>>>>ผู้เข้าแข่งขัน The Voice บางคน บางทีก็เยอะ!!! และคาดหวังเกินตัวไปไหม??<<<<

ภาพพวกนี้ผมได้มาจากกระทู้นี้  http://pantip.com/topic/32903141/comment21-5  ในคห. ที่  93  
ขออนนุญาตคุณ  nuchnanuch  จขคห ด้วยนะครับ

           ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคนที่คุยกันพวกนี้เขาเป็นใคร เข้ารอบหรือเปล่า หรือเป็นคนที่มาคัดก่อนเข้ารอบ Blind audition แต่ผมอยากจะพูดถึงภาพรวมของอารมณ์ผู้เข้าแข่งขันหน่อยนะครับ  ผมว่า SS นี้นี่ดราม่า แซบสุดละ  คือชอบรายการนี้นะ  แต่มันเริ่มไม่สนุกเพราะมีเรื่องพวกนี้แหละครับ  พวกคุณมีนอกมีในจนบางทีดูรายการเสร็จมาเจอเรื่องพวกนี้มันทำให้เฝื่อๆลงไปเยอะ  ถ้าสาเหตุมาจากรายการอันนี้ไม่เท่าไรเพราะไม่มีรายการไหนเพอร์เฟคไปหมด  แต่มันหมดสนุกเพราะคนที่มีปัญหา

           ถ้าให้พูดกันตามหลัก งานที่ออกมาภาพรวมของโชว์เกิดขึ้นได้เพราะโค้ชครับกำหนดทิศทางส่วนนึง  พวกคุณคือผู้เข้าแข่งขัน คือคนที่สมัคเข้าไปเพื่อไปร่วมรายการกับเขา ไปอยุ่ร่วมกับเขา ไม่ใช่เขามาเลือกคุณ  โจทย์ของพวกคุณคือทำอย่างไรก็ได้ให้งานออกมาดีที่สุด  ส่วนโค้ชคือผู้บังคับทิศทาง คือกัปตันทีม  คุณเป็นลูกทีมถ้าไม่สามารถทำตามโค้ชได้คุณก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้วว่าเกิดจากอะไร  เพราะคุณความสามารถไม่ถึงหรือเปล่า  หรือความบกพร่องจากทีมที่คุณทำงาน  นี่ไม่ใช่ซีซั่นแรกของ The Voice  และไม่ใช่ครั้งแรกของ The Voice ทั่วโลก  เพราะต่างประเทศเค้ามีกันไม่รู้กี่ SS แล้ว  ถ้าคุณได้ดู The Voice ไม่ว่าของประเทศอื่นๆ หรือของไทยที่ผ่านมาคุณก็คงจะคุ้นเคยกับการเลือก การตัดสินใจของโค้ชในภาพรวมคร่าวๆ ไม่ได้เพิ่งมารู้เอาตอนสมัครเข้าแข่งขันเสียหน่อย  จริงเวทีนี้เป็นการแข่งขันการร้องเพลง  แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าว่าโค้ชทั้ง  4  คน  ก็คือส่วนนึงที่สร้างสีสันให้รายการ ใช้มันสมองในการครีเอทของโค้ช  การประชันกันระหว่างโค้ชกันเอง  เพราะแต่ละรอบงานออกมาดีหรือไม่ดีนั่นก็หมายถึงหน้าตาของโค้ชด้วย  รายการนี้ไม่ใช่นักร้องอย่างเดียวที่สำคัญมันเป็นมากกว่าตัวนักร้อง  คุณไม่สามารถอ้างได้ว่า  The Voice คือนักร้อง คือเสียงของนักร้องเพียงอย่างเดียวตราบใดที่เค้ายังทำงานกันเป็นทีม  ตัวคุณคนเดียวไม่สามารถบังคับทิศทางเองจนชนะได้  ลองคิดดูถ้าให้คุณมาประกวดกันเอง  เลือกเพลงเองหมด  กำหนดทิศทางโชว์เอง  รอดไหมล่มไหม  คุณก็ตอบไม่ได้เพราะคุณไม่ได้เก่งที่สุด คุณต้องอาศัยโค้ชหล่อหลอมขัดเกลาคุณ  และชี้นำคุณ  อีกอย่างคุณอยากร้องแต่เพลงที่คุณถนัด มันบ่งบอกว่าศักยภาพของคุณมีจำกัด  แต่อยากเป็นยอดนักร้อง  บางครั้งเค้าก็อยากเห็นสิ่งที่หลากหลายที่แปลกใหม่ในตัวคุณ  ไม่ใช่เอาเท่าที่คุณทำได้แบบนั้นมันทั่วไปเกิน  รายการนี้เค้ามีหลายรอบนะครับ ไม่ใช่ยืนร้องเพลงเดียวจบเหมือนขึ้นเวทีงานลอยกระทงแล้วตัดสินเลยไม่ง่ายขนาดนั้น  สรุปโดยรวมคือคุณทำไม่ได้ไง  คุณมีแค่นั้นคุณก็จบแค่นั้น  แล้วทำไมคนที่เข้ารอบเขาถึงได้เข้ารอบ  และเพลงที่เขาร้องเขาอาจจะไม่ได้ถนัดเหมือนที่คุณก็โดน หรือเขาไม่ได้เลือกเพลงเองเหมือนที่คุณก็โดน  แต่ที่เขาได้รับเลือกเพราะเขาทำได้ไงครับ  ซึ่งคุณทำไม่ได้  
และนี่เป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มา  The Voice ทุกประเทศเค้ากำหนดให้โค้ชมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในเกือบทุกเรื่องภายในทีม  การตัดสินใจของโค้ชถือว่าเป็นที่สิ้นสุด  หากพวกคุณทำตามโจทย์ได้พวกคุณก็คือคนเก่ง  ถ้าพวกคุณทำไม่ได้พวกคุณก็ต้องพยายามทำให้ได้ สุดท้ายถ้าไม่ได้จริงๆก็คือต้องยอมรับ ไม่ใช่มาแทงกันข้างหลังแบบนี้ ความแมนหายไปไหนหมด  บางครั้งคนที่คุณพูดถึงเขาไม่สามารถมาแก้ตัวแก้ต่างให้ตัวเขาเองได้นะครับ นั่นมันหมายถึงเขาจะโดนยำอยุ่ฝ่ายเดียว  คุณจะพูดให้คุณเป็นฝ่ายเสียเปรียบยังไงก็ได้  ตราบใดที่คุณไม่พอใจกับสิ่งที่คุณไม่ชอบใจ  คุณก็ไม่ควรใช้วิธีนี้ทำร้ายกัน  ควรใช้ความเข้าใจเสียใหม่  ประสบการณ์ของพวกคุณบางทีมันก็ใช้ไม่ได้ทุกที่นะครับ  คนเก่งของจริงเค้าไม่พูดกันหรอกครับ เค้ารู้กันใครจริงใครไม่จริง ยกตัวอย่างเช่นจิมมี่  เก่งจริง ถึงตกรอบแต่คนดูเป็นตัวชี้วัดเป็นตัวตัดสินเองว่าเก่ง และจิมมี่เขาก็ไม่งอแงเลย ทั้งๆที่เขาของจริง ควรเข้ารอบ  แต่ไม่ได้เข้ารอบ  ผมอยากให้ผู้เข้าแข่งขันมีน้ำใจนักกีฬาเหมือนจิมมี่ครับ

ปล. หลายๆ ครั้งผมก็ไม่เห็นด้วยกับการเลือกของโค้ชนะ แต่มันเป็นการแข่งขัน การตัดสินใจของโค้ชไม่ว่าเรื่องอะไรถือว่าเป็นที่สุด และเราต้องยอมรับมันให้ได้ นี่คือคนจริง  ยังไงก็หลังจากนี้ไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นเลย มันไม่สนุกเพราะโค้ชยังพอทน  ไม่สนุกเพราะผู้เข้าแข่งขันที่ไม่พอใจในผลตัดสินนี่ไม่ไหวนะ  เรื่องเยอะเกิน

ภาพการสนทนานี้ก็แค่ยกตัวอย่างก่อนที่จะมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้นะครับ












***แก้ไขคำผิด และเพิ่มเติมบางประโยค***
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่