แชร์ตารางบันทึกกำไรขาดทุนพร้อมแผนภูมิแสดงผลกำไรขาดทุนของพอร์ทครับพ้มม
ไม่แน่ใจว่ามีประโยชน์ไหมนะครับ แต่ส่วนตัวใช้แล้วค่อนข้างโอเค เลยลองนำมาแบ่งเพื่อนๆดูครับ
ลิ้งครับ
http://upload.siamza.com/1550431 โหลดมาแล้วเปิดดูด้วย EXCEL นะครับพ้มม
ลิ้งสำรอง
http://www.upload-thai.com/dl/fb68e7d100912c36c612794d1297ed2b
วิธีใช้ :
1. เมื่อเปิดตารางมาจะพบตารางบันทึกข้อมูล หน้าตาดังภาพ
2. กรอกข้อมูลในคอลั่มเอถึงอีครับ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
A : date วันที่
B : Equity สินทรัพย์ในพอร์ทที่ไม่ได้เป็นตัวเงินสด
C : cash เงินสดในพอร์ท
D : PSC ตัวนี้ให้ใส่ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงของพอร์ทที่ไม่เกี่ยวกับการเทรดครับ เช่น
เติมเงิน 1 แสนบาท ให้ใส่ + 100000 ถอนเงินหนึ่งล้านบาทให้ใส่ - 1000000
E : Index สำหรับคนที่ต้องการเปรียบเทียบพอร์ทกับดัชนี ให้กรอกค่าระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลงไปครับ แต่หากต้องการเปรียบเทียบกับอย่างอื่นก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ตามสบายครับพ้มม
จบครับ วิธีใช้ มีสองขั้นตอนครับ คือเปิด และกรอกข้อมูล
ทีนี้เรามาดูส่วนเพิ่มเติมของตารางกันนะครับ
1. profits : หมายถึงกำไรขาดทุน คิดจาก สินทรัพย์รวมในวันนี้ ลบด้วยสินทรัพย์รวมเมื่อวาน – PSC ครับ นั่นคือเงินที่เติมเข้าไปหรือถอนออกมา หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เกิดจากการเทรด จะไม่นับเป็นกำไรขาดทุนครับ
2. TE : หมายถึง cash + equity นะครับ
3. PORT, SET, PIG คือระดับการเปลี่ยนแปลงของ พอร์ท เซต(ค่าที่กรอกใน index) และ ผลงานเปรียบเทียบ ตามลำดับ โดยมีวิธีคิด ดังนี้
PORT จะใช้ TE ของวันนี้ หักส่วนเงินสดที่เติมหรือถอนเทียบกับวันก่อนหน้า แต่หากในกรณีที่มีการเติมเงินเข้ามาด้วย จะคิดผลของการเติมเงินในส่วนที่เกินส่วน cash ในวันนั้น เช่น เติมเงินเข้ามา 100000 แต่ เหลือ cash 20000 แสดงว่า 80000 ถูกใช้ในการเทรด จะนำ 80000 ไปรวมมูลค่าวันก่อนหน้าคิดเป็นตัวหาร แต่หากเติมเงิน 100000 สิ้นวันมี cash 120000 ถือว่าเทรดบนสินทรัพย์เดิม ไม่ปรับส่วน
SET อิงดัชนีที่เรากรอก
PIG เอาพอร์ทลบ SET
4. %equity คือสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ทที่ไม่ได้เป็นตัวเงินสด
5. Portcash ASR, Indexcash ASR, Portindex ASR คือ ผลการดำเนินงานเฉลี่ยในช่วงเดือนที่ผ่านมาคิดจากอัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันเฉลี่ยการด้วยความผันผวน โดยไม่สนใจถึงผลของการลงทุนในตราสารอื่นๆนอกไปจากตราสารทุน และปรับความผันผวนเทียบเฉพาะในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเท่านั้น โดยข้อมูลในส่วนนี้ จะเริ่มคำนวณเมื่อกรอกข้อมูลครบเดือน
6. MR DIAG (คุณวินิจฉัย) เป็นตัวช่วยเหลือ ในกรณีที่เทรดไปแล้วพอร์ทขาดทุนโดยวัดจากระดับพอร์ทวันนี้เทียบกับเดือนที่แล้ว ข้อมูลในส่วนนี้จะเริ่มทำงานเมื่อกรอกข้อมูลไปแล้วครบเดือน โดยจะประเมินสาเหตุคร่าวๆ (ถ้ากรอกไม่ครบเดือน หรือระดับพอร์ทสูงขึ้นได้จะขึ้น no comment)
กดทางด้านล่าง จะมีให้เลือกชีทอีกแผ่นคือส่วน chart
เมื่อกรอกข้อมูลเข้าไปหนึ่งวัน จะมีหน้าตาแบบนี้
จะแสดงส่วนต่างๆแบบที่ได้อธิบายไปข้างต้นครับพ้มมม
ทีนี้ขออธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ
สำหรับส่วน MR diag
ในชาร์ท จะแสดง MR diag ของวันล่าสุดเอาไว้ครับ ลองมาดูกันนิดนึงนะครับ
1. no comment : แปรความได้สองแบบครับ 1 ใส่ข้อมูลยังไม่ครบเดือนหรือ 2 ไม่มีปัญหาอะไร พอร์ทเติบโตเรื่อยๆครับพ้ม
2. overtrading : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นบวก แสดงว่าจริงๆเราเทรดโอเค แต่ว่าเราอาจวางเงินมากไป หรืออาจคุมขนาดเงินไม่ดีครับนึกง่ายๆ ลองดูเหตุการณ์นี้นะครับ
สมมติเราทุ่มทั้งพอร์ทเลย ครับ เทรดสองครัง ครั้งแรกได้กำไร 50% ครั้งต่อมาขาดทุน 40% เราจะเหลือ 1.5*.6 = .9 ขาดทุน 10%
แต่หากเราเทรดทีละ25% ของพอร์ท เทรดครั้งแรก จะได้ .75*1+.25*1.5 = 1.125
ครั้งที่สอง .75*1+.25*.6 = .9
1.125 * .9 = 1.0125 เราจะได้กำไร 1.25% ครับ
บางทีวิธีการเทรดโอเค แต่เสี่ยงมากเกินไปก็ทำให้แพ้ได้นะครับ ตายน้ำตื้น
3. poor strategies : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นลบ แต่ INDEXCASH เป็นบวก กรณีนี้จะเกิดเมื่อเราเทรดแพ้ตลาด ในกรณีนี้ เราอาจต้องปรับปรุงวิธีการเทรดใหม่ เช่นจังหวะซื้อขาย กลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ หรือลงทุนถือหุ้นให้น้ำหนักใกล้เคียงกับดัชนีมากขึ้น หรือพิจารณาซื้อกองทุนรวมดัชนี หรือเปิด long S50 เป็นต้น
4. poor hedging : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นลบ แต่ INDEXCASH เป็นลบ แต่ PORT INDEX เป็นบวก ในกรณีนี้คือพอร์ทลดลงจากปัจจัยภาพรวม sentiment ไม่ดี ตลาดขาลง แต่พอร์ทเรายังทำกำไรได้ดีกว่า INDEX คือ ในกรณีนี้ เราอาจพิจาณา hedge against index เช่น เปิด short S50 หรือถือ negative beta assets (หลักทรัพย์ที่มักเคลื่อนไหวสวนดัชนี) เป็นต้น
5. inappropriate investments คือ ไม่มีอะไรดีเลย แนะนำให้ออกจากการเก็งกำไรในหุ้นชั่วคราว เพื่อพิจารณาทางเลือกอื่นๆที่เหมาะสมต่อไป เช่น ตราสารหนี้ ฯลฯ หรืออาจรอให้สภาพตลาดดีขึ้นก่อน เป็นขาขึ้น มีแผนการเทรดที่ดีมากขึ้น เตรียมความพร้อมของตัวเรา แล้วค่อยเข้าใหม่
ลองมาแชร์ดูคร่าวๆครับ หวังว่าจะเป็นประโยชนืไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้มีความสุขกับชาร์ตพี่ม่านครับพ้มมม
แชร์ไอเดียครับ Chart P'Marn (CPM, ชาร์ตพี่ม่าน) : ตารางบันทึกกำไรขาดทุน พร้อมวิธีใช้ สนใจเข้ามาดูได้ครับพ้มมม
ไม่แน่ใจว่ามีประโยชน์ไหมนะครับ แต่ส่วนตัวใช้แล้วค่อนข้างโอเค เลยลองนำมาแบ่งเพื่อนๆดูครับ
ลิ้งครับ http://upload.siamza.com/1550431 โหลดมาแล้วเปิดดูด้วย EXCEL นะครับพ้มม
ลิ้งสำรอง http://www.upload-thai.com/dl/fb68e7d100912c36c612794d1297ed2b
วิธีใช้ :
1. เมื่อเปิดตารางมาจะพบตารางบันทึกข้อมูล หน้าตาดังภาพ
2. กรอกข้อมูลในคอลั่มเอถึงอีครับ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
A : date วันที่
B : Equity สินทรัพย์ในพอร์ทที่ไม่ได้เป็นตัวเงินสด
C : cash เงินสดในพอร์ท
D : PSC ตัวนี้ให้ใส่ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงของพอร์ทที่ไม่เกี่ยวกับการเทรดครับ เช่น
เติมเงิน 1 แสนบาท ให้ใส่ + 100000 ถอนเงินหนึ่งล้านบาทให้ใส่ - 1000000
E : Index สำหรับคนที่ต้องการเปรียบเทียบพอร์ทกับดัชนี ให้กรอกค่าระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลงไปครับ แต่หากต้องการเปรียบเทียบกับอย่างอื่นก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ตามสบายครับพ้มม
จบครับ วิธีใช้ มีสองขั้นตอนครับ คือเปิด และกรอกข้อมูล
ทีนี้เรามาดูส่วนเพิ่มเติมของตารางกันนะครับ
1. profits : หมายถึงกำไรขาดทุน คิดจาก สินทรัพย์รวมในวันนี้ ลบด้วยสินทรัพย์รวมเมื่อวาน – PSC ครับ นั่นคือเงินที่เติมเข้าไปหรือถอนออกมา หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เกิดจากการเทรด จะไม่นับเป็นกำไรขาดทุนครับ
2. TE : หมายถึง cash + equity นะครับ
3. PORT, SET, PIG คือระดับการเปลี่ยนแปลงของ พอร์ท เซต(ค่าที่กรอกใน index) และ ผลงานเปรียบเทียบ ตามลำดับ โดยมีวิธีคิด ดังนี้
PORT จะใช้ TE ของวันนี้ หักส่วนเงินสดที่เติมหรือถอนเทียบกับวันก่อนหน้า แต่หากในกรณีที่มีการเติมเงินเข้ามาด้วย จะคิดผลของการเติมเงินในส่วนที่เกินส่วน cash ในวันนั้น เช่น เติมเงินเข้ามา 100000 แต่ เหลือ cash 20000 แสดงว่า 80000 ถูกใช้ในการเทรด จะนำ 80000 ไปรวมมูลค่าวันก่อนหน้าคิดเป็นตัวหาร แต่หากเติมเงิน 100000 สิ้นวันมี cash 120000 ถือว่าเทรดบนสินทรัพย์เดิม ไม่ปรับส่วน
SET อิงดัชนีที่เรากรอก
PIG เอาพอร์ทลบ SET
4. %equity คือสัดส่วนสินทรัพย์ในพอร์ทที่ไม่ได้เป็นตัวเงินสด
5. Portcash ASR, Indexcash ASR, Portindex ASR คือ ผลการดำเนินงานเฉลี่ยในช่วงเดือนที่ผ่านมาคิดจากอัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันเฉลี่ยการด้วยความผันผวน โดยไม่สนใจถึงผลของการลงทุนในตราสารอื่นๆนอกไปจากตราสารทุน และปรับความผันผวนเทียบเฉพาะในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเท่านั้น โดยข้อมูลในส่วนนี้ จะเริ่มคำนวณเมื่อกรอกข้อมูลครบเดือน
6. MR DIAG (คุณวินิจฉัย) เป็นตัวช่วยเหลือ ในกรณีที่เทรดไปแล้วพอร์ทขาดทุนโดยวัดจากระดับพอร์ทวันนี้เทียบกับเดือนที่แล้ว ข้อมูลในส่วนนี้จะเริ่มทำงานเมื่อกรอกข้อมูลไปแล้วครบเดือน โดยจะประเมินสาเหตุคร่าวๆ (ถ้ากรอกไม่ครบเดือน หรือระดับพอร์ทสูงขึ้นได้จะขึ้น no comment)
กดทางด้านล่าง จะมีให้เลือกชีทอีกแผ่นคือส่วน chart
เมื่อกรอกข้อมูลเข้าไปหนึ่งวัน จะมีหน้าตาแบบนี้
จะแสดงส่วนต่างๆแบบที่ได้อธิบายไปข้างต้นครับพ้มมม
ทีนี้ขออธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ
สำหรับส่วน MR diag
ในชาร์ท จะแสดง MR diag ของวันล่าสุดเอาไว้ครับ ลองมาดูกันนิดนึงนะครับ
1. no comment : แปรความได้สองแบบครับ 1 ใส่ข้อมูลยังไม่ครบเดือนหรือ 2 ไม่มีปัญหาอะไร พอร์ทเติบโตเรื่อยๆครับพ้ม
2. overtrading : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นบวก แสดงว่าจริงๆเราเทรดโอเค แต่ว่าเราอาจวางเงินมากไป หรืออาจคุมขนาดเงินไม่ดีครับนึกง่ายๆ ลองดูเหตุการณ์นี้นะครับ
สมมติเราทุ่มทั้งพอร์ทเลย ครับ เทรดสองครัง ครั้งแรกได้กำไร 50% ครั้งต่อมาขาดทุน 40% เราจะเหลือ 1.5*.6 = .9 ขาดทุน 10%
แต่หากเราเทรดทีละ25% ของพอร์ท เทรดครั้งแรก จะได้ .75*1+.25*1.5 = 1.125
ครั้งที่สอง .75*1+.25*.6 = .9
1.125 * .9 = 1.0125 เราจะได้กำไร 1.25% ครับ
บางทีวิธีการเทรดโอเค แต่เสี่ยงมากเกินไปก็ทำให้แพ้ได้นะครับ ตายน้ำตื้น
3. poor strategies : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นลบ แต่ INDEXCASH เป็นบวก กรณีนี้จะเกิดเมื่อเราเทรดแพ้ตลาด ในกรณีนี้ เราอาจต้องปรับปรุงวิธีการเทรดใหม่ เช่นจังหวะซื้อขาย กลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ หรือลงทุนถือหุ้นให้น้ำหนักใกล้เคียงกับดัชนีมากขึ้น หรือพิจารณาซื้อกองทุนรวมดัชนี หรือเปิด long S50 เป็นต้น
4. poor hedging : ในกรณีที่พอร์ทเริ่มดิ่งลง หาก PORTCASH มีค่าเป็นลบ แต่ INDEXCASH เป็นลบ แต่ PORT INDEX เป็นบวก ในกรณีนี้คือพอร์ทลดลงจากปัจจัยภาพรวม sentiment ไม่ดี ตลาดขาลง แต่พอร์ทเรายังทำกำไรได้ดีกว่า INDEX คือ ในกรณีนี้ เราอาจพิจาณา hedge against index เช่น เปิด short S50 หรือถือ negative beta assets (หลักทรัพย์ที่มักเคลื่อนไหวสวนดัชนี) เป็นต้น
5. inappropriate investments คือ ไม่มีอะไรดีเลย แนะนำให้ออกจากการเก็งกำไรในหุ้นชั่วคราว เพื่อพิจารณาทางเลือกอื่นๆที่เหมาะสมต่อไป เช่น ตราสารหนี้ ฯลฯ หรืออาจรอให้สภาพตลาดดีขึ้นก่อน เป็นขาขึ้น มีแผนการเทรดที่ดีมากขึ้น เตรียมความพร้อมของตัวเรา แล้วค่อยเข้าใหม่
ลองมาแชร์ดูคร่าวๆครับ หวังว่าจะเป็นประโยชนืไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้มีความสุขกับชาร์ตพี่ม่านครับพ้มมม