เมื่ออดีตเมีย นำบัตรเครดิต ไปใช้

ขอความคิดเห็นของเพื่อนๆชาวพันทิปหน่อย ขอแทนตัวว่า “เหมียว” นะค่ะ เรื่องราวเป็นเรื่องของพี่ชาย(พี่หนึ่ง)กับอดีตพี่สะใภ้(ตุ๊ก)ค่ะ เหมียวขอเล่าตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่เขาพบรักกันเลยนะค่ะ หลังจากเรียนจบ ม.3 พี่หนึ่งก็ได้เดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อทำงาน พอปี38 ใกล้บ้านได้เปิดโรงเรียนขยายโอกาสถึงระดับ ม.6 ทำให้พี่หนึ่งกลับบ้านมาเพื่อเรียนต่อในระบบสามัญ ซึ่งขณะนั้นเหมียวเองก็เรียน ม.4 เหมือนกัน ทำให้พี่หนึ่งต้องมาเรียนชั้นเดียวกันกับเหมียว ทำให้ พี่หนึ่งได้เจอกับตุ๊กด้วย  และก็จีบกันถึงขั้นได้เสียกัน เมื่อพ่อแม่ฝ่ายหญิงรับรู้ ทำให้ผู้ใหญ่ต้องมาคุยกัน โดยให้ทั้งสองแยกกันอยู่และให้เลิกรากัน โดยทางฝ่ายหญิงเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนแสนบาท หลังจากผู้ใหญ่ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตุ๊กเองไม่ยอมอยู่บ้านตัวเอง แต่กลับย้ายมาอยู่บ้านเหมียวแทน และมาอยู่กินเป็นผัวเมียที่นี้ พ่อแม่มาตามตุ๊กก็ไม่ยอมกลับ พ่อแม่เลยตัดขาดตุ๊กไปเลย ส่วนครอบครัวเราก็ส่งเสียเลี้ยงดูให้เรียนจนจบ ป.ตรีทั้งคู่ โดยพี่หนึ่งจบ วิศวกรรมอุตสาหะการ ตุ๊กจบ การบัญชี  
          หลังเรียนจบทั้งคู่ได้ไปทำงานที่ ชลบุรี เก็บเงิน จนปี 49 ฝ่ายบ้านผู้หญิงอยากให้ตุ๊กกลับบ้านไปแต่งงานให้เรียบร้อย พี่หนึ่งก็ตามใจตุ๊กไปตกแต่งเรียบร้อย โดยค่าสินสอนเป็นเงินเก็บทั้งคู่ แต่ค่าจัดการเป็นเงินที่บ้านเหมียวออกให้ หลังจากแต่งงานแล้ว ตุ๊กกับพี่หนึ่งก็สร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่ตุ๊ก ซื้อรถไถนา รถหกล้อ และได้ซื้อที่ไร่อีก 20 ไร่ และซื้อทองไว้ เกือบ 30 บาท โดยเป็นชื่อตุ๊กทั้งหมด ในระหว่างนั้นพี่หนึ่งได้ซื้อรถยนต์เป็นชื่อพี่หนึ่งเอง ทั้งสองมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ส่งมาอยู่บ้านฝ่ายหญิง จนต้นปี 56 พี่หนึ่งคิดว่า ตัวเองพร้อมทำธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว พี่หนึ่งได้ลาออก และมาเปิดโรงกลึงเป็นของตัวเอง ส่วนตุ๊กยังไม่กลับขออยู่ทำงานที่ ชลบุรีต่อ ให้เหตุผลว่า กลัวธุรกิจไปไม่รอด พี่หนึ่งก็ตามใจ และได้ซื้อที่อีกแปลงเพื่อทำโรงกลึงและสร้างบ้าน ช่วงเดือนตุลา โรงกลึงและบ้านสร้างเสร็จ ตุ๊กก็กลับมาทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอต้นเดือน ธค.56 นี้เองที่พี่หนึ่งเร่งให้ตุ๊กเคลียร์ทุกอย่างแล้วกลับบ้าน ปรากฏว่า ตุ๊กไม่ยอมกลับ และขอเลิกกับพี่หนึ่งแทน เรื่องราวยื้อกันอยู่สักพัก จนในที่สุดก็ตกลงหย่าขาดจากกันเมื่อวันที่ 4 มค.57 โดย พี่หนึ่งตัดใจยกทรัพย์สินทุกอย่างให้ตุ๊กไปรวมทั้งที่แปลงที่สร้างบ้านใหม่ พี่หนึ่งขอรถยนต์ไว้คันเดียวและเครื่องจักรเครื่องมือในโรงกลึงที่เหลือ คือตุ๊กได้ไปหมด เพราะลูกชายอยู่กับฝ่ายหญิง ที่นี้ทางฝ่ายบ้านเหมียวก็คิดว่าจบแล้วให้พี่หนึ่งทำใจ แล้วเริ่มต้นใหม่ ช่วงเลิกกันใหม่ๆ พี่หนึ่งเสียคนไปเลย เทียวทุกวัน หมดเงินไปหลายแสนกับการเทียว ดื่ม อยู่อย่างนี้ และทางเราสืบจะรู้ว่า ตุ๊กมีคนมาชอบพอเป็นเจ้าของโรงงานทำขนม ทางเราก็ขอให้พี่หนึ่งทำใจและยอมรับมัน และได้ขนย้ายเครื่องจักรกลับไปที่ชลบุรีไปร่วมหุ้นกับเพื่อนทำโรงกลึงกันใหม่
         จนเรื่องราวผ่านมาจนถึงวันนี้ ได้มีจดหมายส่งมาถึงบ้าน เป็นจดหมายทวงหนี้ ชื่อพี่หนึ่ง เป็นจำนวน เงิน แปดหมื่นกว่าบาท ทางบ้านเหมียวก็เลยถามว่าไปสร้างหนี้อะไร พี่หนึ่งเห็นแล้วก็บอกว่าบัตรใบนี้ อยู่กับตุ๊ก ตุ๊กได้นำไปใช้ พีหนึ่งลืมบัตรใบนี้ไปเลย และคิดจะเอาเรื่องตุ๊ก แต่เหมียวเห็นว่ามันจะกลับมาเกี่ยวพันกันอีก เพราะอย่างไรมันก็เป็นชื่อพี่หนึ่ง เหมียวให้พี่หนึ่งไปประนอมหนี้ แต่พี่หนึ่งแค้นฝังหุ่นแล้ว จะแจ้งความว่าลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์กับตุ๊ก
         เหมียวขอความเห็นเป็นข้อๆนะค่ะ  
1. เราสามารถแจ้งความว่ายักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ได้หรือไม่
2.ถ้าได้เราจะเริ่มต้นอย่างไรบ้าง
3.หรือเราควรจะประนอมหนี้เอง จ่ายเอง และถือซะว่าให้ตุ๊กเอาไปเลี้ยงดูลูก
        รบกวนผู้รู้และเคยมีประการณ์ หรือเจอกรณีแบบนี้ เราควรจัดการต่ออย่างไรดีค่ะ
ปล.ตอนนี้พี่หนึ่งได้โทรคุยกับธนาคารเจ้าของบัตรแล้วและกำลังคิดจะดำเนินการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่