"คู่กรรม" ฉายในเทศกาลหนังโตเกียว เจ้าถิ่นมองอย่างไรเมื่อ "นักแสดงไทยเล่นเป็นชาวญี่ปุ่น" ?

จากมติชนออนไลน์

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งโตเกียว ประจำปี 2014 ที่ประเทศญี่ปุ่นปิดฉากลงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ภาพยนตร์จากทุกมุมโลกมีโอกาสถ่ายทอดสู่สายตาคอหนังหลากหลายเชื้อชาติที่มาร่วมเทศกาล ปรากฎการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในเทศกาลนี้คือผู้จัดเลือกภาพยนตร์ไทย 8 เรื่องอาทิ "ตั้งวง", "คิดถึงวิทยา", "คู่กรรม", "ภวังค์รัก" หรือ "36" มาฉายในโปรแกรมพิเศษที่จะนำภาพยนตร์จากประเทศใดประเทศหนึ่งในเอเชียมาฉายซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก

นายเคนจิอิ ชิซากะ ผู้อำนวยการฝ่ายโปรแกรมของเทศกาลระบุว่า 10 ปีที่ผ่านมาวงการหนังไทยเปลี่ยนแปลงไปหลายประการ ซึ่งถือเป็นเหตุผลสำคัญที่เทศกาลเลือกหนังจากไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ฉายในโปรแกรมพิเศษ

รายชื่อหนังไทยทั้ง8เรื่องที่เทศกาลเลือกน่าจะเป็นภาพแทนของความหลากหลายในวงการหนังไทยได้พอสมควรหนังทั้ง8เรื่องได้รับความสนใจจากคอหนังในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ"คู่กรรม"เวอร์ชั่นของกิตติกร เลียวศิริกุล ซึ่งมีณเดชน์ คูกิมิยะ นักแสดงชาวไทยรับบทเป็นนายทหารญี่ปุ่น น่าจะเป็นจุดที่ถูกจับตามากเป็นพิเศษตามโจทย์ของนักแสดงต่างชาติที่เล่นเป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งกิตติกร ผู้กำกับชาวไทยระบุว่า มีเสียงสะท้อนเรื่องการใช้ภาษาอยู่บ้าง

ผู้กำกับมากประสบการณ์เปิดเผยว่า ระหว่างการร่วมกิจกรรมตอบคำถามหลังฉายภาพยนตร์ในเทศกาลมีผู้สอบถามเรื่องความรู้สึกของการฉายหนังที่ญี่ปุ่นซึ่งตัวเองตอบกลับไปด้วยคำถามว่า"การที่คนต่างชาติมาเล่นเป็นคนญี่ปุ่นจะยอมรับไหม?"ขณะที่หลายคนตอบในเชิงสุภาพว่า"แต่ภาษายังไม่ค่อยดีนะ" เป็นคำตอบเชิงสุภาพตามสไตล์ญี่ปุ่นและยังมีการพูดคุยถึงข้อสงสัยว่าทำไมผู้อำนวยการด้านโปรแกรมของเทศกาลเลือกหนังเรื่องนี้มาฉายซึ่งผู้อำนวยการระบุว่าไม่มีเหตุผลชัดเจนนอกจากดูแล้วชอบเป็นการส่วนตัว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ผู้กำกับมากประสบการณ์ยังยอมรับว่าในแง่การตลาดต่างๆหนังของตัวเองยังไม่สามารถเทียบกับมาตรฐานของประเทศอื่นๆแต่เป้าหมายของการฉายหนังในต่างประเทศจะมีผลกับมูลค่าในบางแง่มุม

"มุมแรกคือเชิงวัฒนธรรมเขากำลังตื่นตัวเขากำลังฟื้นตัวและลุกขึ้นมาทวงคืนวัฒนธรรมอย่างบ้านเราตอนนี้มีแคมเปญไปเที่ยวญี่ปุ่นลดราคาตั๋วค่อนข้างเยอะมันสะท้อนให้เห็นว่าเราก็ต้องรีบเหมือนกัน"กิตติกรกล่าว

ด้าน"ริชชี่" อรเณศดี คาบาเลส นักแสดงหน้าใหม่ของวงการซึ่งเพิ่งเปลี่ยนบทบาทมาเป็นนักแสดงยอมรับว่า ยังต้องศึกษาและเรียนรู้เรื่องการแสดงและวงการบันเทิงมากกว่านี้ ขณะที่กิจกรรมที่สนใจในตอนนี้ยังมุ่งไปที่การเรียนอยู่แม้ว่าจะยังมีเป้าหมายในด้านการแสดงในวงการบันเทิง ซึ่งริชชี่ ระบุว่า ยังต้องพยายามเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "คู่กรรม" ที่มาฉายในเทศกาลนี้ กิตติกร เปิดเผยว่า มีผู้ชื่นชอบผลงานอยู่จำนวนหนึ่ง ขณะที่กลุ่มแฟนของ "คู่กรรม" ที่เคยชื่นชอบคู่กรรมอีกรูปแบบหนึ่ง วันนี้ "คู่กรรม" เดินทางมาถึงโตเกียว เมื่อถึงวันหนึ่งจะมีการสร้างคู่กรรมอีกแบบออกมา วันข้างหน้าก็จะมีคู่กรรมอีกรูปแบบออกมาเช่นกัน

"วันหนึ่งจะมีคนทำคู่กรรมออกมาอีกรูปแบบแล้วก็จะมีคนชอบอีกแบบฝากแฟนคู่กรรมวันนี้ว่าเชื่อเถอะวันหนึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงไปโลกต้องโต ปล่อยให้มันเดินทางไปเอง" กิตติกร กล่าว

ที่ผ่านมา หนังไทยจำนวนมากสามารถสร้างการรับรู้ทางวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศเป็นอย่างดี ไม่ว่าการฉายหนังไทยในเทศกาลหนังต่างชาติจะได้รับเสียงสะท้อนอย่างไร จะส่งผลหรือไม่ส่งผลในด้านใดด้านหนึ่ง โอกาสในการพบปะ ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนมุมมองในหลากหลายด้านน่าจะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่