อินมาก แต่ไม่ถึงกับขั้นสุดนะ
มาพีคช่วงท้ายๆเรื่อง คือทหารจะถูกฝังหัวมาตลอด เราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา มีใหเ้แค่ 2 ทางเลือก เลยทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
และมาเรียนรู้ในเรื่องของความอ่อนไหว จะเห็นได้จากทหารหนุ่มที่ใช้ดนตรี เพื่อผ่อนคลายความเครียดของตนเอง และดนตรีเป็นสื่อที่ทำให้ถึงความสันติของทั้ง 2 ฝ่าย และเมื่อทหารบุกไปยึดเมืองข้าศึกก็จะมีธรรมเนียมจับผั้หญิงเชลยศึกมาบำเรออารมณ์ทางเพศทั้งกองทัพ
ตอนสุดท้ายสื่อให้เห้นความรักของเพื่อนชายชาติทหาร ที่คลุกคลีอยู่ด้วยกันมา เมื่อมีพลัดพรากย่อมเสียน้ำตาอาลัยอาวรณ์
แต่เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราเป็นทหารเด็กหนุ่มนั่น เมื่อเข้าถึงสนามรบเราก็ยิงฆ่าศึกอย่างเดียวนะ
Fury ดูแล้วร้องไห้เลยค่ะ
มาพีคช่วงท้ายๆเรื่อง คือทหารจะถูกฝังหัวมาตลอด เราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา มีใหเ้แค่ 2 ทางเลือก เลยทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
และมาเรียนรู้ในเรื่องของความอ่อนไหว จะเห็นได้จากทหารหนุ่มที่ใช้ดนตรี เพื่อผ่อนคลายความเครียดของตนเอง และดนตรีเป็นสื่อที่ทำให้ถึงความสันติของทั้ง 2 ฝ่าย และเมื่อทหารบุกไปยึดเมืองข้าศึกก็จะมีธรรมเนียมจับผั้หญิงเชลยศึกมาบำเรออารมณ์ทางเพศทั้งกองทัพ
ตอนสุดท้ายสื่อให้เห้นความรักของเพื่อนชายชาติทหาร ที่คลุกคลีอยู่ด้วยกันมา เมื่อมีพลัดพรากย่อมเสียน้ำตาอาลัยอาวรณ์
แต่เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราเป็นทหารเด็กหนุ่มนั่น เมื่อเข้าถึงสนามรบเราก็ยิงฆ่าศึกอย่างเดียวนะ