[พลีชีพ] จาก 83 สู่ 58 ไม่ยากอย่างที่คิด แค่ "เริ่ม"

กระทู้สนทนา
** ไม่ได้ใช้ยาลดน้ำหนัก หรืออาหารเสริมใดๆทั้งสิ้น

อยากแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักแบบผิดๆถูกๆ ของตัวเองค่ะ

น้ำหนักก่อนลดคือ 82-83 สูง165 ค่ะ (แบบไม่ไหวล้าว ตัวใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกก )

ปัจจุบันเหลือ 58.5 ค่ะ (กะจะให้ได้ 53 แบบไม่รีบเรื่อยๆตอนนี้)


    เป็นคนที่อ้วนมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะเพื่อนแม่ ก็ชอบมาหยิกแก้ม บอกน่ารักๆ
อย่างว่าแหละ ตอนเด็กจ่ำม่ำ กลมกลิ้งอะไรก็น่ารักไปหมด = = พอโตมาหน่อยเริ่มโดนล้อ ชักโกรธแล้วสิ....แต่ก็กินต่อไป
ขึ้นม.ปลาย หนัก 75 ก็ยังคงไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้น
ข้าวเช้าแตะแทบแมวดม แต่!!!! เวลาทานข้าวเที่ยงต้องคู่น้ำหวานตลอด ปิดท้ายหลังทานข้าวด้วยขนมตามใจปากในปริมาณที่ตามใจตัวเองเช่นกัน
อย่างกล้วยทอด เครปญี่ปุ่น หรือไม่ก็ขนมกรุบกรอบ  ไม่พอค่ะ เลิกเรียนปุ๊บบบบ ลูกชิ้นทอดทีละสี่ห้าไม้ รอแม่มารับกลับบ้าน
กลับบ้านทานข้าวเย็นอย่างอลังกาล(ปริมาณ) ทำพฤติกรรมแบบนี้ ต่อเนื่อง เหมือนมันเป็นเรื่องปกติ โดยไม่รู้ร้อนหนาวอะไรอีกตามเคย

พอเข้ามหาลลัยปุ๊บ น้ำหนักเราเข้าหลักแปด เริ่มสะกิดใจแล้ว
ถึงไซส์กระโปรงหรือเสื้อ ที่มันค่อนข้างใหญ่ แล้วพอใส่ก็ตั้งคำถามเสมอว่าทำไม ใส่แล้วไม่สวยเหมือนเพื่อน ใส่แล้วตัวใหญ่ๆน่าเกลียดสุดๆ
ถึงจะคิดได้แต่ก็ ยังทำพฤติกรรมเหมือนเดิมคือ การอยู่เพื่อกิน ค่ะ ยิ่งหนักกว่าเดิมซะอีก อยากกินอะไร เวลาไหน ตอนไหน ก็เดินไปหน้าหอเข้าเซเว่นเพื่อนซื้อสิ่งที่อยากกิน
     ข้าวยามดึก(เราเรียนเกี่ยวกับศิลป์ จะได้ทำงานโต้รุ่งบ่อยๆค่ะ) ช่วงไหนมีตังหน่อยก็ชอบที่จะซื้อข้าวกล่องเซเว่นมากินที่ละสองกล่อง ไม่พอจะต้องมีขนมปังอะไรซักอย่างอีกอันกินควบคู่ไปด้วยกับข้าวสองกล่องนั้น!!!!! ไม่พอ น้ำเปล่าที่หอไม่อร่อยมันจืด ต้องชาเขียวซักขวด!!
     ส่วนถ้าวันไหนไม่มีตังก็จะไปตุนอาหารเด็กหออย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้เยอะๆค่ะ กินทีต้องสองซอง กินจนตัวบวมน้ำไปข้าง = =

ทำแบบนี้ตลอดที่อยู่ปีหนึ่งเลยค่ะ คือถ้าปากว่างเมื่อไหร่จะหงุดหงิด ไม่เป็นอันทำอะไร
จนน้ำหนักพุ่งไป 82 ปัญหามากมายมันเริ่มเข้ามาเยอะแยะ ป่วยบ่อย ป่วยนาน ขึ้นบันไดขึ้นสูงๆแล้วหอบเหมือนคนใกล้ตายอ่ะค่ะ
เรื่องเสื้อผ้าไม่ต้องพูดถึง มีแต่เสื้อยืด กับกางเกงขาสั้นลายการ์ตูน ใส่แบบนั้นตลอด เพราะไปหาเสื้อกางเกงใส่ยาก เลยปลงกับมันโดยการไม่ตามเทรนด์อะไรเลย   แล้วเวลาจะขอซ้อนมอไซเพื่อน เขาก็จะเกี่ยงกัน บอกว่าให้เราซ้อนไม่ไหวหรอก "หนัก " เราสะเทือนใจมากๆแต่ก็ไม่พูดอะไร
    เก็บไปคิดว่ามันเป็นแบบนี้เพราะใคร ก็เลยวางแผนว่าปิดเทอมหกเดือนที่ฉันจะขึ้นปีสองฉันจะลดน้ำหนัก ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวเอง เพื่อสุขภาพตัวเองด้วย

"แต่"

ด้วยความที่ เข้าใจอย่างผิดๆว่า การลดน้ำหนักการ อด อด อด กินให้น้อย น้อย น้อยยยย น้อยได้เท่าไหร่ดีที่สุด
เราเลยเริ่มวิธีผิดด้วยการ ตัดแป้ง ตัดน้ำตาล ตัดเนื้อสัตว์ออกไปจากชีวิต

กินแค่มื้อเช้ามื้อเดียว คือจบ....
ซึ่งมื้อเช้าที่ว่า มีแค่ (ซาก)เห็ดโคนญี่ปุ่นต้มน้ำถ้วยเล็กๆ ซดพอกันตาย แล้วหลังจากมื้อนั้นก็ไม่แตะอะไรอีกเลย
น้ำหนักลดฮวบบบบเร็วมากชนิดที่ว่าวันละโลเลยทีเดียวในหนึ่งอาทิตย์ แต่ผลเสียที่ตามมาอย่างร้ายแรงคือ เราหน้ามืดจะเป็นลมตลอดวัน
ระบบขับถ่ายแย่มากถึงมากที่สุด

พอทำแบบนี้มาครึ่งเดือน ตาเราโบ๋เลยค่ะ ผอมลงแบบโทรมๆเหมือนคนอดอยาก ไม่แข็งแรง
เราเลยบอกกับตัวเองว่าไม่ดีแน่
ต่อมาเลยลองเริ่มวิถีใหม่(หาข้อตามเว็บสุขภาพต่างๆ)ด้วยการเพิ่มปริมาณอาหารในสัดส่วนที่พอเหมาะ ทานทุกมื้อ เน้นผักและโปรตีนเยอะๆ (จากไก่และถั่วเหลืองซะส่วนใหญ่) คาร์บและน้ำตาลปริมาณน้อยๆ  แต่เพิ่มการออกกำลังกายทุกวัน โดยการฮูลาฮูป 1 ชม. และเพิ่มกิจกรรมทางกายอย่างการพาสุนัขไปเดินเล่นตอนเช้า  ถ้ารู้สึกอยากทานขนม จริงๆ ก็จะนึ่งฟักทองทานกันได้ทั้งครอบครัว
   แล้วก็ทำแบบนี้มาตลอดปิดเทอม อย่างไม่ทรมานตัวเองแบบตอนแรก ทำมาเรื่อยๆ ถึงจะลดช้า แต่ก็มั่นคง คือน้ำหนักไม่เพิ่มเลย  จนถึงตอนนี้เราก็ยังคงควบคุมอยู่ถึงแม้จะเปิดเทอมแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่เราก็เพิ่มกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น อย่างการเดิน เดิน เดิน และเดินเพื่อไปไหนมาไหน

ไม่ค่อยมีรูปนะคะ
มีแต่รูปทีเผลอเพราะเป็นคนไม่ชอบกล้อง 5555



อันนี้ตอนมอปลายค่ะ คอไม่มีเลย ฮือ


โอยยยย ตัวจะแตกแล้ว หนัก81




อันนี้ปัจจุบันค่ะ  หนัก 58.5
(ไม่ได้ถ่ายเต็มตัวเลย ขอโทษนะคะ T.T)





ตัดผมแล้ววว






การลดน้ำหนักไม่ยาก ไม่ต้องเพิ่งยาด้วย ท่องไว้ แค่ " ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร "

ตอนนี้ไม่อยากกลับไปเป็นเมือนเดิมแล้ว เพราะชีวิตแฮปปี้ขึ้นเยอะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ลดความอ้วน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่