เป็นคนหนึ่งที่รอตัดต่อเหมือนกัน แต่เนื่องจากหนังยังไม่ได้สร้าง เลยอยากมโนฉากต่างประกอบกับเพลงต่างๆ ให้ดูกันก่อน เผื่อว่าจะมีคนมโนหรือคิดตรงกัน ดังนี้
หนึ่งเดียวในดวงใจ
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่องอังกอร์ ภาคสอง ออกอากาศทางช่องเจ็ดในปี 2548 ร้องโดยกัญจน์ ภักดีวิจิตร (และเชื่อว่าหากช่องเจ็ดสร้างจริงๆ เขาอาจได้รับบทเป็นตัวใดตัวหนึ่งแน่ๆ และอาจร้องเพลงประกอบด้วย)
โดยส่วนตัว จขกท. ว่า เพลงนี้เข้ากับหลายฉากมาก ทั้งฉากพรานใหญ่กับคุณหญิง กับไชยันต์และมาเรีย แต่คู่แรกจะได้ดีที่สุด
หากตัดต่อ ฉากที่อยากเอามาใส่ เช่น ฉากพบกันครั้งแรก ฉากรวนระหว่างสองคนนี้ ฉากที่รพินทร์จับไข้ และติดอยู่กับดาริณตอนสู้กับสางเขียว ฯลฯ
"เธอเป็นนางฟ้า ที่จุติมาหรือไร
งดงามโดนใจ เช่นที่เคยใฝ่ฝันหา
แค่เพียงได้พบเธอและได้สบสายตา
ชัดเจนขึ้นมาว่าคนนี้ล่ะใช่เลย
แต่อาจเสียใจ เมื่อเห็นท่าทีเมินเฉย
เธอคงยังไม่คุ้นเคย แต่หวังว่าเธอรู้ใจ สักวัน
ขอ ให้เธอรู้ (ขอให้เธอรู้)
ว่ารักข้างในหัวใจ
ฉันมันคงยิ่งใหญ่ จะเทิดทูนเธอไว้
ให้เป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ นิรันดร์
เจอะเธอทีไร ฉันหวั่นไหวไปทั้งตัว
กล้าๆกลัวๆ ใจระรัวจนสะท้าน
แค่เพียงรอยยิ้มและแววตาเธอคู่นั้น
เมื่อเราใกล้กัน ทำให้ฉันใจวุ่นวาย
อยากบอก รักเธอ ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร
กลัวเธอไม่ได้มีใจ ปล่อยฉัน ให้หลงรักเธอ ข้างเดียว
ขอ ให้เธอรู้ (ขอให้เธอรู้)
ว่ารักข้างในหัวใจ
ฉันมันคงยิ่งใหญ่ จะเทิดทูนเธอไว้
ให้เป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ นิรันดร์
แม้ เพียงเจอะเจอ จะรู้ใจเธอได้ไง
ว่าเธอจะเลือกใคร จะรักเราบ้างไหม
ฉันเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ...เธอหรือเปล่า..."
สองดินแดน
แปลจากเพลง Two Worlds เป็นเพลงเปิดเรื่องของภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องทาร์ซาน ในปี 2000
จขกท.ว่ามันเข้ากับฉากในช่วงแรกๆระหว่างที่คณะนายจ้างจากเมืองหลวง เริ่มทำความคุ้นเคยกับพรานพื้นเมือง และชีวิตในป่า
"ความจริงจังนั้นเป็นพลังคอยยึดเหนี่ยว....รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้
ดั่งแดนสวรรค์ไร้คนแผ้วพาน
ที่เปี่ยมด้วยรักอันชื่นช่ำ
ร่มเย็นเหมือนฝันอยู่กันนานมา
พากันเดินย่ำไปในทางบนผืนทราย...รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้
ที่ใต้ร่มไม้ใบบังโอบล้อม
มีแต่รักคอยกล่อมหัวใจ
ร่มเย็นเหมือนฝันอยู่กันนานมา
เทกำลังกาย...เหน็ดเหนื่อยทนเอา...แรงใจจากเขาผู้เฝ้ารอ
กำแพงกำบัง...อยู่อบอุ่นใจ
แก่ชีวิตที่เริ่มใหม่ แต่เหล่าภัยแฝงกายรอบตัว
...เจ็บปวดรวดร้าวเกินจะเอ่ยคำ
สุดเคยความช้ำน้ำตาของแม่
ไม่มีเหลือฝัน...แต่ใจมุ่งหวัง
ฟังไปเหมือนมีอะไรคอยร้องกู่...รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้"
รักคือแสงส่องทาง
แปลจากเพลง Love will find a way ประกอบเรื่อง The Lion King ภาคสอง
จขกท.เคยคิดจะเอาไปประกอบฉากระหว่างอิสร่อยกับคุณชายรัชชานนท์ด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่เก่งคอมมากนัก อดเลย
หวังว่าเรื่องเพชรพระอุมานี้จะได้ทำ
" (หญิง)อยู่ในโลกที่ฝัน มันช่างแสนสดใส
ไม่มีทางที่ใจ ต้องทนอ้างว้างสักครา
เราทั้งสองช่วยกัน สร้างและสรรค์ไขว่คว้า
ตัวของฉันมันคงจะธรรมดา แต่ในอุราก็ยังคงรู้
ว่ารัก เป็นดังแสงส่องทาง
ไม่มีเงาอ้างว้าง หัวใจ ถ้าหากมีเธอชิดใกล้กัน
ดั่งคืน กลายเป็นแสงแห่งวัน
จะเป็นจริงดั่งฝัน สองดวงใจรวมกัน รักนั้นช่วยนำทาง
(ชาย) ความหวั่นไหวที่มี ในบัดนี้แน่ใจ
ว่าความรักสูงส่ง ยิ่งกว่าสิ่งไหนในหล้า
ตาเธอเผยโลกงาม ที่เราคอยตามหา
(รวม)หากว่าเขาเคยเป็นอย่างเราสักครา คงชื่นอุราและคงได้รู้
ว่ารัก เป็นดั่งแสงส่องทาง
ไม่มีเงาอ้างว้าง หัวใจ ถ้าหากมีเธอชิดใกล้กัน
ดั่งคืน กลายเป็นแสงแห่งวัน
จะเป็นจริงดั่งฝัน สองดวงใจรวมกัน รักนั้นช่วยนำทาง
ความ รักเราคงช่วยนำทาง..."
จะหาคนอย่างเธอได้ที่ไหน (เชื่อว่าหลายคนร้องได้ และยังใหม่ เลยไม่พิมพ์เนื้อ)
จขกท.ว่ามันเหมือนในใจของรพินทร์นะ จากเดิมที่เขาไม่คิดว่านายหญิงของเขาจะมีความสามารถขนาดนี้ และหัวใจยกให้เธอขนาดนี้ ก็คงยากที่จะรู้ว่าจะหาคนอย่างคุณหญิงได้ที่ไหนอีก
ทุกสิ่งคือรัก
เพลงประกอบละคร ขุมทรัพย์อมตะนคร ออกอากาศทางช่องเจ็ดในปี 2544 จขกท.ว่าเข้ากับหลายคู่ ทั้งรพินทร์ ดาริณ ไชยันต์ มาเรีย รวมทั้งเขิดวุธและเบลในภาคสมบูรณ์
"สิ่งอื่นใด มากมายที่ได้มา
อาจไม่เหลือคุณค่า ถ้าฉันไม่เจอ คำว่ารัก
และวันนี้ ฉันเองสุขใจนัก
ได้เรียนรู้ตระหนัก กับความรักล้ำค่า
เมื่อตาสบตา เกิดความหมายยิ่งใหญ่
เพิ่งรู้จริงๆ ว่ารักเป็นไง เมื่อฉันได้พบเธอ
ทุกสิ่ง แท้จริงคือรัก
รู้จัก พบรักในเธอ
รักมั่น รักเธอเสมอ
ล้ำเลิศเลอหาใดเปรียบเทียบเคียงค่า คู่ควร..."
เพลงที่ยกไปนี้ เป็นเพลงที่น่าใช้แบบในช่วงภาคแรก ได้อย่างสบายๆ
เพลงต่อไป จะนำมาประกอบก็ได้ แต่อาจไม่สมบูรณ์นัก
ต้องรอให้ภาคสมบูรณ์ออกก่อน และนำฉากในภาคสมบูรณ์มาประกอบ จึงจะครบถ้วน
ซึ่งก็คงอีกนาน และไม่มีวันได้เห็นอย่างน้อยในสิบปีนี้ เพราะภาคแรกยังไม่ได้สร้าง และภาคสองก็อาจสร้างยากกว่า อย่างไรก็น่าลองจิ้นดู
(ฉากที่นำมาเพิ่ม คือฉากอดีตชาติของดาริณและรพินทร์ ในชื่อจิตรางคณางค์และอัคนีรุทท์ ถ้าสร้างจริงๆ ก็จะมีฉากประกอบเสริมตามที่แงซายบอกกว่าทั้งคู่พลัดพรากกันมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว (สร้างเองใหม่)เช่น ฉากรพินทร์เป็นทหาร ตายในสมัยอยุธยา และสมัยร.5 ช่วง ร.ศ.112 ซึ่งอาจนำมาประกอบได้ด้วย)
รักที่หลุดลอย
เพลงประกอบละคร เจ้ากรรมนายเวร ออกอากาศทางช่องสามในปี 2543 มันจะเข้ามากๆ โดยเฉพาะช่วงที่ดารฺณกลับเข้าป่าไปตามหารพินทร์
"ตามหา รักที่หลุดลอย คอย ติดตามแค่เพียงเธอ
นานสักเท่าใด ยังหวังได้เจอ เพราะรักเธอเท่านั้น
ชีวิต ที่มันขาดเธอ คล้าย ดังคนขาดวิญญาณ
ความรักเยื่อใย ผูกพันธนาการ ให้ฉันนั้นเป็น ของเธอคนเดียว
อยากพบเธอเหลือเกิน เธออยู่ที่ไหน
สุดฟ้าจะแสนไกล จะไปหาเธอ
ดิ่งลึกในทะเล สุดแดนแคว้นไหน
ตามรอยความรักไป ตามให้เจอหัวใจที่เฝ้ารอ.. ตามหา รักที่หลุดลอย...
คือรักไม่สิ้นสุด
เพลงประกอบละคร อมฤตาลัย ออกอากาศทางช่องสามในปี 2549 เข้ามากในฉากอัคนีรุทธ์และจิตรางคณางค์ สลับกับชาติปัจจุบัน
"ฉันยังจำแววตานั้น ยังมีเธอในความฝัน
ยัวจำวันดีๆ ที่ได้ผูกพันสองเรา
ฉันยังจมในความรัก ยังรอเธอในความเหงา
ยังมีเธอเป็นเงา คิดถึงเธอทุกวัน
ก็รู้ ว่าใจ ไม่ว่านานท่าไหร่
จะขอมีเพียงรักแท้ มาให้เธอ
ไม่ อาจ หยุด รัก ได้เลย ไม่อาจฝืนใจที่มี
เพราะทุกนาทีฉันมีแต่เธอคนนี้ เต็มหัวใจ
นี่คือความรัก ให้เธอ คือความรัก ที่ไม่มีสิ้นสุด
แม้ฟ้าจะไม่คงอยู่ ฉันนี้จะยังคงรัก แต่เธอ...
ฉันรักเธอรักเธอ แม้โลกนี้มืดลง
ฉันก็ยังมั่นคง รักเธอทุกลมหายใจเข้าออก
ฉันรักเธอรักเธอ รักไม่เคยมืดลง
ใจฉันยังซื่อตรง ให้เธอทั้งใจแล้ว...
ไม่ อาจ หยุด รัก ได้เลย ไม่อาจฝืนใจที่มี
เพราะทุกนาทีฉันมีแต่เธอคนนี้ เต็มหัวใจ
นี่คือความรัก ให้เธอ คือความรัก ที่ไม่มีสิ้นสุด
แม้ฟ้าจะไม่คงอยู่ ฉันนี้จะยังคงรัก แต่เธอ..."
อสงไขย
มันจะเข้ามากๆ โดยเฉพาะช่วงที่ดารฺณกลับเข้าป่าไปตามหารพินทร์ ก่อนเริ่มเพลงจะเป็นภาพรพินทร์และดาริณมองเดือนเดียวกัน แต่คนละที่ แล้วคิดถึงกันและกัน
"ปล่อยความคิดถึง ปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงา พัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น
ส่งความคิดถึง ปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องฝืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา
หากเพลงคิดถึง ที่ปลิวไปในอากาศ
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ ล่องลอยเรื่อยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ...
ฝากเป็นเพลง ให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา...."
ประมาณนี้จ้า ใครลองจินตนาการฉากไหนเข้ากับเพลงไหนบ้างก็ลองมาแชร์กันดู
หนังยังไม่ทันสร้างเลย มโนฉากตัดต่อประกอบเพลงไปแล้ว (เพชรพระอุมา)
เข้าเรื่องของวันนี้ เวลาที่ละครเรื่องไหนดังมากๆ เราก็มักจะเห็นคลิปตัดต่อฉากในละคร กับเพลงต่างๆของแฟนละครเรื่องนั้นๆ นำไปแชร์ในยูทูป
เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าหากว่าออกมาเป็นภาพยนตรหรือละคร แล้วผลตอบรับดีมากๆ ก็จะมีคลิปในลักษณะนี้เช่นกัน คอยดู
จขกท.ก็เป็นคนหนึ่งที่รอตัดต่อเหมือนกัน แต่เนื่องจากหนังยังไม่ได้สร้าง เลยอยากมโนฉากต่างประกอบกับเพลงต่างๆ ให้ดูกันก่อน เผื่อว่าจะมีคนมโนหรือคิดตรงกัน ดังนี้
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่องอังกอร์ ภาคสอง ออกอากาศทางช่องเจ็ดในปี 2548 ร้องโดยกัญจน์ ภักดีวิจิตร (และเชื่อว่าหากช่องเจ็ดสร้างจริงๆ เขาอาจได้รับบทเป็นตัวใดตัวหนึ่งแน่ๆ และอาจร้องเพลงประกอบด้วย)
โดยส่วนตัว จขกท. ว่า เพลงนี้เข้ากับหลายฉากมาก ทั้งฉากพรานใหญ่กับคุณหญิง กับไชยันต์และมาเรีย แต่คู่แรกจะได้ดีที่สุด
หากตัดต่อ ฉากที่อยากเอามาใส่ เช่น ฉากพบกันครั้งแรก ฉากรวนระหว่างสองคนนี้ ฉากที่รพินทร์จับไข้ และติดอยู่กับดาริณตอนสู้กับสางเขียว ฯลฯ
งดงามโดนใจ เช่นที่เคยใฝ่ฝันหา
แค่เพียงได้พบเธอและได้สบสายตา
ชัดเจนขึ้นมาว่าคนนี้ล่ะใช่เลย
แต่อาจเสียใจ เมื่อเห็นท่าทีเมินเฉย
เธอคงยังไม่คุ้นเคย แต่หวังว่าเธอรู้ใจ สักวัน
ขอ ให้เธอรู้ (ขอให้เธอรู้)
ว่ารักข้างในหัวใจ
ฉันมันคงยิ่งใหญ่ จะเทิดทูนเธอไว้
ให้เป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ นิรันดร์
เจอะเธอทีไร ฉันหวั่นไหวไปทั้งตัว
กล้าๆกลัวๆ ใจระรัวจนสะท้าน
แค่เพียงรอยยิ้มและแววตาเธอคู่นั้น
เมื่อเราใกล้กัน ทำให้ฉันใจวุ่นวาย
อยากบอก รักเธอ ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร
กลัวเธอไม่ได้มีใจ ปล่อยฉัน ให้หลงรักเธอ ข้างเดียว
ขอ ให้เธอรู้ (ขอให้เธอรู้)
ว่ารักข้างในหัวใจ
ฉันมันคงยิ่งใหญ่ จะเทิดทูนเธอไว้
ให้เป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ นิรันดร์
แม้ เพียงเจอะเจอ จะรู้ใจเธอได้ไง
ว่าเธอจะเลือกใคร จะรักเราบ้างไหม
ฉันเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ...เธอหรือเปล่า..."
แปลจากเพลง Two Worlds เป็นเพลงเปิดเรื่องของภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องทาร์ซาน ในปี 2000
จขกท.ว่ามันเข้ากับฉากในช่วงแรกๆระหว่างที่คณะนายจ้างจากเมืองหลวง เริ่มทำความคุ้นเคยกับพรานพื้นเมือง และชีวิตในป่า
"ความจริงจังนั้นเป็นพลังคอยยึดเหนี่ยว....รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้
ดั่งแดนสวรรค์ไร้คนแผ้วพาน
ที่เปี่ยมด้วยรักอันชื่นช่ำ
ร่มเย็นเหมือนฝันอยู่กันนานมา
พากันเดินย่ำไปในทางบนผืนทราย...รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้
ที่ใต้ร่มไม้ใบบังโอบล้อม
มีแต่รักคอยกล่อมหัวใจ
ร่มเย็นเหมือนฝันอยู่กันนานมา
เทกำลังกาย...เหน็ดเหนื่อยทนเอา...แรงใจจากเขาผู้เฝ้ารอ
กำแพงกำบัง...อยู่อบอุ่นใจ
แก่ชีวิตที่เริ่มใหม่ แต่เหล่าภัยแฝงกายรอบตัว
...เจ็บปวดรวดร้าวเกินจะเอ่ยคำ
สุดเคยความช้ำน้ำตาของแม่
ไม่มีเหลือฝัน...แต่ใจมุ่งหวัง
ฟังไปเหมือนมีอะไรคอยร้องกู่...รวมใจจากสองดินแดน
เชื่อดวงใจ...ให้โชคนำพา...แก่ผองชีวาเหล่านี้"
แปลจากเพลง Love will find a way ประกอบเรื่อง The Lion King ภาคสอง
จขกท.เคยคิดจะเอาไปประกอบฉากระหว่างอิสร่อยกับคุณชายรัชชานนท์ด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่เก่งคอมมากนัก อดเลย
หวังว่าเรื่องเพชรพระอุมานี้จะได้ทำ
ไม่มีทางที่ใจ ต้องทนอ้างว้างสักครา
เราทั้งสองช่วยกัน สร้างและสรรค์ไขว่คว้า
ตัวของฉันมันคงจะธรรมดา แต่ในอุราก็ยังคงรู้
ว่ารัก เป็นดังแสงส่องทาง
ไม่มีเงาอ้างว้าง หัวใจ ถ้าหากมีเธอชิดใกล้กัน
ดั่งคืน กลายเป็นแสงแห่งวัน
จะเป็นจริงดั่งฝัน สองดวงใจรวมกัน รักนั้นช่วยนำทาง
(ชาย) ความหวั่นไหวที่มี ในบัดนี้แน่ใจ
ว่าความรักสูงส่ง ยิ่งกว่าสิ่งไหนในหล้า
ตาเธอเผยโลกงาม ที่เราคอยตามหา
(รวม)หากว่าเขาเคยเป็นอย่างเราสักครา คงชื่นอุราและคงได้รู้
ว่ารัก เป็นดั่งแสงส่องทาง
ไม่มีเงาอ้างว้าง หัวใจ ถ้าหากมีเธอชิดใกล้กัน
ดั่งคืน กลายเป็นแสงแห่งวัน
จะเป็นจริงดั่งฝัน สองดวงใจรวมกัน รักนั้นช่วยนำทาง
ความ รักเราคงช่วยนำทาง..."
จขกท.ว่ามันเหมือนในใจของรพินทร์นะ จากเดิมที่เขาไม่คิดว่านายหญิงของเขาจะมีความสามารถขนาดนี้ และหัวใจยกให้เธอขนาดนี้ ก็คงยากที่จะรู้ว่าจะหาคนอย่างคุณหญิงได้ที่ไหนอีก
เพลงประกอบละคร ขุมทรัพย์อมตะนคร ออกอากาศทางช่องเจ็ดในปี 2544 จขกท.ว่าเข้ากับหลายคู่ ทั้งรพินทร์ ดาริณ ไชยันต์ มาเรีย รวมทั้งเขิดวุธและเบลในภาคสมบูรณ์
อาจไม่เหลือคุณค่า ถ้าฉันไม่เจอ คำว่ารัก
และวันนี้ ฉันเองสุขใจนัก
ได้เรียนรู้ตระหนัก กับความรักล้ำค่า
เมื่อตาสบตา เกิดความหมายยิ่งใหญ่
เพิ่งรู้จริงๆ ว่ารักเป็นไง เมื่อฉันได้พบเธอ
ทุกสิ่ง แท้จริงคือรัก
รู้จัก พบรักในเธอ
รักมั่น รักเธอเสมอ
ล้ำเลิศเลอหาใดเปรียบเทียบเคียงค่า คู่ควร..."
เพลงที่ยกไปนี้ เป็นเพลงที่น่าใช้แบบในช่วงภาคแรก ได้อย่างสบายๆ
เพลงต่อไป จะนำมาประกอบก็ได้ แต่อาจไม่สมบูรณ์นัก
ต้องรอให้ภาคสมบูรณ์ออกก่อน และนำฉากในภาคสมบูรณ์มาประกอบ จึงจะครบถ้วน
ซึ่งก็คงอีกนาน และไม่มีวันได้เห็นอย่างน้อยในสิบปีนี้ เพราะภาคแรกยังไม่ได้สร้าง และภาคสองก็อาจสร้างยากกว่า อย่างไรก็น่าลองจิ้นดู
(ฉากที่นำมาเพิ่ม คือฉากอดีตชาติของดาริณและรพินทร์ ในชื่อจิตรางคณางค์และอัคนีรุทท์ ถ้าสร้างจริงๆ ก็จะมีฉากประกอบเสริมตามที่แงซายบอกกว่าทั้งคู่พลัดพรากกันมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว (สร้างเองใหม่)เช่น ฉากรพินทร์เป็นทหาร ตายในสมัยอยุธยา และสมัยร.5 ช่วง ร.ศ.112 ซึ่งอาจนำมาประกอบได้ด้วย)
เพลงประกอบละคร เจ้ากรรมนายเวร ออกอากาศทางช่องสามในปี 2543 มันจะเข้ามากๆ โดยเฉพาะช่วงที่ดารฺณกลับเข้าป่าไปตามหารพินทร์
นานสักเท่าใด ยังหวังได้เจอ เพราะรักเธอเท่านั้น
ชีวิต ที่มันขาดเธอ คล้าย ดังคนขาดวิญญาณ
ความรักเยื่อใย ผูกพันธนาการ ให้ฉันนั้นเป็น ของเธอคนเดียว
อยากพบเธอเหลือเกิน เธออยู่ที่ไหน
สุดฟ้าจะแสนไกล จะไปหาเธอ
ดิ่งลึกในทะเล สุดแดนแคว้นไหน
ตามรอยความรักไป ตามให้เจอหัวใจที่เฝ้ารอ.. ตามหา รักที่หลุดลอย...
เพลงประกอบละคร อมฤตาลัย ออกอากาศทางช่องสามในปี 2549 เข้ามากในฉากอัคนีรุทธ์และจิตรางคณางค์ สลับกับชาติปัจจุบัน
ยัวจำวันดีๆ ที่ได้ผูกพันสองเรา
ฉันยังจมในความรัก ยังรอเธอในความเหงา
ยังมีเธอเป็นเงา คิดถึงเธอทุกวัน
ก็รู้ ว่าใจ ไม่ว่านานท่าไหร่
จะขอมีเพียงรักแท้ มาให้เธอ
ไม่ อาจ หยุด รัก ได้เลย ไม่อาจฝืนใจที่มี
เพราะทุกนาทีฉันมีแต่เธอคนนี้ เต็มหัวใจ
นี่คือความรัก ให้เธอ คือความรัก ที่ไม่มีสิ้นสุด
แม้ฟ้าจะไม่คงอยู่ ฉันนี้จะยังคงรัก แต่เธอ...
ฉันรักเธอรักเธอ แม้โลกนี้มืดลง
ฉันก็ยังมั่นคง รักเธอทุกลมหายใจเข้าออก
ฉันรักเธอรักเธอ รักไม่เคยมืดลง
ใจฉันยังซื่อตรง ให้เธอทั้งใจแล้ว...
ไม่ อาจ หยุด รัก ได้เลย ไม่อาจฝืนใจที่มี
เพราะทุกนาทีฉันมีแต่เธอคนนี้ เต็มหัวใจ
นี่คือความรัก ให้เธอ คือความรัก ที่ไม่มีสิ้นสุด
แม้ฟ้าจะไม่คงอยู่ ฉันนี้จะยังคงรัก แต่เธอ..."
มันจะเข้ามากๆ โดยเฉพาะช่วงที่ดารฺณกลับเข้าป่าไปตามหารพินทร์ ก่อนเริ่มเพลงจะเป็นภาพรพินทร์และดาริณมองเดือนเดียวกัน แต่คนละที่ แล้วคิดถึงกันและกัน
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงา พัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น
ส่งความคิดถึง ปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องฝืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา
หากเพลงคิดถึง ที่ปลิวไปในอากาศ
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ ล่องลอยเรื่อยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ...
ฝากเป็นเพลง ให้ลอยเล่นลมไป
ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ
ตราบนาน อสงไขยเวลา...."
ประมาณนี้จ้า ใครลองจินตนาการฉากไหนเข้ากับเพลงไหนบ้างก็ลองมาแชร์กันดู