ขอต้อนรับน้องๆเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย รั้วใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิมแน่นอน
พอพวกพี่เห็นน้องๆ ก็รู้สึกดีใจมากจริงๆ มีคนมาร่วมชะตากรรมกับเราแล้ว ><
เห็นน้องๆหน้าใสๆ หน้าตาน่าเอ็นดูสุดๆ
ช่วงนี้เชื่อว่าน้องๆหลายคนกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัยกันแล้ว
บางคนมานอนอยู่หอในแล้วใช่ไหม เพราะมีกิจกรรมให้น้องๆเตรียมตัวปรับพื้นฐานก่อนเปิดเรียน
ปีการศึกษานี้พิเศษกว่าใครเพื่อนเริ่มเปิดเทอม 1 เดือนสิงหาคมเพื่อเตรียมเปิดสู่อาเซียนกัน
ปิดเทอมกันยาว ฟินกันหล่ะสิ 555
อยากบอกน้องๆว่า ชีวิตในรั้วใหม่นี้ต่างชีวิตในรั้วเดิมที่น้องจากมาอย่างสิ้นเชิง
หลังจากนี้ต่อไปเราเดินออกจากรั้วสนามเด็กเล่น เข้าสู่รั้วสนามแข่งขัน แล้วน่ะ
น้องกำลังเดินเข้าสู่สังคมใหม่ ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ขอให้น้องๆ อย่าตกใจ หรือกังวล
ปรับตัวให้ได้เร็ว ยิ่งเร็วยิ่งมีผลดีกับน้อง
นึกภาพต้นไม้ที่ถูกขนส่งไกลๆ แล้วมันดูเฉาๆเหี่ยวลงออกไหม
ต้นไหนที่ฟื้นตัวเร็ว
ต้นนั้นก็จะเติบโตเร็ว
บางคนมาจากต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพฯ
บางคนมาจากภาคใต้มาเรียนทางภาคเหนือ
ขณะที่บางคนมาจากเหนือลงไปเรียนภาคใต้
จากบ้านไปหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อไปศึกษาเล่าเรียน
อะไรๆก็ไม่เหมือนกับสถานที่เดิมที่เคยจากมา
อาหารก็ไม่คุ้นปาก ภาษาก็ไม่คุ้น อากาศก็ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย
การเดินทางก็สุดแสนจะลำบาก
แต่สิ่งเหล่านี้น้องๆได้เลือกแล้วจริงไหม
ดังนั้น จงอยู่กับมันให้ได้
และจดจ่อที่หน้าที่ของตัวเอง
คือตั้งใจเรียนหนังสือ
น้องบางคนอาจเป็นคนเดียวจากโรงเรียนน้องมาอยู่ในสังคมใหม่นี้
หรือน้องบางคนอาจมากันหลายคน ก็ไม่เหงา
ดังนั้นน้องๆอย่าลืมเดินไปทักทายเพื่อนน้อง ที่เห็นเขาเดินอยู่คนเดียว
บางทีน้องอาจจะได้เพื่อนดีๆ จากเหตุการณ์นี้ก็เป็นได้
ในชั้น ปี 1 น้องๆจะได้จัดให้อยู่หอในของมหาวิทยาลัยถูกไหม
วันแรกของการเปิดเทอม น้องใหม่ปี 1 ทุกคนจะกระตือรือร้นในการไปเรียนมาก
ดังนั้นทุกคนก็จะหวังใจว่าเราจะนั่งรถที่วิ่งภายในมอเพื่อเดินทางไปยังห้องเรียน
แต่... น้องจะพบว่ามีเพื่อนน้องอีกนับร้อยก็ออกมารอรถเช่นเดียวกัน
ดังนั้นน้องๆควรวางแผนว่าจะไปเข้าเรียนทันตามเวลาตารางเรียนหรือเปล่า
ซึ่งอันนี้สำคัญ เพราะคาบแรกของการเรียน อาจารย์จะชี้แจงภาพรวมของการเรียนรวมถึงคะแนน งานที่ต้องทำส่งเพิ่ม
น้องๆควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางในวันที่เปิดเทอมวันแรกด้วยเพื่อจะไม่พลาดคาบสำคัญนี้
วันแรกของการเปิดเรียนจะไม่เหมือนเปิดเรียนโรงเรียนอีกต่อไป
ไม่มีเข้าแถวเคารพธงชาติ ไม่มีสวดมนต์ หรือ แผ่เมตตา
ไม่มีสมุดมาแจก ไม่มีหนังสือมาแจก อีกต่อไป
น้องต้องเตรียมสมุดเปล่า ปากกา ดินสอ สี ไฮไลท์ ฯลฯ ของน้องให้พร้อม
พี่อยากแนะนำว่าให้มีสมุดปฏิทินของตัวเองสักเล่มหนึ่งไว้จด
เราจะจดอะไรในสมุดปฏิทิน
จดกำหนดการต่างๆ เช่น วันส่งงาน วันสอบย่อย วันทำกิจกรรม
ข้อดี คือ น้องๆจะได้ไม่ลืมว่า เราต้องทำอะไรวันไหนบ้าง
การเรียนในมหาวิทยาลัยมักจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อน้องขึ้นปีสูงๆต่อไป มันจะยากและโหดขึ้น
ใครที่คิดว่าตัวเองเรียนสายที่ง่ายๆ
อย่าคิดว่าเรียนๆเล่นๆ ให้พอผ่านพอ
อยากให้น้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเลย
ว่าเราจะ 4.00 ตั้งไว้สูงๆ ตกลงมาจะได้ไม่เจ็บมาก
แบ่งเวลาให้ดีๆ อ่านหนังสือไว้เนิ่นๆ เมื่อใกล้ๆสอบจะได้ไม่ลน(เหมือนพี่เพราะอ่านไม่ทัน อ่านไม่จำ ฮาา)
เพราะปี 1 กิจกรรมจะเยอะมากๆ
เตือนไว้ก่อนเลยว่า
บางคนได้ สามจุด สี่จุด จากโรงเรียน
เกรดมหาวิทยาลัยน้องจะร่วงลงมาที่สองจุดได้เลย หากไม่ตั้งใจ
ซี่งเนื้อหาที่เรียนในปี 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นฐานเพื่อต่อยอดต่อไป
อยากให้น้องๆ เก็บเกรดปี 1 ไว้เยอะๆเอาไว้เฉลี่ยกับตอนขึ้นปีสูงๆ(เกรดจะดิ่งลงเหวมากก)
พอมาเฉลี่ยๆแล้วจะได้ไม่น่าเกลียดมาก เข้าใจไหมเนี่ย
จะบอกว่ากิจกรรมเป็นสิ่งที่ดีมากๆด้วยเช่นกัน
จะทำให้น้องๆได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ สาขา
หรือรู้จักเพื่อนในคณะตัวเองมากขึ้น
น้องจะได้รู้ว่าในสังคมนี้มีคนที่ต่างจากเรามากมาย และมีคนที่สนใจอะไรคล้ายๆเราก็มี(ฉันก็ไม่ได้เป็นคนประหลาดนิ)
สิ่งสุดท้ายอยากฝากน้องๆที่กำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยว่า
ให้คิดถึงหน้าคนที่ส่งเรามาร่ำเรียนให้มากๆ
สงสัยอะไร มีปัญหาอะไร ในรั้วแห่งใหม่นี้
ลองคุยกับรุ่นพี่ดู เพราะพี่เชื่อว่าปัญหาที่น้องเจอรุ่นพี่ของน้องก็เจอมาแล้วแน่นอน
พวกเขาจะสามารถแนะนำน้องได้
สำคัญมาก อย่าทำตัวเหลวไหล
อาจารย์มหาวิทยาลัยของพี่คนหนึ่งเคยเปรยกับพี่ว่า
อ.อยากสอนลูกศิษย์ของอาจารย์ให้ได้ความรู้กลับไปเยอะๆน่ะ
แต่ทำไมบางคนมาเรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน มาถึงก็คุยกัน
พอสอบ ก็ทำข้อสอบทำไม่ได้ ก็มาขอให้ช่วย
อาจารย์ก็ลำบากใจ
บางคน มาเรียน เรียนๆไปโดนเชิญออกอัตโนมัติเพราะเกรดไปถึง(ระวังน่ะน้องที่รัก)
ต้องกลับบ้านไป บางคนไม่ได้กลับไปเปล่าๆ
เอาหนี้ กยศ.กลับไปด้วย บางคนเอาลูกกลับไปด้วย!!!
ดังนั้น น้องๆ จงอย่าลืมหน้าที่ของตัวเอง
เรามาทำอะไรอะไรที่แห่งนี้ ลองถามตัวเองดู
พี่เป็นกำลังใจให้น่ะ
ปล.รุ่นพี่ใครมีอะไรเพิ่มเติมสามารถเพิ่มเติมได้เลยน่ะ ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้องๆกัน
จากรุ่นพี่ถึงน้องๆที่กำลังก้าวเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย
พอพวกพี่เห็นน้องๆ ก็รู้สึกดีใจมากจริงๆ มีคนมาร่วมชะตากรรมกับเราแล้ว ><
เห็นน้องๆหน้าใสๆ หน้าตาน่าเอ็นดูสุดๆ
ช่วงนี้เชื่อว่าน้องๆหลายคนกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัยกันแล้ว
บางคนมานอนอยู่หอในแล้วใช่ไหม เพราะมีกิจกรรมให้น้องๆเตรียมตัวปรับพื้นฐานก่อนเปิดเรียน
ปีการศึกษานี้พิเศษกว่าใครเพื่อนเริ่มเปิดเทอม 1 เดือนสิงหาคมเพื่อเตรียมเปิดสู่อาเซียนกัน
ปิดเทอมกันยาว ฟินกันหล่ะสิ 555
อยากบอกน้องๆว่า ชีวิตในรั้วใหม่นี้ต่างชีวิตในรั้วเดิมที่น้องจากมาอย่างสิ้นเชิง
หลังจากนี้ต่อไปเราเดินออกจากรั้วสนามเด็กเล่น เข้าสู่รั้วสนามแข่งขัน แล้วน่ะ
น้องกำลังเดินเข้าสู่สังคมใหม่ ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ขอให้น้องๆ อย่าตกใจ หรือกังวล
ปรับตัวให้ได้เร็ว ยิ่งเร็วยิ่งมีผลดีกับน้อง
นึกภาพต้นไม้ที่ถูกขนส่งไกลๆ แล้วมันดูเฉาๆเหี่ยวลงออกไหม
ต้นไหนที่ฟื้นตัวเร็ว
ต้นนั้นก็จะเติบโตเร็ว
บางคนมาจากต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพฯ
บางคนมาจากภาคใต้มาเรียนทางภาคเหนือ
ขณะที่บางคนมาจากเหนือลงไปเรียนภาคใต้
จากบ้านไปหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อไปศึกษาเล่าเรียน
อะไรๆก็ไม่เหมือนกับสถานที่เดิมที่เคยจากมา
อาหารก็ไม่คุ้นปาก ภาษาก็ไม่คุ้น อากาศก็ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย
การเดินทางก็สุดแสนจะลำบาก
แต่สิ่งเหล่านี้น้องๆได้เลือกแล้วจริงไหม
ดังนั้น จงอยู่กับมันให้ได้
และจดจ่อที่หน้าที่ของตัวเอง
คือตั้งใจเรียนหนังสือ
น้องบางคนอาจเป็นคนเดียวจากโรงเรียนน้องมาอยู่ในสังคมใหม่นี้
หรือน้องบางคนอาจมากันหลายคน ก็ไม่เหงา
ดังนั้นน้องๆอย่าลืมเดินไปทักทายเพื่อนน้อง ที่เห็นเขาเดินอยู่คนเดียว
บางทีน้องอาจจะได้เพื่อนดีๆ จากเหตุการณ์นี้ก็เป็นได้
ในชั้น ปี 1 น้องๆจะได้จัดให้อยู่หอในของมหาวิทยาลัยถูกไหม
วันแรกของการเปิดเทอม น้องใหม่ปี 1 ทุกคนจะกระตือรือร้นในการไปเรียนมาก
ดังนั้นทุกคนก็จะหวังใจว่าเราจะนั่งรถที่วิ่งภายในมอเพื่อเดินทางไปยังห้องเรียน
แต่... น้องจะพบว่ามีเพื่อนน้องอีกนับร้อยก็ออกมารอรถเช่นเดียวกัน
ดังนั้นน้องๆควรวางแผนว่าจะไปเข้าเรียนทันตามเวลาตารางเรียนหรือเปล่า
ซึ่งอันนี้สำคัญ เพราะคาบแรกของการเรียน อาจารย์จะชี้แจงภาพรวมของการเรียนรวมถึงคะแนน งานที่ต้องทำส่งเพิ่ม
น้องๆควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางในวันที่เปิดเทอมวันแรกด้วยเพื่อจะไม่พลาดคาบสำคัญนี้
วันแรกของการเปิดเรียนจะไม่เหมือนเปิดเรียนโรงเรียนอีกต่อไป
ไม่มีเข้าแถวเคารพธงชาติ ไม่มีสวดมนต์ หรือ แผ่เมตตา
ไม่มีสมุดมาแจก ไม่มีหนังสือมาแจก อีกต่อไป
น้องต้องเตรียมสมุดเปล่า ปากกา ดินสอ สี ไฮไลท์ ฯลฯ ของน้องให้พร้อม
พี่อยากแนะนำว่าให้มีสมุดปฏิทินของตัวเองสักเล่มหนึ่งไว้จด
เราจะจดอะไรในสมุดปฏิทิน
จดกำหนดการต่างๆ เช่น วันส่งงาน วันสอบย่อย วันทำกิจกรรม
ข้อดี คือ น้องๆจะได้ไม่ลืมว่า เราต้องทำอะไรวันไหนบ้าง
การเรียนในมหาวิทยาลัยมักจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อน้องขึ้นปีสูงๆต่อไป มันจะยากและโหดขึ้น
ใครที่คิดว่าตัวเองเรียนสายที่ง่ายๆ
อย่าคิดว่าเรียนๆเล่นๆ ให้พอผ่านพอ
อยากให้น้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเลย
ว่าเราจะ 4.00 ตั้งไว้สูงๆ ตกลงมาจะได้ไม่เจ็บมาก
แบ่งเวลาให้ดีๆ อ่านหนังสือไว้เนิ่นๆ เมื่อใกล้ๆสอบจะได้ไม่ลน(เหมือนพี่เพราะอ่านไม่ทัน อ่านไม่จำ ฮาา)
เพราะปี 1 กิจกรรมจะเยอะมากๆ
เตือนไว้ก่อนเลยว่า
บางคนได้ สามจุด สี่จุด จากโรงเรียน
เกรดมหาวิทยาลัยน้องจะร่วงลงมาที่สองจุดได้เลย หากไม่ตั้งใจ
ซี่งเนื้อหาที่เรียนในปี 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นฐานเพื่อต่อยอดต่อไป
อยากให้น้องๆ เก็บเกรดปี 1 ไว้เยอะๆเอาไว้เฉลี่ยกับตอนขึ้นปีสูงๆ(เกรดจะดิ่งลงเหวมากก)
พอมาเฉลี่ยๆแล้วจะได้ไม่น่าเกลียดมาก เข้าใจไหมเนี่ย
จะบอกว่ากิจกรรมเป็นสิ่งที่ดีมากๆด้วยเช่นกัน
จะทำให้น้องๆได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ สาขา
หรือรู้จักเพื่อนในคณะตัวเองมากขึ้น
น้องจะได้รู้ว่าในสังคมนี้มีคนที่ต่างจากเรามากมาย และมีคนที่สนใจอะไรคล้ายๆเราก็มี(ฉันก็ไม่ได้เป็นคนประหลาดนิ)
สิ่งสุดท้ายอยากฝากน้องๆที่กำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยว่า
ให้คิดถึงหน้าคนที่ส่งเรามาร่ำเรียนให้มากๆ
สงสัยอะไร มีปัญหาอะไร ในรั้วแห่งใหม่นี้
ลองคุยกับรุ่นพี่ดู เพราะพี่เชื่อว่าปัญหาที่น้องเจอรุ่นพี่ของน้องก็เจอมาแล้วแน่นอน
พวกเขาจะสามารถแนะนำน้องได้
สำคัญมาก อย่าทำตัวเหลวไหล
อาจารย์มหาวิทยาลัยของพี่คนหนึ่งเคยเปรยกับพี่ว่า
อ.อยากสอนลูกศิษย์ของอาจารย์ให้ได้ความรู้กลับไปเยอะๆน่ะ
แต่ทำไมบางคนมาเรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน มาถึงก็คุยกัน
พอสอบ ก็ทำข้อสอบทำไม่ได้ ก็มาขอให้ช่วย
อาจารย์ก็ลำบากใจ
บางคน มาเรียน เรียนๆไปโดนเชิญออกอัตโนมัติเพราะเกรดไปถึง(ระวังน่ะน้องที่รัก)
ต้องกลับบ้านไป บางคนไม่ได้กลับไปเปล่าๆ
เอาหนี้ กยศ.กลับไปด้วย บางคนเอาลูกกลับไปด้วย!!!
ดังนั้น น้องๆ จงอย่าลืมหน้าที่ของตัวเอง
เรามาทำอะไรอะไรที่แห่งนี้ ลองถามตัวเองดู
พี่เป็นกำลังใจให้น่ะ
ปล.รุ่นพี่ใครมีอะไรเพิ่มเติมสามารถเพิ่มเติมได้เลยน่ะ ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้องๆกัน