ขอบคุณ คสช.ที่คืนความสุขให้กับคนใต้

กระทู้สนทนา
แม้ว่าช่วงนี้ พี่น้องทางภาคใต้จะกลายเป็นโรคสำลักนกหวีดลงคอกันเป็นแถว สืบเนื่องมาจากราคายางที่ตกต่ำดิ่งเหวจนหน้าตาเหี่ยวแห้งกันไปตามๆกัน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น  นั่นคือการกลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติเหมือนมนุษย์ปุถุชนธรรมดากันเหมือนเดิม

หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา  คนภาคใต้เหมือนถูกมนต์ดำแห่งความชั่วร้ายเข้าครอบงำ จนไม่เป็นอันทำมาหากินอะไร  วันๆนั่งจ้องแต่บลูกระบือ  ไม่ก็เปิดวิทยุท้องถิ่นที่ส่งเสียงตามสายปลุกระดมทั้งวันทั้งคืน

บ่องตงว่า ผมอยู่ภาคใต้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองซอมบี้ ที่ผู้คนถูกสะกดจิตกันทั้งเมือง

จะไปนั่งกินอาหารปักษ์ใต้อร่อยๆ บรรยากาศสบายๆ  ก็ต้องมานั่งทนฟังเสียงนกหวีด เสียงตะโกนด่าปลุกระดมจากช่องบลูกระบือ  แถมส่วนใหญ่หลายๆร้านอย่างเช่นร้านคุณหญิงที่นครศรีธรรมราช เปิดโทรทัศน์เสียงดังมาก ราวกับอยู่ในที่ชุมนุม ปรกติผมเคยไปนั่งกินร้านนี้ประจำ อาหารอร่อยมาก  จนตั้งแต่มีม็อบผมก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปแดรก (อุ๊ย ขอโทษ จะบอกว่ารับประทานฮ่ะ) ร้านนี้อีกเลย

ลูกค้าหลายๆร้าน แทนที่จะตั้งใจทำมาค้าขาย คุยกันเรื่องสินค้า ก็คอยตั้งหน้าตั้งตาจะคุยแต่เรื่องการเมือง ในหัวสมองหมกมุ่นอยู่แต่คำว่าปฏิรูป  บางร้านบอกวันนี้ตื่นสาย เพิ่งเปิดร้านเพราะเมื่อคืนไปเป่านกหวีดถึงตีหนึ่งตีสองที่ศาลากลางจังหวัด  ที่น่าขำก็คือ เสรือกมาบ่นว่าตลาดเงียบขายไม่ดี การค้าซบเซา ไม่มีนักท่องเที่ยว  ( เมริงขยันประท้วงกันแบบนี้ คงจะมีคนอยากมาเที่ยวหรอกนะ ดีออก )

บางร้านปิดร้านบ่อยมากๆ เพราะมัวแต่ขึ้นๆลงๆปักษ์ใต้ กรุงเทพ  เพื่อไปช่วยลุงกำนันประท้วง  แต่ร้านตัวเองใกล้เจ๊งเต็มที เพราะมัวแต่ปิดร้านเพื่อจะไปปิดกรุงเทพ  พูดคำสวยหรูบอกว่าเราต้องปฏิรูปประเทศ  ผมแอบนึกในใจว่า ก่อนจะปฏิรูปประเทศ เมริงมาปฏิรูปร้านเมริงก่อนดีมั๊ย  อย่าดึงเช็คกรูยาวนัก กรูเหนื่อย

แถวหาดใหญ่ ปรกติจะมีพวกร้านน้ำชาข้างถนน วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ชอบมานั่งจิบน้ำชาดูวิดิโอจอเล็กๆ  หรือช่วงที่มีถ่ายทอดบอลก็จะดูบอล  แต่ช่วงที่มีม็อบ ก็จะเปิดแต่เวทีปลุกระดมทั้งวันทั้งคืน  ผู้คนตั้งหน้าตั้งตาดูเหมือนเชียร์บอลโลก  ช่วงสุเทพดรามาบีบน้ำตา คนนั่งดูหน้าจอบางคนถึงกับร้องไห้ตามเหมือนญาติตัวเองเสีย

จังหวัดตรัง อุบาทว์ที่สุด เพราะใช้เสียงตามสายที่มาตามเสาไฟฟ้ายัดเยียดปลุกระดมตั้งแต่แปดโมงเช้า  ขนาดโรงแรมเป็นห้องแอร์เสียงยังดังรอดเข้ามาปลุก  ผมนั่งขี้อยู่ในห้องน้ำยังได้ยินชัด ขี้แทบไม่ออก   ซัด

ตลาดนัด ถนนคนเดิน แทนที่จะมีเสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆ  กลับมีแต่เสื้อปลุกระดมไปกู้ชาติ ไปปฏิรูป ไปช่วยลุงกำนัน ไปช่วยชัดดาวน์กรุงเทพ เสื้อเรารักกำนัน ฯลฯ  นกหวีด สายรัดข้อมือ ธงชาติคอลเลคชั่นต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าก็นั่งจ้องแต่บลูกระบือ  ไม่ก็ฟังวิทยุชุมชนล้างสมอง  ไม่มีกะใจจะขายของ   เดินในตลาดเหมือนมีความรู้สึกว่าอยู่ในเมืองซอมบี้จริงๆ

ขับรถบนทางหลวง ทางแยกบางช่วง พอตอนติดไฟแดง จะมีพวกตั้งโต๊ะเรี่ยไร ดักยืนโบกธงชาติกันสลอน มาเดินขอทานเงินบริจาคตามรถที่จอด  ไม่ให้ก็กลัวพวกมันจะทำร้าย ดูแต่ละคนก็หน้าตาน่ากลัวทั้งนั้น  หาคนหน้าตาดีแบบ จขกท ไม่ได้สักคน

ขับรถขึ้นล่อง ก็ต้องคอยเช็คข่าวตลอดว่าวันนี้มันจะปิดถนนสายไหน ต้องขับไปอ้อมกี่กิโล บางวันอยู่ในเมือง พวกมันก็ยกพวกไปบังคับให้ปิดโรงเรียน ปิดสถานที่ราชการ ทำการจราจรติดขัด คนไปติดต่องานราชการก็ไม่ได้ เดือดร้อนกันทั่ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าบ่น กลัวโดนด่าว่าไม่รักชาติ

ที่กล่าวมาทั้งหมด  เป็นอดีตไปแล้ว คนใต้กลับมาใช้ชีวิตตามปรกติ  ถึงยางจะเหลือกิโลไม่ถึงห้าสิบบาท ก็จะไม่ออกมาปิดถนนกันอีกแล้ว เพราะมีคนใต้บางคนบอกว่า  ไม่เดือดร้อน  เพราะปลูกยางมานาน เลยจุดคุ้มทุนมาแล้ว  ( เพิ่งเลยจุดคุ้มทุนตอน รปห.พอดี  สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน เลยต้องออกมาประท้วง เสียงห่านว่าพรรณนั้น)


ขอบคุณ คสช.อีกครั้ง  ที่คืนความสุขให้กับคนใต้


ปล.ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน    ถ้าฆ่าคนส่งเรื่องไปดองไว้ที่ ปปช.นะโยม

เจริญพวง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่