มีคนไปแก้กฎหมายให้ศาลตัดสินย้อนหลังทักษิณ  คดีเมียซื้อผัวเซ็น คนขายไม่ผิด คนซื้อไม่ผิด  แต่คนเซ็นผิดติดคุก 2 ปี..มันก็เชื่อ

มีคนใช้พจนานุกรม  ตัดสินนายสมัครพ้นตำแหน่งนายกฯ คดีเคาะกระทะดังไปหน่อย ทำให้ชาวบ้านตกใจ..มันก็เชื่ออีก

มีคนสั่งยุบพรรคพลังประชาชน คดีซื้อเสียง พยาน 9 คนบอกไม่ได้ซื้อ แต่ 1 คนบอกว่าซื้อ  ไม่ฟัง 9 คน ฟังคน 1 คน..มันก็ยังเชื่อ

มีคนตัดสินให้ยิ่งลักษณ์ผิดมาตรา 157 คดีจำนำข้าว หาข้อกฎหมายไม่ได้ ใช้หลักเศรษฐศาตร์ของ TDRI ตัดสินความผิด ..มันยังอุตส่าห์เชื่อ

หมายความว่าอาจไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง   มีแค่ความเชื่อกับไม่เชื่อที่ถูกยัดเยียดให้เท่านั้น

ส่วนในฝั่งพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ทำในสิ่งที่กฎหมายมาเอาผิดไม่ได้ บางคนจึงมีความจำเป็น

1.    ต้องแก้กฎหมายให้มีผลย้อนหลังเพื่อเอาผิด
2.    ต้องใช้พจนานุกรมตัดสิน (แบบสุกเอาเผากิน)
3.    ต้องใช้พยานข้างน้อยที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง
4.    สุดท้าย ต้องใช้วิชาเศรษฐศาสตร์มาตัดสิน

ทั้ง 4 กรณี ต่างกรรมต่างวาระ แต่ใช้วิธีการใกล้เคียงกัน  

นั่น เป็นเพราะคนพวกนี้ เก่งในการหาช่องโหว่ทางกฎหมาย  จนนักกฏหมายระดับเซียนก็ยังหาทางเอาผิดไม่ได้ ต้องไปงัดมุกอื่นๆมาประยุกต์ใช้..เพื่อเอาผิดให้ได้

หรือเพราะคนฝั่งเพื่อไทยทั้งหมด  ทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา จนคนเหล่านั้นไม่สามารถเอาผิดได้เลย  จึงหาทาง หาวิธี เอาผิดให้ได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ เอาด้วยคาถา..เพราะเกลียดเท่านั้น !!!