Love sick EP-4 ปุนเนียนปล้ำโน่ โน่สมยอม Y Day o_0

ตอนสี่ ปัญหาใหญ่สุดคือโปรดักชั่น สุดจะทน ทั้งภาพเบิร์น ทั้งอัดเสียงไดอะล็อก แอมเบี๊ยนกระจาย เข้าใจนะว่าน่าจะถ่ายเป็นซีนแรกๆตอนเปิดกล้อง อะไรๆก็เลยไม่เข้าท่า (เคยดูเบื้องหลัง)

ปัญหารองคือ การร้อยเรียงเรื่องราวบทรองๆ มาแบบงงๆ จบแบบงงๆ ไม่มีพ๊อย เพลียแทน ทำใจแพ่บ

แต่จุดแข็งของตอนนี้คือ การแสดงแบบเรียบง่าย เรียล แต่มากด้วยรายละเอียดของคู่ปุนโน่

ในตอนนี้ ปุนที่ใครๆหลายๆคนไม่ชอบการแสดงแข็งๆของน้องไวท์ในสามตอนที่ผ่านมาก็คงแปลกใจพอสมควร เพราะวันนี้น้องไวท์ as ปุน เล่นน้อยได้มาก
เป็นคนป่วยที่ป่วยจริงๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ดูจากสายตาปุนพิฆาตโน่วันนี้ สมควรแล้วที่โน่จะต้องโดดเรียน 555

ที่ต้องกล่าวถึง และชื่นชมจริงๆอีกคน และขอชื่นชมย้อนหลังไปอีกสามตอนก็คือน้องกัปตัน as โน่ ... น้องกัปตัน เป็นเทพการแสดงแบบ organic acting ของจริง
ทั้งความสด การอิมโพรไวซ์ เล่นไปด้วย คิดไปด้วย แม้จะมีฉากชวนจิ้น ชวนมโน ตามบทนิยาย ... แต่สุดท้าย กัปตันได้ใส่ความจริงใจลงในการแสดงจนตอนนี้ เราแทบจะแยกกัปตันออกจากโน่ไม่ออก

อันที่จริง ขณะที่เขียนกระทู้นี้ ก็เพิ่งดูซีรี่ย์ฮอร์โมนย้อนหลังจบ ต่อด้วย love sick  ความรู้สึกมันแตกต่างกันเยอะพอควร
เปรียบไป ฮอร์โมนก็เหมือนตึกสูง มีโครงสร้าง มีรากฐาน ที่ไปที่มา มีพล็อตเรื่องเป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวโยงกัน ลำดับการเรียบเรียง จนจบตอนและผูกเรื่องเข้าสู่ตอนใหม่ พูดเป็นภาษาหนังก็คือ เป็นหนังมีพล็อตสามองค์ชัดเจน และทำได้ดีและถึงในหลายๆตอนด้วย

ขณะที่ Love sick ก็เหมือน ทุ่งหญ้ากว้าง อาศัยสายลมแสงแดด (เคมีการแสดงของนักแสดง) นำพาเรื่องราวไปเรื่อยๆ เห็นเมฆฝนตั้งเค้าก็คิดว่าฝนจะตก แต่ผิดคาด ลมหอบไปตกที่อื่น เหลือแค่ลมโชยมาเย็นๆเท่านั้น
ลักษณะหนังเลยดูมีความเป็นส่วนตัวสูง (อินดี้) ภาษาหนังคือ หนังจำพวก minimal  ไม่เน้นพล็อต แต่เน้นห้วงอารมณ์ และห้วงความรู้สึกนำพาล่องลอยไป ... แน่นอนว่าใน Love sick นั้น ก็มีรูปแบบที่กล่าวถึงอยู่เสียเป็นส่วนมาก ถึงหรือไม่ถึง เราค่อยวิเคราะห์กันต่อไป

ดังนั้นวิธีคิดของผู้กำกับซีรีย์ทั้งสองจำเป็นต้องเผชิญกับโจทย์การกำกับที่แตกต่างกัน เหมือนสมองซีกซ้ายกับซีกขวา ฝ่ายหนึ่งเน้นเหตุผลและความสมเหตุสมผลเป็นหลัก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเน้นที่ห้วงอารมณ์และให้วันเวลาพัดพาไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องพาตัวเองไปยังฝั่งฝันที่เฝ้ารอเหมือนๆกัน
ที่นี้ก็เหลือแต่ผู้รับสาร (ผู้ชม) ว่าจะฟินยังไงแค่ไหน ประสบการณ์ส่วนบุคคลจะบอกเราเอง

ขอบโทษผู้อ่านกระทู้ด้วยนะ เขียนไปเขียนมารู้สึกออกทะเลไปเยอะ 55555 ..... แต่ช่างเถอะ กระแสมโนกะลังดัง ต้องให้อภัยกันบ้าง >_<
เอาไว้ดูหลายๆตอนแล้วจะมาเขียนรีวิวทั้งสองซีรีย์อีกทีละกันนะ ทั้ง ฮอร์โมน ss2 ทั้ง Love sick ss1

ปล. รู้สึกดีนะที่ประเทศเรามีซีรี่ย์ที่มีความเป็น"ภาพยนตร์" เหมือนแบบประเทศอื่นๆเค้าบ้าง ปกติก็จะมีแต่ละครก่อนข่าวหลังข่าว คือมันไม่ค่อยถูกจริตความเชื่อของเราเท่าไหร่น่ะ เราดูละครทีไร เราไม่รู้สึกอินกับวิธีการแสดงของนักแสดงละครเลย (หรือเราผิดว้า 5555)

ByE bYe
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  Love Sick The Series ละครโทรทัศน์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่