เริ่มต้นจากเอกสารที่เตรียมไปทั้งหมด มีดังนี้
1. ใบยืนยัน DS-160
2. passport
3. ใบนัดสัมภาษณ์
4. ใบทะเบียนพาณิชย์
5. statement (245,000)
6. หนังสือเชิญช่วยงานกฐินของทางวัด

บทสัมภาษณ์
จนท : สวัสดีครับ
ฉัน : สวัสดีค่ะ
จนท : ไปทำไรที่เมกาครับ
ฉัน : ไปช่วยงานวัดค่ะ ยืนเอกสารจดหมายแล้วก็ทุกอย่างให้พร้อมกัน
จนท : ไปกี่วันครับ
ฉัน : 2 สัปดาห์ค่ะ
จนท : ทำไมถึงไปช่วยที่วัดนี้ครับ
ฉัน : พระอาจารย์กับแม่เป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ แล้วก็ทราบว่าทางครอบครัวของเรามีธุรกิจขายเครื่องใช้สำนักงานแล้วก็สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกได้ ท่านจึงขอให้ไปช่วยงานค่ะ
จนท : คุณทำอะไรครับ
ฉัน : มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เกี่ยวกับขายเครื่องใช้สำนักงานแล้วก็ออกแบบสินค้าสำหรับการจัดงานค่ะ
จนท : เปิดเอกสารผ่านๆตา แต่ไม่ถึงใบทะเบียนพาณิชย์ แล้วก็อ่านจดหมายอย่างละเอียด อืมๆ ok อืมๆ ok แล้วก็บอกว่าให้รอตรงนี้ก่อนเดียวมา แล้วหยิบจดหมายเราไปคุยกับ จนท อีกช่องหนึ่ง
จนท : คุณมีรายได้ 15,000-20,000 ต่อเดือน? ดูจากหน้าคอม
ฉัน : ใช่ค่ะ
จนท : ไปช่วยได้เงินไหม
ฉัน : ไม่ได้ค่ะ
จนท : พ่อแม่เคยไปเที่ยวเมริกาหรือป่าว
ฉัน : (ตื่นเต้นมากตอบทันที) ไม่เคยค่ะ (มานึกได้ตอนหลัง พ่อเคยขอวีซ่าท่องเที่ยวได้แต่ไม่ได้ไป ส่วนแม่เคยมาขอแต่ไม่ผ่าน) ไม่รู้ว่าข้อมูลจะ show หรือป่าว!!
จนท : มีแพลนเที่ยวต่อไหม
ฉัน : ไม่มีค่ะ ช่วยงานเสร็จกลับมาดูแลกิจการทันที
จนท : เสียใจด้วยนะครับ เราอนุมัติวีซ่าให้คุณไม่ได้ เพราะคุณไม่มีพันทะผูกพันกับประเทศนี้
ฉัน : ??! ฉันมีธุรกิจนะคะ
จนท : ไม่เหมาะสมตามมาตรา...ครับ ตามในใบนี้ครับ เสียใจมากครับ
ฉัน : หน้าเสีย หยิบเอกสาร ขอบคุณค่ะ เข่าอ่อนเหมือนคนหมดสติ งงค่ะว่าทำไม

//อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร? สันนิฐานไว้ว่า
1. ข้อมูลพ่อกับแม่ขึ้นหรือป่าวว่าเคยมาขอวีซ่า
2. เค้าไม่เห็นใบทะเบียนพาณิชย์เรา (ปล.พึ่งจดเป็นชื่อตนเองเมื่อ 1 ก.ย 57 //สัมภาษณ์วีซ่า 17 ก.ย)

แล้วอยากทราบว่าถ้าจะกลับไปขอใหม่อีก 1 สัปดาห์แล้วยืนใบทะเบียนพาณิชย์กับstatement ให้ดูอีกครั้งอย่างชัดเจน แล้วให้เหตุผลที่ต้องรีบขออีกครั้งหลังถูกปฏิเสธว่า งานกฐินพระราชทานกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมนี้แล้ว กลัวไม่ทันไปช่วยงาน จะมีโอกาสไหมค่ะ รบกวนชาว pantip ช่วยด้วยค๊า