เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่จะได้ใช้น้ำมันราคาถูกลง โดย กบง. ได้มีมติให้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันและภาษีสรรพสามิตลง อย่างไรก็ตามแม้น้ำมันจะมีราคาถูกลง ก็ยังอยากให้ช่วยกันใช้น้ำมันอย่างประหยัด เพราะประเทศไทยยังต้องนำเข้าน้ำมันอยู่ และ อยากขอให้คำนึงกว่ากองทุนน้ำมันที่ยังติดลบอยู่ประมาณ 7,646 ล้านบาท จะหารายได้จากที่ไหน อีกทั้งยังต้องชดเชยราคาก๊าซแอลพีจีอยู่

ดังนั้นแผนงานการลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีจะเป็นอย่างไร เพื่อไม่เป็นภาระกับกองทุนน้ำมันที่จะมีรายได้น้อยลง อีกทั้งในกรณีราคาน้ำมันผันผวน จะหาเงินจากไหนมาช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาในภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเกิดผันผวน เมื่อกองทุนน้ำมันขาดทุนมาก อีกทั้งการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลง ทำให้รัฐขาดรายได้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ก็มีปัญหาอยู่แล้ว อีกทั้งรัฐไม่ได้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลมาหลายปีแล้วด้วย ขาดรายได้ไปปีละกว่าแสนล้านบาท ซึ่งรายได้เหล่านี้ควรนำไปใช้ในการสร้างและซ่อมแซมปรับปรุงถนน จึงอยากให้คำนึงว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้นานขนาดไหนและจะหารายได้จากไหนมาชดเชยอย่างไร การดำเนินการเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมีผลกระทบมาก จึงอยากขอให้คำนึงให้ครบทุกด้าน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409310942