อาตมาเป็นพระนวกะ เพิ่งบวชเมื่อก่อนเข้าพรรษานี้ มีเรื่องอยากสอบถามผู้รู้บาลีและธรรมเนียมปฏิบัติ
จากการที่อาตมาต้องการทำแบบคำสวดไว้ให้ญาติโยมไว้ใช้ตอนมาถวายสังฆทานหรือทำบุญ
เพื่อที่พระจะได้ไม่ต้องว่านำซึ่งอาตมาเกรงว่าจะผิดวินัยที่ว่า ห้ามกล่าวธรรมพร้อมอนุปสัมบัน อีกทั้งญาติโยมบางท่านก็ว่าตามไม่ค่อยถูกต้อง
และอยากจะใช้คำบาลีให้ถูกต้องถึงแม้จะทราบว่า
ปัจจัยสำคัญคือเจตนา แต่การที่ทำให้ถูกต้องทั้งกาย วาจา และใจ ย่อมดีกว่า (ปัจจุบันใช้การพูดภาษาไทยร่วมด้วย)
แต่เนื่องจากอาตมาไม่มีความรู้บาลี ประกอบกับที่วัดก็ไม่มีผู้แตกฉานจึงอยากสอบถามผู้รู้ทั้งหลาย
อาตมาได้จัดทำตัวอย่างไว้ดังนี้ รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขจุดผิดพลาดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลำดับบทสวดมนต์ในการถวายสังฆทาน
ผู้ถวาย บูชาพระรัตนตรัย
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามะ (คนเดียวใช้ อภิปูชะยามิ)
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามะ (คนเดียวใช้ อภิปูชะยามิ)
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามะ (คนเดียวใช้ อภิปูชะยามิ)
ผู้ถวาย กราบพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
ส์วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ.
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.
ผู้ถวาย อาราธนาศีล ๕
มะยัง(คนเดียวใช้ อะหัง) ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ(คนเดียวใช้ ยาจามิ)
ทุติยัมปิ มะยัง(คนเดียวใช้ อะหัง) ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ(คนเดียวใช้ ยาจามิ)
ตติยัมปิ มะยัง(คนเดียวใช้ อะหัง) ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ(คนเดียวใช้ ยาจามิ)
ฟังพระสงฆ์ให้ศีล แล้วกล่าวตามทีละท่อน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฺฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฺฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฺฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ อทินนาทานา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ มุสาวาทา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ (จบการว่าตาม)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ (รับว่า สาธุ) สีเลนะ โภคะสัมปะทา (รับว่า สาธุ) สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัส์มา สีลัง วิโสธะเย (รับว่า สาธุ)
ถวายไทยธรรม
คำถวายข้าวบูชาพระพุทธคุณ
อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมะ(คนเดียวว่า ปูเชมิ)
ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)ขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับและน้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า
คำถวายสังฆทาน/ถวายเจาะจงภิกษุ
อิมานิ(อยู่ไกล เอตานิ) มะยัง(คนเดียวว่า อะหัง) ภันเต ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ(ถวายเจาะจงภิกษุ อัยยัสสะ, เจาะจงหลายรูป อัยยานัง),
โอโณชะยามะ(ของชิ้นใหญ่ นิยยาเทมะ), สาธุ โน(คนเดียวว่า เม) ภันเต, ภิกขุสังโฆ(ถวายเจาะจงภิกษุ อัยโย, เจาะจงหลายรูป อัยยา)
อิมานิ(อยู่ไกล เอตานิ) ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง(คนเดียวว่า มะมะ), ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ.
ข้าแต่สงฆ์(พระสงฆ์)ผู้เจริญ ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)ขอน้อมถวายซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร ทั้งหลายเหล่านี้(เหล่านั้น)แด่สงฆ์(พระสงฆ์) ขอสงฆ์(พระสงฆ์)จงรับซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวารทั้งหลาย เหล่านี้(เหล่านั้น)เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)สิ้นกาลนานเทอญ
คำถวายอุทิศให้ผู้ตาย
อิมานิ(อยู่ไกล เอตานิ) มะยัง(คนเดียวว่า อะหัง) ภันเต มะตะกะภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ(ถวายเจาะจงภิกษุ อัยยัสสะ, เจาะจงหลายรูป อัยยานัง) โอโณชะยามะ(ของชิ้นใหญ่ นิยยาเทมะ), สาธุ โน(คนเดียวว่า เม) ภันเต, ภิงกขุสัโฆ(ถวายเจาะจงภิกษุ อัยโย, เจาะจงหลายรูป อัยยา)
อิมานิ(อยู่ไกล เอตานิ) มะตะกะภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ญาตะกานัง(มาคนเดียวว่า ....??), ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ.
ข้าแต่สงฆ์(พระสงฆ์)ผู้เจริญ ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) ขอน้อมถวายมตกภัตตาหาร กับทั้งบริวาร เหล่านี้ แก่สงฆ์(พระสงฆ์) ขอสงฆ์(พระสงฆ์)จงรับมตกภัตตาหาร กับทั้งบริวารเหล่านี้ ของข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)ด้วย แก่ญาติของข้าพเจ้า(ทั้งหลาย) มีมารดาบิดา เป็นต้น ผู้ทำกาละล่วงลับไปแล้วด้วย สิ้นกาลนานเทอญ
พระสงฆ์ว่าบทกรวดน้ำ
พอขึ้น ยถา วารี.....(ให้กรวดน้ำ) เมื่อขึ้นว่า สัพพี ติโย...(ให้ประนมมือรับพร)
ผู้ถวาย กราบพระรัตนตรัย (พร้อมกัน)
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ.
ส์วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ.
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.
ข้อที่อยากถามเป็นพิเศษมีดังนี้
๑.คนว่านำ(มัคนายก) ควรจะสวดว่า "มิ" หรือ "มะ" หรือว่าถ้าให้คนว่าตามก็ใช้ "มิ" แต่ถ้าว่าแทนใช้ "มะ" หรือถ้าว่าพร้อมกันใช้ อะไรก็ได้ (ยกตัวอย่างตอนทำวัตร "อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ" แต่ตอน "อะระหัง สัมมา..." ลงด้วย "มิ" หมดเลย)
๒.ในบท "อะระหัง สัมมา..." ทำไมการเคารพพระพุทธ(อภิวาเทมิ) พระธรรม(นมัสสามิ) พระสงฆ์(นะมามิ) ถึงใช้คำต่างกัน แต่ใช้การกราบเหมือนกันหมด ที่จริงต่างกันหรือไม่ แล้วบางครั้งก็มีคำว่า "วันทามิ" แต่อาตมาก็ใช้กราบหมดเพราะแสดงการนอบน้อมสูงที่สุด
๓.คำถวายข้าวพระพุทธ ทำไมใช้ "อิมัง" ของหลายอย่างน่าจะใช้ "อิมานิ" แล้ว ทำไมถึงต้องมี "สาลีนัง" "โภชะนัง" ก็น่าจะรวมสาลีนังไปแล้วหรือไม่(โภชนะ ๕ คือ ข้าวสุก ขนมสด ขนมแห้ง ปลา เนื้อ) หรือควรจะใช้ประโยคอื่นใด
๔.คำถวายข้าวพระสงฆ์หรืออุทิศผู้ตาย หรือตอนทำบุญ อาหารวางอยู่ไกลตัว(เกินหัตถบาส) ควรจะใช้ "เอตานิ" แทน "อิมานิ" ใช่หรือไม่ แต่ส่วนใหญ่เห็นใช้ "อิมานิ" นำกันหมด ยกเว้นบทถวายสลากภัต
๕.ตรงท่อน "อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ญาตะกานัง" ถ้ามาถวายคนเดียวควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร
เจริญธรรม
ปล.ในฉบับจริงจะมีคำแปลทุกบท เพื่อให้ญาติโยมเข้าใจความหมายที่ตนเองเอ่ยและที่พระสวดด้วย
ปลปล.โยมบางท่านอาจจะคิดว่าเป็นพระทั้งทีไม่รู้ แต่อาตมาก็ไม่เคืองหรอก เพราะถ้ามันจะช่วยให้ญาติโยมได้ความรู้ที่ถูกต้อง และบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไปได้
อาตมาขอสอบถามผู้รู้บาลี และพุทธธรรมเนียมปฏิบัติ
จากการที่อาตมาต้องการทำแบบคำสวดไว้ให้ญาติโยมไว้ใช้ตอนมาถวายสังฆทานหรือทำบุญ
เพื่อที่พระจะได้ไม่ต้องว่านำซึ่งอาตมาเกรงว่าจะผิดวินัยที่ว่า ห้ามกล่าวธรรมพร้อมอนุปสัมบัน อีกทั้งญาติโยมบางท่านก็ว่าตามไม่ค่อยถูกต้อง
และอยากจะใช้คำบาลีให้ถูกต้องถึงแม้จะทราบว่าปัจจัยสำคัญคือเจตนา แต่การที่ทำให้ถูกต้องทั้งกาย วาจา และใจ ย่อมดีกว่า (ปัจจุบันใช้การพูดภาษาไทยร่วมด้วย)
แต่เนื่องจากอาตมาไม่มีความรู้บาลี ประกอบกับที่วัดก็ไม่มีผู้แตกฉานจึงอยากสอบถามผู้รู้ทั้งหลาย
อาตมาได้จัดทำตัวอย่างไว้ดังนี้ รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขจุดผิดพลาดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อที่อยากถามเป็นพิเศษมีดังนี้
๑.คนว่านำ(มัคนายก) ควรจะสวดว่า "มิ" หรือ "มะ" หรือว่าถ้าให้คนว่าตามก็ใช้ "มิ" แต่ถ้าว่าแทนใช้ "มะ" หรือถ้าว่าพร้อมกันใช้ อะไรก็ได้ (ยกตัวอย่างตอนทำวัตร "อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ" แต่ตอน "อะระหัง สัมมา..." ลงด้วย "มิ" หมดเลย)
๒.ในบท "อะระหัง สัมมา..." ทำไมการเคารพพระพุทธ(อภิวาเทมิ) พระธรรม(นมัสสามิ) พระสงฆ์(นะมามิ) ถึงใช้คำต่างกัน แต่ใช้การกราบเหมือนกันหมด ที่จริงต่างกันหรือไม่ แล้วบางครั้งก็มีคำว่า "วันทามิ" แต่อาตมาก็ใช้กราบหมดเพราะแสดงการนอบน้อมสูงที่สุด
๓.คำถวายข้าวพระพุทธ ทำไมใช้ "อิมัง" ของหลายอย่างน่าจะใช้ "อิมานิ" แล้ว ทำไมถึงต้องมี "สาลีนัง" "โภชะนัง" ก็น่าจะรวมสาลีนังไปแล้วหรือไม่(โภชนะ ๕ คือ ข้าวสุก ขนมสด ขนมแห้ง ปลา เนื้อ) หรือควรจะใช้ประโยคอื่นใด
๔.คำถวายข้าวพระสงฆ์หรืออุทิศผู้ตาย หรือตอนทำบุญ อาหารวางอยู่ไกลตัว(เกินหัตถบาส) ควรจะใช้ "เอตานิ" แทน "อิมานิ" ใช่หรือไม่ แต่ส่วนใหญ่เห็นใช้ "อิมานิ" นำกันหมด ยกเว้นบทถวายสลากภัต
๕.ตรงท่อน "อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ญาตะกานัง" ถ้ามาถวายคนเดียวควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร
เจริญธรรม
ปล.ในฉบับจริงจะมีคำแปลทุกบท เพื่อให้ญาติโยมเข้าใจความหมายที่ตนเองเอ่ยและที่พระสวดด้วย
ปลปล.โยมบางท่านอาจจะคิดว่าเป็นพระทั้งทีไม่รู้ แต่อาตมาก็ไม่เคืองหรอก เพราะถ้ามันจะช่วยให้ญาติโยมได้ความรู้ที่ถูกต้อง และบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไปได้