อัพเดทรีวิว วีซ่าท่องเที่ยวเยอรมัน (เเชงเก้น) เเละ ออสเตรเลีย พ.ย 2557

กระทู้สนทนา
เพิ่งไปขอวีซ่าเยอรมันมาได้เดือนนึงครับ ไปวันพุธที่เเล้ว ได้เล่มกลับมาวันอังคาร ตอนเย็นวิ่งลก หาเอกสาร ไปแบงค์ใหม่ขอสเตท์เมนท์เช้าพุธ (วันนี้) ไปยื่นของออสเตรเลียต่อเรียบร้อย 555  เลยกะว่าจะมีรีวิวให้อ่านกันสักนิด คิดว่าหลายคนคงได้อ่านกันมาเยอะเเล้ว เเต่เผื่อมีอะไรเปลี่ยนจะได้อัพเดททันครับ


วีซ่าท่องเที่ยวเยอรมัน

เอกสาร ทุกอย่างยังเหมือนเดิม (เคยขอเมื่อ 4 ปีที่เเล้ว 1 ครั้ง) มีอะไรก็ขนไปให้หมดจะเป็นการดีที่สุดครับ เราเคยขอไปยุโรปครั้งเเรกตอนทำงานอยู่ที่อินโด ช่วงนั้นไม่เคยรู้เลยว่ายุโรปวีซ่านี่ยากขนาดไหน เรามีเเค่ใบรับรองการทำงาน บุ๊คเเบงค์ก็ไม่มี เพราะเค้าไม่ได้เปิดบัญชีธนาคารที่อินโดให้ เเต่เงินเดือนจะออกมาเป็นเงินสด ต้องไปหาซื้อ Traveller cheque จากจาการ์ต้า (เราอยู่บาหลี) มาก็อบปี้ส่งให้ไป วุ่นวายมาก มาย้อนคิดไป ไม่รู้ผ่านมาได้ไง เพราะหลักฐานน้อยมาก สงสัยเค้าคงสงสารเพราะไปเเบบไม่รู้เรื่องจริงๆ

สำหรับเเชงเก้นจะอยู่ปทไรนานสุดให้ไปขอที่นั่น ระวังถ้าขอเเล้วตอนไปไม่เเวะไป เช่นขอของเยอรมัน เเล้วไปถึงไม่ย่างเข้าเยอรมันเลย จะมีสิทธ์โดนหมายหัวไว้ หรืออย่างที่เเย่สุด โดนตมยุโรปส่งกลับประเทศก่อนได้เที่ยว เคยมีเอเจนซี่เมืองไทย ไปขอของเบลเยียมให้ทัวร์ ได้เสร็จไม่ได้ไปเลย เเผนทัวร์ทั้งหมดอยู่ที่ประเทศอยู่หมด ไปถึงตมประเทศเเรกจับได้ โดนส่งกลับยกทัวร์เลย เเต่ถ้ามันสุดวิสัยจริงๆ คือไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่ไป ก็อีกเรื่อง หาเหตุผลมารองรับให้ดีถ้าโดนถามเเค่นั้น

ก่อนไปโทรนัดวันยื่นก่อน ตามเบอร์ในเวปสถานทูตนั่นเเหละ ในเวปจะเขียนว่าเครือข่าย True move โทรไม่ได้ ซึ่งไม่จริง เราโทรได้ปกติ  ได้วัน ได้โค้ด มาเเล้วให้จดใส่กระดาษแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กๆไว้ จดให้ตัวตัวโตๆ อ่านง่าย เเละสีชัดนะครับ   พอถึงวันจริง เข้าไปสถานทูตเเล้ว เจอตู้กระจกเเรก จะมีผช นั่งอยู่ข้างใน อย่าถาม อย่าพูดอะไรเด็ดขาด ตาคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องเเกล้งคนเเละขี้โมโหมาก เอาแผ่นที่จดไว้เเนบกับกระจกไปเลย เค้าจะอ่านเองเเละส่งใบกระดาษเล็กๆมาให้เรา เราก็เอาใบนี้ไปให้พี่ผู้ชายเสื้อดำ (โต๊ะ อยู่ด้านซ้ายมือ บันไดทางขึ้นห้องกระจก) เเกจะจดให้ว่าต้องไปสัมภาษณ์ช่องไหน

เอกสารที่ใช้นอกจากเเบบฟอร์มสมัครวีซ่า

1. สำเนาพาสปอร์ตอันล่าสุด + เล่มจริง + เล่มเก่า --> ตอนยื่นให้เค้าให้ยื่นไปทั้งสองเล่มเลย เดี๋ยวเค้าจะเอาคลิปติดกันเอง

2. ตั๋วเครื่องบิน (เราไป bkk-berlin กลับ bacelona-bkk) + ใบจองโรงเเรม (คนใช้ booking.com ท้งประเทศเเล้วมั้ง สงสารเค้ามาก เพราะ 99% จองขอวีซ่าเเล้วไม่ไปพักจริง บางคนไม่เเคนเซิลด้วยซ้ำ ใช้เบอร์บัตรปลอมเเล้วปล่อย no show ระวันนะ ทำกันไปนานๆ เค้าจะเเบนเเเล้วเปลี่ยนเป็นเเบบ Agoda)

3. สเตทเมนท์จากธนาคาร ย้อนหลัง 3 เดือน ( ไม่จำเป็นต้องขอใบรับรองฐานะการเงินอีกใบนะ ขอมา 3 รอบเเชงเก้น ไม่เคยเห็นสถานทูตถามหา ก็มี statement จากธนาคารให้ไปแล้ว ยกเว้นว่าคุณใช้วิธีถ่ายเอกสารจากบุ๊คเเบงค์ อันนี้ต้องมีใบรับรองฐานะการเงิน+บุ๊คเเบงค์เล่มจริงไปด้วย) //รีพายด้านล่างบอกสเปนเพิ่งเปลี่ยนมาขอใบรับรองด้วยนะครับ งั้นเอาเป็นว่ายอมเสียเงินอีก 100 นึงขอไปด้วยเเล้วกัน เพิ่งไปที่เเปลกๆเเล้วเค้าขอ

4. อะไรก็ได้ที่โชว์ว่าชั้นมีภาระอยู่กับประเทศไทย เราไม่มีเเฟนหรือลูกที่นี่ เลยใช้ฉโนดบ้าน (ของเยอรมันไม่ต้องแปล ส่งไปเป็นไทยนั่นเเหละ)

5. ประกันสุขภาพ (เเนะนำของ อลิแอนซ์ ใกล้ๆสถานทูตก็มีที่ตึก CP ตรงสีลม ราคาประมาณ 1300 บาท รับเเต่เงินสด ถ้าไปก่อนบ่าย 3 รอรับได้เลย ใช้พาสปอร์ทกับบัตรปปช )  ของทุกที่ถ้าวีซ่าโดนปฏิเสธไปขอเงินคืนได้นะ

6. แผนการเดินทาง ( ไม่จะเป็นต้องมี )  ถ้ามั่นใจว่าตอนสัมภาษณ์สามารถตอบคำถามคร่าวๆ ได้ ซึ่งถ้าคุณจะไปที่โน่นจริงๆเพราะท่องเที่ยว ไม่ได้หนีไปหาแฟน ไปแอบงานทำ มันต้องรู้รายละเอียดบ้าง ไม่ใช่ละเอียดยิป เเต่คร่าวๆต้องตอบได้ เช่นระหว่างเบอร์ลิน ไปบาเซโลน่าจะไปไง (เจ้าหน้าที่ถาม) ผมบอก "ยังไม่เเน่ใจ เเต่คิดว่าน่าจะบินเอาเพราะรถไฟแพงกว่า เครื่องบินเช็คคร่าวๆเเล้วประมาณ 60 ยูโร"  รู้อะไรมาก็พูดไปเลยครับ

เเต่ถ้าใครอยากทำเพราะเงินในบัญชีน้อย อยากให้เค้าเห็นว่านี่นะ งบเท่านี้ที่มีก็พอไปเที่ยว ก็ทำได้ เเต่ขอบอกนิดนึงเเล้วกัน (มาจากคนรู้จักที่ทำงานสถานทูตเเห่งนึง ขอวีซ่ายากมากกว่าเเชงเก้นอีก บอกเเค่นี้เเหละ) เค้าเคยบอกว่าพวกที่ทำแผนการเดินทางเหมือนรายงานส่งครูน่ะ พิมพ์ออกมาสวยเลย มีคำนวณยอดทุกอย่าง บางคนใส่ไปด้วยว่าวันไหนกินกี่บาท กี่ดอลล์ เค้าบอกพวกนี้โก๊ะมาก เพราะสถานทูตรู้อยู่เเล้วว่าไม่ได้ทำจริง ใครจะบ้าไปวางเเผนอนาคตล่วงหน้าว่าวันนี้ชั้นจะกินโน้น กินนี่ เที่ยวนั่น ต่อด้วยเที่ยวนี้  ทางสถานทูตเค้าอยากได้เเค่รายละเอียดคร่าวๆ เเต่เอาให้จริงใจ เช่นมีคนนึงส่งเป็นกระดาษ A4 ใช้มือเขียนคร่าวๆ ว่าจะไปดูไรที่ไหน เที่ยวไหน ผับไหนเจ๋ง ไม่ได้ใส่วันที่ด้วยเอาเเค่โดยรวมว่าเมืองนี้จะทำอะไรบ้าง ใส่ราคาเเค่ของชื้นใหญ่ๆพอ เช่นค่าตั๋วระหว่างเมืองไปอีกเมืองคร่าวๆว่าเท่าไหร่ ไอ้พวกกินกี่บาท ค่าประตูสวนสัตว์กี่ยูโร พวกนี้ยิ่งใส่ยิ่งดูไม่จริงใจครับ

7. ที่ดราม่ามากสุด คือเรื่องงาน ของเรายากเพราะเป็นงานส่วนตัว freelance ไม่มีนายจ้าง ไม่มีจดหมายรับรอง ไม่มีหลักฐานอ้างว่าจะกลับมาไทยจริง เเต่ไม่ต้องกลัว ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนก็โชคดีไป มีภาษีหน่อย ถ้าไม่ใช่ ให้ทำตามนี้

เขียนจดหมายเเนะนำตัวเองเลย ว่าทำอะไรบ้าง อาชีพอะไร ทำที่ไหน ทำมากี่ปีเเล้ว เวลารับเงินรับเป็นเงินสดหรืออะไร ได้มาก้อนนึงครั้งละเท่าไหร่ (เราไม่เคยได้เท่ากันเลยเเต่ละครั้ง เลยเขียนว่า commission based) จดหมายไม่ควรเกิน 4 ย่อหน้า เขียนทุกอย่างให้กระชับอ่านง่าย ไม่ต้องใช้ภาษาสวยเเต่ให้เค้าอ่านเเล้วเข้าใจเลย เขียนทุกอย่างให้จบภายในเเผ่นเดียว เเล้วย่อที่ 3 ควรบอกด้วยว่า เนื่องจากเราไม่มีงานทำ หรือเป็น freelance เพราะงั้น I would like to provide these following documents to support my bank / income statement เสร็จเเล้วมีเอกสารอะไรก็ขีดมา
เช่นของเรามี

* ใบเสร็จค่าเช่าห้องที่ใช่สอนคอร์สเรียน (เราสอนเกี่ยวกับการลงทุน)  เราเมลไปขอกับทางสถานที่ให้รื้อ invoice เก่าๆย้อนหลังไปสักครึ่งปีเเนบไปด้วย อันนี้เค้าก็จะเห็นว่าวันไหนที่เราเช่าห้องสอน ยอดเงินในเเบงค์เราก็จะมีเงินก้อนตู้มเข้ามาเป็นระยะๆ
* บางครั้งเราถอนเงินจากโบรกเกอร์ตปท มาที่ไทย เราก็เเนบอีเมลเเจ้งการถอนเงินไปด้วย เค้าก็จะเห็นอีก ว่าเราอีเมลไปหาโบรกวันนี้ อีก 3-4 วันมีเงินก้อนตู้มเข้ามา มันก็สมเหตุสมผลนิ
* ถ้ามีรูปถ่ายก็เอาไปด้วย รูปที่ทำกิจการ เราเอารูปที่เราสอนคลาสต่างๆไปด้วย เผื่อไว้สัก 6-8 รูป
*  มีห้องปิดใน เฟสบุ๊ค คุยกันสัพเพเหระ บางครั้งอัพเดทเกี่ยวกับข่าวเศรษฐกิจ หรือเเนะนำว่าช่วงนี้ทองจะไปทางไหน เราก็ปริ๊นไป เอา 5 หน้า A4 ล่าสุดปี 2014 เเละ 5 หน้าเเรกสุดที่ก่อตั้งห้องปิดนี้ (ปี 2012) เผื่อให้เค้าดูวันว่าเราทำอาชีพนี้มานานเเล้วนะ ไม่ได้โม้ขึ้นมาเอง (ไฮไลท์วันที่ไว้ด้วยก็ดี)

เเค่นี้จริงๆ เงินในบัญชีที่โชว์ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเงินเราอยู่ตปทซะหมด ไม่ถึงสองเเสนด้วยซ้ำตอนเอาไปยื่น ฮาที่หน้าเเรกยอดเงินเป็นหลักพันด้วย เจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้ดูยอดเงินเลย เเต่การพิจารณาเค้าจะยึดหลักที่ว่า สามารถอธิบายที่มา ที่ไป ของเงินได้มั้ย ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ถ้าอธิบายได้ คุณก็ได้ไป เรื่องเงินที่คุณจะใช้เดี๋ยวคุณก็หามาเองเเหละ ประมาณนั้น

ตอนสัมภาษณ์ ถามไรมาก็ตอบไป ระวังคำถามหลอกสำหรับคนที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวด้วย เค้าจะชอบถามว่ามีคนรู้จักที่เยอรมันไหม ถ้าตอบว่ามี เค้าจะถามชิวๆว่าเเล้วจะไปเจอกันรึเปล่าคะ ถ้าตอบว่าเจอ ก็เงิบบกลับไปบ้านได้ เพราะเค้าจะไล่กลับไปกรอกวีซ่าใหม่เป็นวีซ่าเยี่ยมเยียน เเล้วคุณก็ต้องเอาจดหมายจากเพื่อนมาให้เค้าดู วุ่นวายตระการตามากๆ  ไม่ได้ให้โกหก เเต่ให้ตอบเป็นจริง เช่นของเราโดนถาม เราบอกมี เเต่คิดว่าคงไม่ได้เจอ ไม่น่ามีเวลาพอ


วีซ่าท่องเที่ยวออส

เราใช้เอกสารทุกอย่างเหมือนกันหมดกับเยอรมัน เเต่สำหรับออส คุณไม่จำเป็นต้องมีใบจองเครื่องบิน เเละที่พัก (ใครจะให้ก็ได้) เเละการยื่นวีซ่าออสเตรเลีย ไม่ใช้เอกสารตัวจริงสักอย่างเลย (ยกเว้นตามที่รีพายด้านล่างบอก เอกสารรับรองการทำงานตัวจริง  ที่สำคัญบัญชีธนาคารเราต้องให้เล่มจริงเขาไประหว่างการพิจารณา หรือ statement ของจริงจากธนาคาร)  พาสปอร์ตตัวจริงคุณก็ไม่ต้องเอาไป

1. สำเนาหน้าพาสปอร์ตปัจจุบัน 2 ใบ  
2. ถ่ายทุกหน้าของพาสปอร์ตปัจจุบันที่มีการป็ม  ไม่ว่าจะปั๊มเข้า - ออก ห่าเหวของประเทศอะไรก็ตาม ให้ถ่ายหมด ส่วนหน้าเปล่า ไม่ต้องถ่ายนะ (ในเวปบางเวป บอกให้ถ่าย)
3. ถ้ามีพาสปอร์ตอันเก่า ให้ถ่ายหน้าเเรก เเละหน้าพวกที่เป็นวีซ่าแปะอยู่ไปด้วย  เผอิญของเราเพิ่งขึ้นเล่มใหม่ได้ไม่นาน เล่มใหม่เลยมีป็มอยู่เเค่สองสามหน้า อันนี้เราเลยถ่ายเล่มเก่าไปหมดเลยทุกหน้าที่มีการใช้
4. สำเนาปปช เเละสำเนาทะเบียนบ้าน
5. เอกสารสนับสนุนอื่นๆเหมือนเเชงเก้น

ที่สำคัญตอนกรอกใบสมัคร ใบสมัครออสค่อนข้างเปิดเสรีให้คุณเเสดงความคิดเห็นได้เยอะ  เพราะงั้นมีอะไรก็เขียนอธิบายไปให้หมด เเล้วค่าสมัครเเพงมากกกก เกือบ 5000 ( 4750 + ค่าส่ง ems 200 ถ้าให้โทรเเจ้งผลขออีก 75 บาท กรรม จะรู้ไปทำไม เดี๋ยวได้เล่มคืนมาก็รู้อยู่ดี) เพราะงั้นเวลาขอให้ขอ 12 เดือนเอาไว้เป็นดี ขึ้นอยู่กับเค้าจะให้หรือไม่ให้ เเต่ขอให้ไปเที่ยวจริงๆ ประเภทแอบไปทำงานนานๆ ลักลอบไปมีสามี ลักลอบไปทำโน่นนี่ คุณจะทำให้เราๆที่เหลือขอวีซ่ากันยากขึ้นนะในอนาคต

ของเราเเจ้งไปตรงๆเลย เขียนบอกไปว่าค่าสมัครเเพง ยิ้ม เดือนมีนา 2015 นี่จะไปเเน่ๆ เพราะมีพาเหรดที่ซิดนี่ย์ เเต่ไปเเปปเดียว 10 กว่าวัน ส่วนถ้ามีเวลาว่างอำนวยเดือนตุลา 2015 หรือพฤจิ ก็อยากไปส่วนอื่นบ้าง เพราะเคยไปเเต่ซิดนี่ย์ (ครั้งที่เเล้วไปมา 2009 ขอที่อินโดเหมือนกัน เอกสารไม่มีเลย 555 ไม่รู้ผ่านได้ไง) เพราะงั้น ถ้ากรุณา มีมุตาจิต ก็ขอ 12 เดือนเหอะ 555   คนที่สถานทูตอ่านเห็นคงจะขำอยู่

ส่งเอกสารทุกอย่างที่ ตึก Trendy สุขุมวิท 13 ชั้น 28 (ใช้ลิฟท์ตัวหลังสุด) เซ็นรับรองสำเนาไปด้วย รูปถ่ายใช้เเค่ใบเดียว ใช้ของที่ไปสมัครเยอรมันได้เลย ขนาดเท่ากัน ถ้าเอาเอกสารมาครบ 5 นาทีก็เสร็จแล้ว

หวังว่าจะได้ 12 ปีดังตั้งใจ นี่คิดๆอยู่ว่าไหนๆไปยุโรปเเล้ว จะไม่เเวะ UK ก็เสียดาย เเต่ท่าทางจะหนักไปหน่อย จะวิ่งไปขอเพิ่มอีกสักที่ก็กระไรอยู่

ขอให้ท่านอื่นๆ ได้วีซ่าตามที่ใจหวังเรา ถ้าเราบริสุทธ์ใจ จะไปเที่ยวจริงๆ มันไม่น่ามีปัญหานะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่