New York ฉบับนักเดินทางมือใหม่ ...14 คืน กับนครแห่งเสรี และประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม



สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ยิ้ม
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนะคะต้องขออภัยที่เป็นทั้งมือใหม่ในการเขียน และแถมยังเป็นนักเดินทางมือใหม่ที่ไม่ประสีประสาเลยค่ะ

วาฬ (ชื่อนี้เพื่อนสนิทเรียก เรียกตามขนาดตัวค่ะ) เพิ่งเคยเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่เคยย่างก้าวออกไปไหนเลยค่ะ ขนาดอยู่ไทยมาตั้งเกือบ 22 ปี ยังไปเที่ยวในประเทศไม่กี่ครั้งเองค่ะ (น่าตีที่สุด) แต่หลังจากได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว เปิดหูเปิดพุง ที่นครแห่งนี้ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปค่ะ....
ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนค่ะ ว่าตัวเองไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง ยิ่งถ้าพูดถึง NYC ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยค่ะ....เพราะค่าครองชีพก็สูงมาก เดินทางก็ไกลมาก ตัวเองเพิ่งเรียนจบทำงานกำลังจะเข้าปีแรก ก็เลยคิดว่า เราคงได้ไปเที่ยวต่างประเทศจริงๆ ก็คงอีกหลายปี

แต่เหมือนฟ้ามาโปรดค่ะ มีเพื่อนมาชวนไปด้วยกันเพราะเค้ามีเพื่อนอยู่ที่โน้น, ตอนแรก คิดเล่นๆว่า อยากไปแต่คงไม่มีปัญญาจะไป ไหนจะเงิน ไหนจะงาน สุดท้ายก็ได้ไปแบบงงๆค่ะ  คิดแพลนไว้ตอนปลายปีที่แล้วค่ะ มาตัดสินใจตอนต้นมกราคม ปีนี้ค่ะ

ถามว่าทำไมถึงเป็น NYC .....ญาติบางคนบอกว่า แกบ้าวะ เงินที่ต้องใช้ไปมันเท่าไหร่รู้ไหม ทำไมไม่ไปประเทศที่มันมีธรรมชาติ วัฒนธรรมที่สวยกว่านี้ นิวยอร์กมันมีแต่แสงสีเสียง จะไปดูห่าอะไร ใกล้ๆก็มี  บ้างก็ว่ายุโรปดีกว่าตั้งเยอะ ...หลายเสียงที่พูดกันมา แต่เหตุผลของวาฬคือ....
เราโตมากับหนังของอเมริกัน ฉากฆาตกรรมก็นิวยอร์ก ฉากซึ้งๆแบบ Sleepless in seattle ก็นิวยอร์ก อีกทั้งวาฬยังเป็นสาวกตัวยงของนักร้องอเมริกันหน้าแมว คิดว่ายังไงเราก็ต้องไปเหยียบนครแห่งนี้ บางทีเหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นี้อาจจะเป็นเหตุผลงี่เง่าของเรา แต่มันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและหล่อเลี้ยงหัวใจเสมอมาค่ะ (ละครไปนิดค่ะ 555)


วาฬจะเขียนตั้งแต่เริ่มขอ Visa เลยนะคะ แบบคร่าวๆค่ะ

ขั้นแรกของการเดินทางไป NYC คือต้องขอ Visa ให้ผ่าน ซึ่งบางคนบอกหินมากกกกก ไอ้เราก็อะไรมันจะยากขนาดนั้นฟะค่ะ ....
ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ต้องรับรหัส PIN  เปลี่ยนเป็นมาทำบนระบบออนไลน์หมดเลยค่ะ
ขั้นตอนแรกๆของการ ขอ VISA คือ เข้าไปดูรายละเอียดการยื่นขอวีซ่าได้ในลิ้งนี้เลยค่ะ http://www.ustraveldocs.com/th/th-niv-visaapply.asp

วาฬเดินทางไปตอนช่วงเดือนพฤษภาคมค่ะ เลยนัดสัมภาษณ์ไว้ประมาณเดือน มีนาคม ช่วงประมาณวันที่ 21 ค่ะ
วันไปสัมภาษณ์วันแรกประหม่ามากค่ะ ทำตัวไม่ถูก สั่นไปหมด เพราะดูจากประสบการณ์การทำงานเราทำยังไม่ถึงปี 10 เดือน เงินในบัญชีก็มีไม่เยอะค่ะ ไม่ถึงสองแสงด้วยซ้ำไปค่ะ แถมเคยถามว่าจดหมายเชิญจากเพื่อนของเพื่อนจะช่วยได้ไหม ก็ยังไม่รู้เลยค่ะ

ปรากฎว่า.......การสัมภาษณ์ครั้งแรก เหลวไม่เป็นท่าค่ะ.......คนสัมภาษณ์อเมริกันพูดดังๆให้ชัดๆ ทะลุเข้าไปถึงหูส่วนหลังว่า " I don't care! " โอ้ยยยยย จะบ้าาาตาย เพราะตอนเค้าสัมภาษณ์เค้าถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเรา กับเพื่อนของเพือนเรา (งงไหมคะ) เค้าอยากรู้ว่า เพื่อนเราคนนี้ที่บอกจะไปด้วยกันเนี้ย ไปรู้จักกับเพื่อนอเมริกันได้ยังไง วาฬก็ เอ่อะ.....พูดไม่ออก ตะลึง ไม่คิดว่าเค้าจะถาม ก็เลยทำท่าทางเลิกลั่ก (อันนี้ผิดเต็มประตูค่ะ เพราะเคยได้ยินมาว่ายิ่งเลิกลั่ก มันยิ่งผิดสังเกตุ) ไม่มีเจตนาจะไปแล้วไม่กลับเหมือนกับที่เค้ากลัวๆกัน แต่มันตอบไม่ถูก แถมไม่รู้ด้วยค่ะ ว่าเค้าไปรู้จักกันยังไง จะคิดคำโกหกก็ไม่ทัน .....ก่อนจะจากกันวาฬเลยถามเค้าว่า ยู จะไม่ดูจดหมายเชิญหน่อยหลอ ตาคนนี้ก็ลุกยืนแล้วก็ยืนกระดาษสีขาวๆ พูดเสียงดังๆว่า I don't care!! แถมทำดุ ดูท่าทางเบื่อหน่ายมาก สรุปง่ายๆคือไม่ให้เข้าจ้าาาาา

จากนั้นพอสัมภาษณ์รอบแรกไม่ผ่านก็โกรธมากค่ะ โกรธทุกอย่าง โกรธตัวเอง โกรธตาบ้านั่น โกรธไปหมด 5555 แต่บอกกับทางบ้านว่าถ้ารอบนี้ไม่ผ่านก็ไม่ไปแล้ว ลืมบอกไปค่ะว่าซื้อตั๋วเครื่องบินไปแล้วค่ะ ซื้อตอนช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ มีแต่คนบอกเมิงบ้ามาก ยังไม่ทันขอวีซ่าได้แล้วจะซื้อตั๋วไปก่อนทำไมเล่าาา แต่ตอนนั้นมีตั๋วของ Emirates ในราคา 39,XXX ไปกลับ เป็นเครื่อง A380 ลงที่ JFK Airport พอดึ โทรไปถามทางคอลเซ็นเตอร์ก็บอกว่า ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นแล้วค่ะ จองได้อีกแค่ 2 วันเท่านั้น  ดูสายการบินอื่นราคา 45K Up ทั้งนั้นเลยค่ะ ปรึกษากับทางเพื่อน ก็เลยซื้อเลยทันที ไม่คิดไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า เมิงจะอดไปเพราะวีซ่าไม่ผ่านเนี้ยยยยยย

รอบที่สองนัดได้ตอนวันที่ 1 เมษายนพอดีค่ะ รอบบ่ายโมง ครั้งแรกไปรอบเช้า เลยลองเปลี่ยนช่วงเวลาบ้าง เอาเคล็ดค่ะ 5555
รอบนี้ไม่ตื่นเต้นเหมือนครั้งก่อน ไปสบายๆ พอตอนเค้าเรียกเข้าสัมภาษณ์ วาฬเงยหน้าไปมองตาคนนั้น เฮ้ยยยย อย่านะแกก อย่าาา ไม่เอาคนเดิม ภาวนาในใจ สุดท้ายพี่คนข้างหน้าเค้าเลือกตาคนนั้นค่ะ เราเลยโล่งใจ วิ่งไปช่องแรก เจอคนอเมริกันเหมือนเดิมแต่ดูใจดีและทักแบบภาษาไทยว่า "ซาหวาดดีคร้าบ" เจอครั้งแรกวาฬยิ้มเลย เค้าน่ารักมาก พูดไทยตลอด ถามเรื่องงาน ถามว่าไปทำไมครับ เดินทางยังไง แล้วที่ทำงานไม่ว่าหลอครับ เราก็ตอบไปตรงๆ ถามไม่กี่คำถามก็ให้ผ่านค่ะ แล้วพูดทิ้งท้ายว่า เที่ยวให้สนุกนะครับ Congratulations

หลังจากนั้นอีกไม่นาน ประมาณ 7 วัน วีซ่าก็ถูกส่งมายังเจ้าของที่เปิดกล่องรับพัสดุดูทุกวันเช้าเย็น ได้มา10 ปีค่ะ ไปครั้งนี้ครั้งแรก ไม่รู้จะได้มีโอกาสได้ไปอีกหรือเปล่า แหะๆ

เส้นทางและแผนที่

วาฬศึกษาเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วยตัวเอง จากหนังสือ Lonely planet เล่มนี้เลยค่ะ  รวมถึงกระทู้ต่างๆของ บรรดาปรมาจารย์ในห้องบลูแพลนเน็ตทั้งหลาย ช่วยได้เยอะเลยค่ะ

เล่มนี้จะรวบรวมสถานที่ที่น่าสนใจ สถานที่ยอดฮิต แล้วก็เส้นทางการเดิน แบบฉบับนักเดินทางที่อยู่ไม่นานมากค่ะ มีทั้งเรทราคาโรงแรมทั้งที่ถูกและแพง รวมถึงร้านอาหาร >แต่เอาจริงๆ วาฬตามบ้างไม่ตามบ้างค่ะ แล้วแต่สะดวกมากกว่าค่ะ

พอยิ่งใกล้วันจะเดินทาง ยิ่งตืนเต้น ( นึกแล้วก็ขำตอนแรกๆที่ขอทางบ้าน พี่สาวบ่นว่า นี้ฉันไปเมืองนอกมาหลายครั้งก็จริง แต่ฉันไปแค่ประเทศเพื่อนบ้านเราเนี้ย แต่ดูแกไปครั้งแรกนี้จะไปอเมริกาเลยยยย นังอ้วน )



ตอนไปพกกล้องตัวนี้ไปด้วยค่ะ เป็นกล้องฟิลม์ แบบสมัยโบราณหน่อยแต่คลาสสิกค่ะ เพราะอยากจะลอง Back to basic  แต่ตัวนี้เป็นสองระบบค่ะ และหนักมากกกกกกก ตอนเอาไปใส่คอที หื้มมม หนัก แต่ชอบรูปที่ออกมาค่ะ มันดูเป็นธรรมดีค่ะ แถมบางรูปเราปรับแสงมั่วๆ มันออกมานัวๆ แปลกๆ ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ค่ะ

วาฬจะเขียนและแปะภาพแบบคร่าวๆนะคะ จำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด ตอนแรกๆจริงไม่เคยคิดจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวครั้งแรกของตัวเอง เพราะมันพลาดไปหลายอย่างค่ะ ไม่เคยมีประสบการณ์ บางอย่างก็พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลองดูกันนะคะ


วันเดินทาง,



กระเป๋าลากใบใหญ่เอาไว้ที่โรงแรมแบบทิ้งไว้เลยค่ะ ส่วนเป้ใบเล็ก อันนี้แอบเจ็บใจค่ะ ตอนซื้อมาเสียดายเงินมากค่ะ ราคาแพงพอสมควรแถมกระเป๋าเล็กๆด้านบนก็ไม่มีที่เกียวแบบล็อคแน่นๆ มีแต่สายคล้องกับเหล็กแต่หลุดง่ายไปหน่อยค่ะ เป้เอาไว้ไปในเมืองค่ะ เพราะสถานทีพักกับในเมือง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที แบบการจารจรไม่ติดขัดค่ะ

อีกอย่างค่ะ วาฬกับเพื่อนเปลี่ยนแผนนิดหน่อยค่ะ เรากับเพื่อนจะไปกันคนละครึ่งทางค่ะ พอไปถึงเราจะแยกกันไปค่ะ ไม่ได้มีอะไรในก่อไผ่ค่ะ วาฬอยากให้เค้าเที่ยวกับเพื่อนสนิท กับแฟนเค้าให้สนุกค่ะ เราเองก็มีญาติห่างๆอยู่ค่ะ


หลังจากเครื่องขึ้น ก็ต้องแว๊ะไปดูไบค่ะ



อันนี้ลองกล้องฟิล์มดูบ้างค่ะ ฝากเค้าถือโทรศํพท์ค่ะ


ตื่นเต้น อีก 5 ชั่วโมงเองค่ะ นั่งนานปวดหลังเหมือนกันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่