คำตอบคือ  ผิดแล้วแต่กรณีค่ะ

       1. กรณีที่ชายหญิงคู่นั้น ไม่มีเพศสัมพันธ์กันค่ะ คือไม่มีพันธะทางร่างกายต่อกันมากเท่านั้น
ถือว่า เป็นช่วงที่เลือกคู่ครองกันอยู่ ตามนั้นนะคะ อาจไม่เข้าข่ายว่าผิดศีล แต่ได้ชื่อว่าทางกรรมทางใจ
ให้กับคู่แข่ง ค่ะ หากทำไว้มาก แย่งมาได้แล้วภูมิใจมากๆ เกิดอาการหลงตัว สะใจ คิดว่าเก่งที่ชนะคนอื่น
หรือเคสชายหรือหญิงที่สะบั้นรักคนที่ดูใจกันอยู่ แล้วไปคบกับอีกคนหน้าตาเฉย ภูมิใจในเสน่ห์ของตน บอกเลิกไม่เคลียร์
พูดจาแย่ๆ ใส่อีกฝ่าย เพื่อจะไป หรือโทษอีกฝ่ายว่าไม่ดี เบื่อใส่อารมณ์ เพราะเจอคนใหม่ อยากไปอยู่กับคนใหม่จะแย่อยู่แล้ว
ก็ดูมีผลกรรมที่ไม่น่ามีใครอยากได้สักคนนะคะ แต่ตอนทำไม่รู้ว่าจะต้องเสวยกรรมแบบนี้ นั่นคือ
กรรมเหล่านี้ส่งผลให้เราเจอคู่ครองช้า เช่นมาเจอเอาอายุ 35 ขึ้นไปหรือไม่เจอเลยในชาตินี้ก็เป็นได้
หากได้เจอคนที่ถูกใจ ก็จะมีเหตุให้คลาดไปตลอด ไม่มีวันสมหวัง

       ชายหญิงหากไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแต่คบหาดูใจกัน นั่นหมายถึง ความโชคดี
ที่อีกฝ่ายจะได้รู้ว่า คู่ของตนนั้น มีกิ๊กหรือไม่ และตัดใจได้อย่างรวดเร็วค่ะ หากเป็นเศษกรรมจากศีลข้อ 3
ก็นับว่าเบามากและเมื่อตัดใจได้อย่างเข้มแข็งจะได้ไปเจอคู่ครองที่ดีค่ะ  


        ตรงกันข้ามหากพยาบาทโมโห เฝ้ามองดูความพินาศของกิ๊กและคู่ครองเก่าของตน  กรรมก็จะทวนระบบใหม่  สร้างวิบากทางใจให้
ไม่จบไม่สิ้น ทวีความแรงจากศีลข้อ3 ที่กำลังจะหมดกรรมแล้ว กลายเป็นต้องเจอคนเจ้าชู้ คู่ไม่ดีในภพชาตินี้ต่อไป  
หากเจริญเมตตา ให้อภัยคู่และกิ๊ก ของตนได้ รวมถึงถือศีล8 ไม่พยายาบาทอาฆาต หากภพชาตินี้ไม่มีคู่ครองที่ดีมาเกิด
ก็การันตีได้ว่าจะมีความสุขทางใจ มีความเจริญก้าวหน้าไปตลอด และภพชาติใหม่ จะได้คู่ครองที่มีศีล เสมอกัน อยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข
เป็นที่อิจฉาของใครหลายๆคนค่ะ

        2.กรณีชายหญิง เป็นแฟนกันมานาน   หรือ กรณีชายหญิงมีความสมัครใจไปอยู่ด้วยกันแล้วทั้งคู่
รวมถึงให้คำมั่นสัญญาทำนองว่าคบกัน  หรือทำตัวแบบคนเป็นแฟนกัน  อย่างไรไปเป็นมือที่สามก็ต้องผิดศีลข้อ 3 แน่ๆ ค่ะ


       3.กรณีชายหรือหญิงแต่งงานแล้ว หรือหญิงมีบิดามารดาหรือญาติพี่น้องดูแล อันนี้ทราบกันดีอยู่แล้ว ไปเป็นมือที่สามผิดศีลแน่ๆค่ะ

         แม้หญิง ชายที่แต่งงานกันแล้ว จะแยกกันอยู่ แต่หากยังไม่ประกาศหรือยินยอมจากคู่ของตนว่าเลิกกัน แล้วไปบอก มือที่สาม สี่
         ห้า หก ว่าแยกกันอยู่ไม่มีอะไรแล้ว รอวันหย่ากัน รอลูกโต อีก 3 ปี อะไรก็ว่ากันไปแล้วแต่อยากอ้าง  ใครมาทีหลัง  
         เป็นภรรยาน้อย เป็นสามีน้อย เข้าข่ายบาปและผิดศีลข้อ 3 แน่ๆค่ะ  

นับอย่างไรว่าผิดศีลข้อ3ไปแล้ว

  ศีลข้อ3 นับจากทางจิตคิดประหวัดว่าแอบชอบผู้หญิงคนนี้หรือผู้ชายคนนี้ นับว่ามีเจตนาก็จะ หม่นหมองทางจิตไป
แล้วกรรมก็ให้ผลไปในทางศีลด่างพร้อยไป 10%  
กระทำการเกี้ยวพาราสี พูดคุย แชท เพิ่มเจตนา ก็รับไปอีก 20%  
จับไม้จับมือ โอบเอว โอบไหล่ เอาบาปกรรมไปอีกเป็น 40%  
ได้จูบ ลูบคลำ แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ เอาไป 70%
พูดจาลามก เกี้ยวกัน โดยพูดถึงอวัยวะเบื้องต่ำ หรือ อวัยวะใต้ร่มผ้า เอาไป 80%
สุดท้าย มีเพศสัมธ์กัน  นับจากตรงนี้ไม่ถือว่าศีลด่างพร้อยแล้วอันนี้เรียกว่าศีลขาด กระทำสมเจตนา เอาไป 100%

(เปอร์เซ็นทีระบุเป็นเคสตัวอย่าง เปอร์เซ็นนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาและการกระทำของคนผิดศีลค่ะ)